6 บริษัทในกลุ่มมิตรผล คว้า 'สุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทยประจำปี 2561” จาก เวที AON Best Employers Thailand 2018 บวรนันท์ ทองกัลยา เผย 4 กลยุทธ์หลักในการพัฒนาบุคลากร
“ปีนี้ มิตรผลได้ส่งบริษัทเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 6 บริษัท ประกอบด้วย โรงงานน้ำตาลมิตรผล ด่านช้าง โรงงานน้ำตาลสิงห์บุรี โรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ บริษัท มิตรผล ไบโอฟูเอล จำกัด (กาฬสินธุ์) บริษัท มิตรผล ไบโอฟูเอล จำกัด (ภูเขียว) บริษัท พาเนล พลัส จำกัด (หาดใหญ่) โดยทั้ง 6 บริษัทสามารถคว้ารางวัล สุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทยประจำปี 2561 ได้ทั้งหมด นับเป็นองค์กรที่ทำสถิติคว้ารางวัลมากที่สุดจากเวทีในปีนี้ และเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่มิตรผลได้รับรางวัล”
บวรนันท์ ทองกัลยา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานทรัพยากรบุคคลและบริหาร
กลุ่มมิตรผล กล่าวเริ่มต้นและเสริมว่า
รางวัลดังกล่าวแสดงถึงเจตนารมณ์และแนวทางในการบริหารงานทรัพยากรบุคคลของกลุ่มมิตรผล ภายใต้แนวคิด เชื่อมั่นในคุณค่าของคน ซึ่งกลุ่มมิตรผลให้ความสำคัญมาโดยตลอด
ปัจจุบันกลุ่มมิตรผลในประเทศไทยมีพนักงานราว 7,400 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือกลุ่มธุรกิจน้ำตาล กลุ่มธุรกิจพลังงาน และกลุ่มไม้ทดแทน ซึ่งในกลุ่มมิตรผลมีพนักงานในกลุ่ม Gen Y สูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของบริษัท
“ปัจจุบันพนักงานในกลุ่มมิตรผล 70 เปอร์เซ็นต์หลักเป็นคนในกลุ่มเจนเนอร์เรชั่น วาย อย่างกลุ่มเบบี้ บูมเมอร์ มีเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ความท้าทายของเราในฐานะบริหารงานบุคคลคือการหาแนวทางสร้างพนักงานในกลุ่มเจนเนอร์เรชั่น วาย และรวมถึงกลุ่มพนักงานในกลุ่มมิลเลนเนียมในการขับเคลื่อนบริษัทไปข้างหน้า พร้อมทำงานกับทุกกลุ่มวัยและทุกระดับในองค์กร” บวรนันท์ ทองกัลยา กล่าว
ทั้งนี้ บวรนันท์ เผยกลยุทธ์หลักในการสร้างความผูกพันกับพนักงานทุกระดับของกลุ่มมิตรผล แบ่งเป็น 4 แนวทาง ได้แก่
Inspirational Leader หรือ บทบาทของผู้นำในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงาน ผ่านการพูดคุยระหว่างผู้บริหารระดับสูงกับพนักงาน หรือการพัฒนาทักษะการโค้ชระดับหัวหน้างานเพื่อแนะนำและสอนงานให้กับทีมงาน
Open minded, Open door หรือการรับฟังความเห็นและเปิดโอกาสให้กับพนักงานในรูปแบบเป็นกันเอง
Empowering People การปลดปล่อยศักยภาพให้กับพนักงานแบบไม่มีผิดไม่มีถูก การนำเสนอโครงการต่างๆ ต่อผู้บริหารระดับสูง และ
Employee Experience หรือ การให้ความสำคัญกับพนักงาน เพิ่มเสริมสร้างขีดความสามารถของพนักงาน
“เราดูแลพนักงานตั้งแต่วันแรกของการทำงาน ตลอดหนึ่งปีแรกเรามีเปิดโอกาสในคุยถึงอุปสรรคและปัญหาของการทำงานเป็นระยะเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ปัญหาของพนักงานใหม่ที่เกิดขึ้นก่อนเกิดการลาออก อัตราการเทิร์นโอเวอร์ของเราต่ำกว่า 4-5 ปี ที่ผ่านมามาก โดยอัตราเฉลี่ยของพนักงานทั้งหมด รวมทั้งพนังงานรายเดือนและรายวัน ต่อปีอยู่ที่ราว 6 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลางที่ราว 12 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ถ้านับเฉพาะพนักงานรายเดือนอัตราเทิร์นโอเวอร์อยู่ที่ราว 4.3 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเท่านัั้น”