คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งเรื่องที่คนพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของบล็อคเชนและสกุลเงินดิจิทัล เช่น บิทคอยน์ แต่หารู้ไม่ว่า บล็อคเชนสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บข้อมูล
ถ้าให้อธิบายสั้นๆ บล็อคเชนคือเครือข่ายการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายอำนาจ (Decentralized) ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้ ดังนั้น เทคโนโลยีบล็อคเชนจะเข้ามาปฏิวัติกระบวนการทำงานในธุรกิจ โดยลดบทบาทของ “ตัวกลาง” ในการทำงาน จึงทำให้เกิดความเป็นธรรมและประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุด
บทความนี้จะพูดถึง 3 อุตสาหกรรมหลักที่เทคโนโลยีบล็อคเชนถูกนำมาใช้ในปัจจุบัน มาดูกันว่ามีอุตสาหกรรมอะไรบ้าง
บล็อคเชนกับภาคธุรกิจการเงิน
หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการเข้ามาของเทคโนโลยีบล็อคเชนคือ อุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร เทคโนโลยีบล็อคเชนจะเข้ามาปฏิวัติโลกการเงินยุคใหม่ เนื่องด้วยศักยภาพของบล็อคเชนที่สามารถเปลี่ยนแปลงการทำธุรกรรมและการทำธุรกิจด้านการเงิน เช่น การชำระเงิน บริการด้านการค้า การลงทุนและการบริหารความมั่งคั่ง และการซื้อขายหลักทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์ เทคโนโลยีบล็อคเชนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนหลักในการลดต้นทุนอย่างมหาศาล ผลสำรวจของ
Santander FinTech พบว่า เทคโนโลยีบล็อคเชนสามารถลดต้นทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินได้ประมาณ 15 ถึง 20 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
นอกเหนือจากการช่วยลดต้นทุนแล้ว เทคโนโลยีบล็อคเชนยังสามารถพัฒนารูปแบบการระดมทุนได้อีกด้วย จากการระดมทุนแบบดั้งเดิมด้วย Initial Public Offerings (IPO) มาเป็น Initial Coin Offerings (ICO) ซึ่งข้อดีของ ICO คือ ไร้พรมแดน เพราะ
cryptocurrency ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเทศใดโดยเฉพาะ ทำให้ทุกคนทั่วโลกสามารถซื้อขายมันได้ อีกทั้งข้อกำหนดและเงื่อนไขน้อยกว่าการระดมทุนแบบ IPO ทำให้ต้นทุนต่ำกว่าการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น แล
ะมีความโปร่งใสมากกว่า เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลทำงานอยู่บนเครือข่ายบล็อคเชนโดยใช้ Distributed Ledger Technology ในการจัดเก็บข้อมูล จึงไม่สามารถถูกควบคุมหรือแทรกแซงได้ ผู้ให้บริการด้าน ICO ก็มีหลากหลายที่ เช่น
บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (Bitkub Blockchain Technology) ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทยและให้บริการเป็นที่ปรึกษาในการออกเหรียญ ICO และ Blockchain Solution
ดังนั้นจากนี้ไปเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับธุรกิจภาคการเงิน ทั้งการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้แทนตัวกลางในระบบ และมีบริการทางการเงินในรูปแบบใหม่ รวมถึงปรากฏการณ์อื่นๆที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็อาจจะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการเงินอย่างเลี่ยงไม่ได้
บล็อคเชนกับการรับมือปัญหาคอร์รัปชัน
ประโยชน์ของบล็อคเชนไม่ได้อยู่แค่ในขอบเขตของธุรกิจการเงินเพียงเท่านั้น แต่มันยังสามารถนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ต้นเหตุหลักของการทุจริตคอร์รัปชันคือการที่มี ‘ตัวกลาง’ คอยควบคุมอยู่ เช่น ผู้มีอำนาจในโครงการบริจาคต่างๆ ถ้านำเทคโนโลยีบล็อคเชนเข้ามาใช้ เราจะสามารถตัดตัวกลางออกไปได้ และคาดว่าจะทำให้เงินบริจาคเข้าถึงผู้คนที่ต้องการอย่างไม่ตกหล่นต
ในสหราชอาณาจักร รัฐบาลได้ใช้เทคโนโลยีบล็อคเชน ในการติดตามเงินบริจาคให้กับผู้ด้อยโอกาส และการชำระเงินกู้เพื่อการศึกษา เพื่อลดปัญหาการทุจริตและจำนวนคดีฉ้อโกง โดยยกเลิกการใช้กระดาษในการจัดเก็บข้อมูล และหันมาใช้ออนไลน์แพลตฟอร์มที่ทำงานอยู่บนระบบบล็อคเชน ซึ่งจะสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินได้อย่างง่ายดาย
กรมศุลกากรของเกาหลีใต้กำลังพิจารณาที่จะใช้เทคโนโลยี บล็อคเชน ของซัมซุง มาเป็นส่วนสำคัญของระบบการเก็บภาษีศุลกากรแบบกระจายอำนาจ ระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อ “ปิดกั้นการปลอมแปลงเอกสาร” และทำให้กระบวนการทางศุลกากรมีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เพราะฉะนั้นเราไม่ควรมองข้ามเทคโนโลยีบล็อคเชน ซึ่งหากได้รับการพัฒนาก็สามารถนำมาแก้ปัญหาทั้งในภาครัฐและเอกชนได้
บล็อคเชนกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
อีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่บล็อคเชนจะมาปฏิวัตินั่นก็คือตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยการแปลงอสังหาฯและที่ดินให้กลายเป็นโทเค็น (Asset Tokenization) และใช้ Smart Contract กำหนดเงื่อนไขและข้อตกลงในการเป็นเจ้าของ Asset Tokenization จะเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถลงทุนในอสังหาฯได้ง่ายขึ้น และทำให้สภาพคล่องของทรัพย์สินนั้นมีมากขึ้น เราจะสามารถซื้อขายที่ดินได้แบบ peer-to-peer โดยที่ไม่ต้องมีตัวกลางอีกต่อไป ลองนึกภาพการซื้อขายที่ดินที่ไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่างหน่วยงานรัฐ แต่ซื้อขายอย่างง่ายดายด้วยโทเค็นผ่าน cryptocurrency exchange ทั้งนี้ บริษัทที่ให้บริการซื้อขายเหรียญคริปโตและโทเค็นในประเทศไทยก็มี
Bitkub.com ที่จดทะเบียนทำธุรกิจอย่างถูกต้อง
และสุดท้าย อุตสาหกรรมอื่นๆอีกมากมาย อาทิ พลังงาน การแพทย์ ดนตรี และเกษตรกรรม จะถูกปฏิวัติด้วยเทคโนโลยีบล็อคเชน ดังนั้นธุรกิจและหน่วยงานต่างๆ ต้องตื่นตัวและปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีใหม่ให้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะท้ายที่สุด บล็อคเชนจะต้องมีผลกระทบต่อโลกและการดำเนินชีวิตของเราไม่มากก็น้อย
