อาลีบาบา กรุ๊ป โตต่อเนื่อง พร้อมลงทุนธุรกิจคลาวด์ ธุรกิจสื่อดิจิทัล พลิกโฉมเศรษฐกิจสู่ยุคดิจิทัล - Forbes Thailand

อาลีบาบา กรุ๊ป โตต่อเนื่อง พร้อมลงทุนธุรกิจคลาวด์ ธุรกิจสื่อดิจิทัล พลิกโฉมเศรษฐกิจสู่ยุคดิจิทัล

FORBES THAILAND / ADMIN
22 May 2017 | 05:25 PM
READ 7152
รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 2017 โดยกลุ่มธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังสร้างกระแสเงินสดได้อย่างแข็งแกร่งทำให้ อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ลงทุนเพื่อขยายธุรกิจคลาวด์ และธุรกิจสื่อดิจิทัลและความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ อันจะนำไปสู่การพลิกโฉมเศรษฐกิจสู่ยุคดิจิทัล และการยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภคทั่วทั้งประเทศจีน “ผลประกอบการที่โดดเด่น ทั้งในไตรมาสสุดท้ายและตลอดปีงบประมาณที่ผ่านมา เป็นเครื่องสะท้อนถึงความสำเร็จของเราในการเข้าถึงและสร้างรายได้จากผู้บริโภคกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ของเรา” Daniel Zhang ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว “สำหรับในไตรมาสสุดท้ายนี้ อัตราการเติบโตของรายได้ที่สูงถึง 60% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุด นับตั้งแต่เราเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะที่รายได้ตลอดปีงบประมาณนี้เติบโตขึ้น 56 % และมีกระแสเงินสดที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไปอยู่ราว 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ” Maggie Wu ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวและเสริมว่า
Daniel Zhang ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ  Maggie Wu ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน อาลีบาบา กรุ๊ป
“ผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในธุรกิจหลักของเรา รวมถึงแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจนในกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ของเรา เช่นในด้านของคลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่เรามองเห็นทิศทางการเติบโตได้อย่างชัดเจน ในฐานะผู้นำตลาด” โดยข้อมูลที่น่าสนใจจากผลประกอบการประจำปีงบประมาณ สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 นั้น อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด มีรายได้รวม 22,994 ล้านเหรียญสหรัฐ  เพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจการค้าปลีก–ค้าส่งเติบโตขึ้น 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 133,880 ล้านหยวน (19,450 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับรายได้จากธุรกิจอื่นๆ ต่างตบเท้าด้านรายได้สู่แดนบวกจากปีที่ผ่านมา อาทิ  ธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งเพิ่มขึ้น 121%, ธุรกิจสื่อดิจิทัลและบันเทิงเติบโตขึ้น 271%, กลุ่มธุรกิจเชิงนวัตกรรมเพิ่มขึ้น 65% ปัจจุบัน ยอดผู้ใช้งานในประเทศจีนผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในเดือนมีนาคม 2560 สูงถึง 507 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าในเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 97 ล้านคน สะท้อนให้เห็น พฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใช้บริการอีคอมเมิร์ซผ่านช่องทางโทรศัพท์มือถือมากกว่าคอมพิวเตอร์ ด้วยเหตุนี้เอง ยอดขายรวมผ่านโทรศัพท์มือถือของช่องทางค้าปลีกในประเทศจีนในปีงบประมาณนี้จึงสูงถึง 4.33 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 79% ของยอดขายรวมทั้งหมด