อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา - Forbes Thailand

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา

ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยที่บูมขึ้นมา ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยมากถึง 38.28 ล้านคนในปี 2561 และจากการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติทำให้ วิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ประกาศเป้าหมายการเติบโตของ คิง เพาเวอร์ ไว้ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 ปี (2560-64) ว่าจะผลักดันยอดขายไปสู่ 1.4 แสนล้านบาท และขยับอันดับอาณาจักรธุรกิจปลอดภาษีจากอันดับ 7 ของโลกขึ้นเป็นอันดับ 5 ของโลก แต่แล้วกลับเกิดเหตุสะเทือนขวัญเมื่อ วิชัย ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกข้างสนามฟุตบอล King Power Stadium สนามเหย้าของทีม Leicester City ที่เขาเป็นเจ้าของเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2561 ซึ่งทำให้ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ลูกชายของเขา ต้องขึ้นมากุมบังเหียนบริษัทและทรัพย์สินแทนบิดาอย่างเต็มตัว การรับมรดกนี้ทำให้อัยยวัฒน์มีชื่อในทำเนียบเศรษฐี Forbes เป็นครั้งแรกรวมถึงเป็นเศรษฐีไทยที่อายุน้อยที่สุดด้วย นอกจากการเสียหัวเรือของคิง เพาเวอร์แล้ว อัยยวัฒน์ยังต้องเผชิญคลื่นลมในธุรกิจด้วย โดยจะมีการยื่นซองประมูลพื้นที่ดิวตี้ฟรีสนามบินสุวรรณภูมิภายในเดือนพฤษภาคม 2562 และสัญญาเดิมของคิง เพาเวอร์จะหมดลงในปี 2563 หากบริษัทไม่ชนะการประมูลรอบใหม่นี้อาจทำให้แผนของเจ้าสัวผู้ล่วงลับต้องสะดุดลง ในปี 2562 ที่ผ่านมา อัยยวัฒน์ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคำมั่นสัญญาในการนำพาธุรกิจของบิดา โดยเฉพาะการนำกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เอาชนะการประมูลงานประมูลดิวตี้ฟรี ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เป็นจำนวน 3 สัมปทาน ใน 4 สนามบิน ได้แก่ การบริหารจัดการร้านค้าดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ รวมไปถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์สุวรรณภูมิ เป็นจำนวน 10 ปี 6 เดือน จนถึง 31 มีนาคม 2574 นอกจากธุรกิจแล้วเขายังขึ้นรับตำแหน่งประธานทีม Leicester City และสานต่อด้านกีฬา รวมทั้งการดูแลด้านการศึกษากับผู้ที่ต้องการโอกาส ผ่านมูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา

TAGGED ON