หากคุณมีประสบการณ์เลวร้ายกับการขึ้นเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไปและต้องการจะเปลี่ยนมาใช้เครื่องบินส่วนตัวในการเดินทาง นี่คือเครื่องบินส่วนตัว 5 รุ่นที่ไม่ควรพลาด อย่างไรก็ตามคุณอาจจะต้องอดใจรอหน่อย เพราะเครื่องบินเหล่านี้ยังไม่พร้อมใช้งานในปัจจุบัน แต่ก็ใกล้เต็มที โดยแต่ละรุ่นพร้อมบินขึ้นสู่อากาศได้จริงภายใน 3 ปี
1.Dassault Falcon
เครื่องบินรุ่น 5X จากผู้ผลิต Dassault Falcon จูงใจเศรษฐีด้วยนิยามสั้นง่ายได้ใจความว่า “เครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่สุดเท่าที่ Falcon เคยพัฒนา” เครื่องบินรุ่นนี้มีความสูงของเคบิน 6 ฟุต 6 นิ้ว ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในอุตสาหกรรมผลิตเครื่องบิน สามารถบินได้เร็ว 0.90 มัค (690 ไมล์/ชั่วโมง) บินได้ไกล 5,200 ไมล์ทะเล
จุดเด่นของเครื่องบินรุ่นนี้คือ สมรรถนะดังกล่าวใช้พลังงานเชื้อเพลิงต่ำที่สุด 5X สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ 50% ในการบินระยะสั้นเทียบกับเครื่องบินรูปแบบเดียวกัน
2.Global 8000
เครื่องบินรุ่น Global 8000 จากผู้ผลิต Bombardier ห้องเครื่องของรุ่นนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยมีพื้นที่รวม 2,236 ลูกบาศก์ฟุต สำหรับผู้โดยสาร 8 ที่นั่ง สามารถบินได้ในระยะทาง 7,900 ไมล์ทะเลด้วยความเร็ว 0.85 มัค นั่นหมายถึง Global 8000 จะสามารถบินจากเมือง Sydney ในออสเตรเลียไปถึง Los Angeles ในสหรัฐอเมริกา หรือจากเกาะฮ่องกงสู่ New York ได้ ทำให้มันสามารถบินได้ไกลกว่าเครื่องบินเจ็ตใดๆ ที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน
กำหนดการเดิมบริษัทจะเปิดตัวเครื่องจริงในปีนี้แต่จำเป็นต้องเลื่อนการเปิดตัวออกไป คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในปี 2019
3.Gulfstream G500
เครื่องบิน Gulfstream G500 บินด้วยความเร็ว 0.85 มัค ระยะทางสูงสุด 5,000 ไมล์ทะเล ซึ่งทำให้สามารถบินโดยไม่แวะพักจากเมือง Istanbul ในตุรกีถึง Cape Town ประเทศแอฟริกาใต้ได้เลย ระยะทางดังกล่าวทำได้เมื่อจุผู้โดยสาร 8 คนพร้อมสัมภาระ แต่ถึงอย่างนั้น
แม้จะเพิ่มจำนวนผู้โดยสารและสัมภาระเป็นเท่าตัว G500 ก็ยังบินได้ไกลถึง 4,600 ไมล์ทะเลโดยไม่แวะพัก เพียงพอสำหรับเที่ยวบินจาก Sao Paulo ในบราซิลไปถึงกรุง Madrid ประเทศสเปน
4.Pilatus Pc-24
“ดั่งเพนท์เฮ้าส์บนตึกสูงชั้นที่ 5,000” คือคำนิยามจากบริษัทสวิส Pilatus ผู้ผลิตเครื่องบิน PC-24 เครื่องบินรุ่นนี้เป็นเหมือนอัญมณีล้ำค่าของพวกเขา ห้องเครื่องของ PC-24 มีความจุ 501 ลูกบาศก์ฟุต รองรับผู้โดยสาร 6 ท่านได้อย่างสะดวกสบาย ถือเป็นเครื่องบินเจ็ตน้ำหนักเบาที่มีความกว้างและสูงมากที่สุดที่มีในตลาด สมรรถนะสามารถบินได้สูง 45,000 ฟุต มีคุณสมบัติสำคัญคือล้อจอดแบบคู่
ซึ่งทำให้เครื่องบินรุ่นนี้ลงจอดได้อย่างนุ่มนวลบนรันเวย์ทุกรูปแบบ เป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้โดยสารที่กลัวการขึ้นเครื่องบิน
นอกจากนี้ PC-24 ยังถูกทดสอบคุณสมบัติการต้านทานต่อสภาพอากาศและอุณหภูมิสุดขั้ว ไม่ว่าจะเป็นความร้อน น้ำแข็ง และละอองน้ำ คาดว่าเครื่อง Pilatus PC-24 จะได้รับการรับรองในปี 2017 นี้และเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าต่อไป
5.Aerion AS2
บริษัท Aerion ผลิตเครื่องบินรุ่นนี้ในลักษณะเดียวกับเครื่องบินที่ Concorde เคยผลิต (ซึ่งปัจจุบันไม่มีการผลิตแล้ว) เครื่องบิน Aerion AS2 ทำให้คุณสามารถบินจาก London สู่ New York ด้วยความเร็วในระดับที่ “ถึงจุดหมายตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง” เนื่องจากมันสามารถบินด้วยความเร็วสูงสุด 1.5 มัค (1,150 ไมล์/ชั่วโมง)
เครื่องบินที่จะกลายเป็นปรากฏการณ์ลำนี้บินได้ไกล 4,750 ไมล์ทะเล หรือสามารถบินจาก San Francisco ถึง London ได้ด้วยความเร็วเสียง (supersonic) และถ้าหากเปลี่ยนมาใช้ความเร็วต่ำกว่าเสียง (subsonic) หรือที่ 0.95 มัค มันจะบินได้ไกลถึง 5,300 ไมล์ทะเล
คุณสมบัติเด่นของเครื่องบินรุ่นนี้คือเทคโนโลยี “Boomless Cruise” ดังนั้นการบินด้วยความเร็วเสียงจะทำได้โดยไม่เกิดปรากฏการณ์ Sonic Boom ตามมา
(Sonic Boom: เสียงดังที่จะเกิดขึ้นบนพื้นโลกเมื่อเครื่องบินความเร็วเสียงบินผ่าน ทำให้ในบางประเทศและบางพื้นที่มีการจำกัดความเร็วเครื่องบินเพื่อลดมลภาวะทางเสียง) นี่จึงเป็นการแก้ไขจุดอ่อนที่เคยทำให้เครื่องบิน Concorde ต้องออกจากตลาด
เรียบเรียงจาก Five Cool Private Planes Arriving In The Next Three Years โดย Josh Max
ขอบคุณภาพจาก Forbes.com