ในปีที่ผ่านมา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (CMO) ได้รับมอบหมายให้ทำอะไรมากกว่าการนำพาบริษัทของตนให้พ้นจากวิกฤตโควิด-19
นอกจากหน้าที่ที่จะต้องดูแลรับผิดชอบในเรื่องกิจกรรมทางการตลาดขององค์กรแล้ว พวกเขายังต้องมีบทบาทในการจัดหาวัคซีนให้พนักงาน รับมือกับปัญหาและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ตลอดจนการผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ
สำหรับการจัดอันดับประจำปีครั้งที่ 9 นี้ ซึ่งเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันที่ Forbes ได้ร่วมมือกับพันธมิตรหลักอย่าง Sprinklr หน่วยงานด้านการวิจัย พร้อมด้วยข้อมูลและการวิเคราะห์เพิ่มเติมจาก LinkedIn ซึ่งอ้างอิงจากแพลตฟอร์มดิจิทัลและโซเชียลกว่า 30 ช่องทาง
Forbes นิยามคำว่า
"อิทธิพล" ว่า เป็นผลกระทบจากการกระทำและคำพูดของ CMO ที่มีต่อองค์กรทั้งภายในและภายนอกอุตสาหกรรมหรือในวงกว้าง รวมถึงการรับรู้ถึงแบรนด์ขององค์กร กลวิธีทางการตลาดและการโฆษณา ผลประกอบการด้านการเงิน และผลกระทบต่อสังคมโดยรวม
ในปีนี้ Forbes ได้คัดเลือก CMO และแบรนด์ต่างๆ มากกว่า 500 รายจากทำเนียบการจัดอันดับของ Forbes และหน่วยงานภายนอก เช่น The World Federation of Advertisers และ Brand Finance Global 500 ซึ่งผู้ที่จะได้รับการพิจารณาจะต้องอยู่ในตำแหน่งเป็นอย่างน้อยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2021
โดย 10 อันดับแรกของทำเนียบปี 2021 นี้ ประกอบไปด้วยผู้หญิงผิวสีมากถึง 6 ราย จากผู้หญิงและผู้ชายทั้งหมด 28 รายและ 22 ราย ตามลำดับ
พบกับ
10 อันดับประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ประจำปี 2021
อันดับ 1
Bozoma Saint John
บริษัท: Chief Marketing Officer
องค์กร: Netflix
Bozoma Saint John ได้รับตำแหน่ง CMO ที่
Netflix เป็นระยะเวลาราว 1 ปี พร้อมเปิดตัวแคมเปญที่มีสร้างสรรค์มากมายให้กับสตรีมมิงยักษ์ใหญ่ อาทิเช่น การเปิดตัวซีรีส์ชื่อดังอย่าง Money Heist และชักชวนให้เหล่าแฟนคลับงดเผยแพร่รายละเอียดต่างๆ ลงบนอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้ ก่อนที่จะเข้าร่วมงานกับบริการสตรีมมิงในเดือนมิถุนายน 2020 Saint John เป็นผู้นำด้านการตลาดที่
Endeavour,
Uber และ
Apple Music และในเดือนมกราคม เธอเคยบรรยายในชั้นเรียนออนไลน์เป็นเวลา 1 สัปดาห์ที่ Harvard Business School เกี่ยวกับพลังแห่งความเป็นจริง
นอกจากนี้ Saint John ยังเป็นผู้นำในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายและความเท่าเทียมโดยในช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว เธอทำงานร่วมกับ Glennon Doyle และคนดังจำนวนมากคนในแคมเปญที่เรียกว่า
#sharethemicnow เพื่อเป็นกระบอกสียงให้กับคนผิวสีในบัญชี Instagram ของผู้หญิงผิวขาวจำนวนมาก
ในปีหน้า เธอวางแผนจะตีพิมพ์
The Urgent Life ไดอารี่เกี่ยวกับการสูญเสียสามีของเธอจากโรคมะเร็งในปี 2013 ซึ่งได้เปลี่ยนมุมมองในการใช้ชีวิตของเธอและอุปสรรคที่เธอเคยเผชิญมาโดยตลอด
อันดับ 2
Stephanie McMahon
ตำแหน่ง: Chief Brand Officer
บริษัท: WWE
ไม่เพียงแต่จะเป็น CMO เพียงคนเดียวที่มีประสบการณ์ด้าน
“นักมวยปล้ำมืออาชีพ” ในเรซูเม่ Stephanie McMahon ยังเป็นนักการตลาดที่มีอิทธิพลเหนือกว่าวงการ
WWE
เพราะนอกเหนือจากการดูแลการสร้างธันเดอร์โดมซึ่งปลอดภัยทางชีวภาพในช่วงวิกฤตโควิด-19 แล้ว McMahon ยังช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมของแฟนๆ สำหรับการแข่งขันแบบถ่ายทอดสดและแบบสตรีมมิงในเดือนกรกฎาคม และสร้างแพลตฟอร์ม TikTok ด้านกีฬาที่มีผู้ติดตามมากที่สุด
McMahon ยังเป็นผู้นำในความร่วมมือระหว่างบริษัทในการช่วย
Netflix โปรโมตรายการ
Army of the Dead ซึ่ง WWE ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง และเมื่อต้นเดือนนี้ WWE ร่วมมือกับ Connor's Cure และ The V Foundation เพื่อหาเงินบริจาคให้กับผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคมะเร็ง และ เธอยังช่วย Ad Council ในด้านการตลาดวัคซีน
อันดับ 3
Dara Treseder
ตำแหน่ง: Global Head of Marketing
บริษัท: Peloton
Treseder เกิดและเติบโตในไนจีเรีย เและเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารการตลาดที่
Goldman Sachs,
Apple และ
GE โดยเธอเข้าร่วมงานกับ
Peloton ในเดือนสิงหาคม 2020 และสร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว โดยเปิดตัวความร่วมมือกับ Beyonce ในแคมเปญโฆษณาที่เน้นเรื่องราวของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
ขณะที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา Treseder และ Peloton ได้เปิดตัวแคมเปญที่เน้นการส่งเสริมชุมชนมากกว่าผลิตภัณฑ์หรือ “It’s You. That Makes Us.”
อันดับ 4
Raja Rajamannar
ตำแหน่ง: Chief Marketing & Communications Officer และ President, Healthcare Business
บริษัท: MasterCard
หลังจากที่ MasterCard เปิดตัวบัตรเครดิต
“True Name” เมื่อปีที่แล้ว ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกชื่อที่ต้องการแสดงบนบัตรเครดิตได้ ทว่ากลับส่งผลให้บริษัทประสบปัญหาในการหาพันธมิตรที่เป็นธนาคารเข้าร่วมด้วย แต่ในที่สุดผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก็กลายเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งสำหรับ MasterCard และสำหรับสังคมในวงกว้าง
ล่าสุด Rajamannar ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของ
World Federation of Advertisers และ
Association of National Advertisers ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความจำเป็นในการต่อสู้กับคำพูดแสดงความเกลียดชังทางออนไลน์และปัญหาอื่นๆ ที่ต้องเผชิญบนแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต
Rajamannar ดำรงตำแหน่ง CMO ของ
MasterCard ตั้งแต่ปี 2013 และมีประวัติอันยาวนานในฐานะที่เป็นผู้เปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ และปรับให้เข้ากับวัตถุประสงค์ทางการตลาดของบริษัทและพื้นที่อื่นๆ
เมื่อต้นปีนี้ Rajamannar ยังได้เขียนหนังสือเล่มแรกของเขาที่ชื่อว่า
Quantum Marketing ซึ่งเรียกร้องให้นักการตลาดใช้กรอบความคิดใหม่ที่นำเอาเทคโนโลยีใหม่มาใช้ เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับผู้บริโภคยุคใหม่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
อันดับ 5
Nick Tran
ตำแหน่ง: Global Head of Marketing Officer
บริษัท: TikTok
ในฐานะหัวหน้าฝ่ายการตลาดของโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Nick Tran มีหน้าที่ในการช่วยให้ TikTok ขยายฐานผู้ใช้ซึ่งปัจจุบันก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วอยู่แล้ว และช่วยให้บริษัทสร้างธุรกิจโฆษณาในลักษณะที่มีความเกี่ยวข้องกับวัยรุ่น Gen Z ที่มีความจู้จี้จุกจิก
ในเดือนพฤษภาคม TikTok ได้จัดแคมเปญฉลองธุรกิจขนาดเล็กเป็นเวลา 1 เดือน และเมื่อต้นเดือนนี้ได้เปิดตัว Creator Marketplace API ใหม่ที่จะช่วยให้นักการตลาดที่มีอิทธิพลเข้าถึงข้อมูลของกลุ่มบุคคลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งยังประกาศว่า TikTok สามารถดึงดูดผู้ใช้มากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของเครือข่ายโซเชียลใดๆ
อันดับ 6
Morgan Flatley
ตำแหน่ง: Global Chief Marketing Officer
บริษัท: McDonald’s
เมื่อเดือนที่แล้ว Morgan Flatley ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดระดับโลก หลังจากใช้เวลาหลายปีในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการตลาดและเจ้าหน้าที่ด้านประสบการณ์ลูกค้าดิจิทัลสำหรับการดำเนินงานของยักษ์ใหญ่ฟาสต์ฟู้ดในสหรัฐฯ
นอกจากจะใช้เวลาในปีที่ผ่านมาเพื่อช่วยให้
McDonald's เข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้นและใช้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นเพื่อขับเคลื่อนทุกมิติ ตั้งแต่การตลาดไปจนถึงการดำเนินธุรกิจ ในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ เธอยังได้นำบริษัทผนึกกำลังครั้งสำคัญกับศิลปินชื่อดังในวงการเพลง อาทิเช่น Travis Scott, J. Balvin นักร้องชาวโคลอมเบีย และ BTS จากเกาหลีใต้
อันดับ 7
Greg Joswiak
ตำแหน่ง: Senior Vice President of Worldwide Marketing
บริษัท: Apple
เมื่อ Phil Schiller อดีต CMO ของ Apple ได้รับตำแหน่งหใม่ในปีที่แล้ว บริษัทได้แต่งตั้ง Greg Joswiak ซึ่งเป็นผู้บริหารการตลาดผลิตภัณฑ์ของบริษัทเทคโนโลยีมาอย่างยาวนาน ให้เป็นผู้นำการตลาดคนต่อไป
Joswiak ซึ่งร่วมงานกับบริษัทครั้งแรกในปี 1986 เพื่อทำงานร่วมกับนักพัฒนาจากภายนอก ปัจจุบันเป็นผู้ที่ดูแลทุกอย่างตั้งแต่ผลิตภัณฑ์เรือธงอย่าง iPhone, iPads และ MacBooks ไปจนถึงแผนกใหม่ อาทิเช่น Apple TV+ และ Apple Arcade
อันดับ 8
Oliver Francois
ตำแหน่ง: Global President of Fiat Brand และ Chief Marketing Officer
บริษัท: Stellantis
ในขณะที่หลายแบรนด์พยายามหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเมืองสำหรับโฆษณา Super Bowl ปี 2021 ของพวกเขา ทว่า Olivier Francois กลับร่วมมือกับ
Jeep ในโฆษณาที่นำแสดงโดย
Bruce Springsteen ที่เป็นการโจมตีรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม ซึ่สอดแทรกบทเพลงที่เรียกร้องให้ชาวอเมริกันยุติความแตกแยก
ไม่เพียงเท่านี้ Francois ยังรับผิดชอบในการช่วยสร้างแบรนด์ให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ Fiat ซึ่งคาดว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าใช้ทั้งหมดภายในปี 2030
และนอกเหนือจากอุตสาหกรรม EV แล้ว เขายังฝากผลงานเกี่ยวกับำการตลาดเกี่ยวกับรถยนต์จำนวนมากเช่นกัน
อันดับ 9
Eric Lempel
ตำแหน่ง: SVP, Head of Global Marketing
บริษัท: Sony Interactive Entertainment
ท่ามกลางกระแสการเปิดตัว
PlayStation 5 Eric Lempel ได้รับมอบหมายให้ทำการตลาดให้กับคอนโซลที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดตัวหนึ่งในขณะเดียวกันก็แข่งขันกับ Xbox คู่แข่งซึ่งเพิ่งเปิดตัวระบบเกมใหม่ในช่วงเวลาเดียวกัน
นอกจากแคมเปญโฆษณาระดับโลกตัวใหม่ของ Sony Interactive Entertainment อย่าง “Play Has No Limits” ที่เปลี่ยนเมืองให้กลายเป็นกระดานหมากรุกสำหรับทีวีแล้ว Lempel ยังเป็นผู้นำด้านการตลาดสำหรับเกม PlayStation สุดพิเศษจำนวนมากอีกด้วย
อันดับ 10
Marc Pritchard
ตำแหน่ง: Chief Brand Officer
บริษัท: Procter & Gamble
ในฐานะหัวหน้านักการตลาดสำหรับบริษัทโฆษณารายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลก Marc Pritchard กำกับดูแล P&G ให้ใช้จ่ายโฆษณามากกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และมักจะเป็นตัผู้นำในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการตลาดในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่ประเด็นเกี่ยวกับความหลากหลายและความยั่งยืน ไปจนถึงการวัดผล ความปลอดภัยของแบรนด์ และความคิดสร้างสรรค์
Pritchard ซึ่งร่วมงานกับบริษัทเมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว ยังดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ
The Association of National Advertisers และสมาชิกคณะกรรมการ
Ad Council ชุดปัจจุบันอีกด้วย
ในเดือนมกราคมที่งาน CES P&G ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ที่ผู้คนสามารถพบปะกันในรูปแบบอวาตาร์ได้ และ 2-3 เดือนต่อมา บริษัทได้เผยถึงความคิดริเริ่มที่จะเปลี่ยนวิธีการแสดงภาพคนผิวสีในโฆษณา และจ้างผู้ที่มีความสามารถที่หลากหลายมากขึ้นมาร่วมงาน
นอกจากนี้ P&G ยังได้ริเริ่มความคิดเกี่ยวกับความยั่งยืนทั้งในระดับผลิตภัณฑ์และระดับพันธมิตร (เพิ่งทำงานร่วมกับ NFL ในแคมเปญของ Tide เพื่อให้ผู้คนใช้น้ำน้อยลงขณะซักผ้า)
แปลและเรียบเรียงจากบทความ World’s Most Influential CMOs 2021เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม:
15 มหาเศรษฐีสหรัฐฯ อายุน้อยที่สุด แห่งทำเนียบ Forbes 400 ปี 2021