10 อันดับนักฟุตบอลรายได้สูงสุดในโลก ประจำปี 2025 เม็ดเงินรวมกันกว่า 945 ล้านเหรียญสหรัฐฯ Cristiano Ronaldo ยังครองบัลลังก์ ตามด้วย Lionel Messi ขณะที่สองดาวรุ่งอย่าง Jude Bellingham และ Lamine Yamal ติดโผ สะท้อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของวงการฟุตบอล
Cristiano Ronaldo ยังคงเป็นอันดับ 1 ของนักฟุตบอลที่มีรายได้สูงสุดในโลก ในขณะที่เส้นทางอาชีพอันยิ่งใหญ่ของเขาเปรียบเหมือนพระอาทิตย์ใกล้อัสดง ซึ่งสองดาวรุ่งรุ่นใหม่อย่าง Jude Bellingham และ Lamine Yamal กำลังขึ้นมาเจิดจรัสแทน
ซัมเมอร์ที่ผ่านมา มีข่าวลือว่า Cristiano Ronaldo อาจอำลาวงการลูกหนัง หลังสัญญากับสโมสร Al Nassr ในซาอุดีอาระเบียกำลังจะหมดลง และเจ้าตัวเพิ่งพาทีมชาติโปรตุเกสคว้าแชมป์ยูฟ่า เนชันส์ ลีก ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นจังหวะเหมาะเจาะที่จะแขวนสตั๊ดอย่างสวยงาม แต่สุดท้ายเขาก็ออกมาสยบข่าวลือนั้นด้วยการต่อสัญญาใหม่ออกไปอีก 2 ปี
แน่นอนว่ารายได้เป็นแรงจูงใจที่ไม่น้อยเช่นกัน Forbes ประเมินว่า Cristiano Ronaldo จะได้รับเงินรวม 230 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก Al Nassr ในฤดูกาล 2025-26 ซึ่งรวมถึงโบนัสและผลตอบแทนจากข้อตกลงเชิงพาณิชย์ของสโมสร นอกจากนี้ เขายังมีรายได้อีก 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกสนาม จากแบรนด์ต่างๆ เช่น Nike, Binance และ Herbalife ทำให้รายได้รวมตลอดปีของเขาสูงถึง 280 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ตัวเลขมหาศาลนี้ ทำให้ Cristiano Ronaldo ครองตำแหน่งนักฟุตบอลที่มีรายได้สูงสุดในโลกเป็นครั้งที่ 6 ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และหากนับรวมในวงการกีฬาทั้งหมด ตั้งแต่ปี 1990 มีเพียง Floyd Mayweather นักมวยชื่อดังเท่านั้นที่เคยทำรายได้ต่อปีมากกว่าเขา รายได้ระดับนี้ยังทิ้งห่างคู่แข่งตลอดกาลอย่าง Lionel Messi ที่มีรายได้รวมราว 130 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รวมกันแล้ว นักฟุตบอล 10 อันดับแรกของโลกในปีนี้ มีรายได้ประมาณ 945 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งลดลงประมาณ 4% จากปีก่อน ส่วนหนึ่งเพราะ Neymar ที่เคยอยู่ในอันดับ 3 เมื่อปีที่แล้ว หลุดออกจากโผไปอย่างสิ้นเชิง
จากปีที่แล้ว Neymar ถูกประเมินว่าจะมีรายได้รวม 110 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมาจากค่าเหนื่อยกับสโมสร Al Hilal ถึง 80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เขาและสโมสรตกลงยกเลิกสัญญา และเจ้าตัวก็ย้ายกลับไปเล่นให้ทีมเก่าที่บราซิลอย่าง Santos ด้วยค่าจ้างที่น้อยลงมาก แม้จะต่อสัญญาใหม่ไปจนถึงฟุตบอลโลก 2026 แต่ Forbes ประเมินว่าเขาจะมีรายได้รวมเพียง 38 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จากนอกสนาม
แม้ลิสต์ในปีนี้ จะมีช่องว่างจากการหายไปของ Neymar และ Kevin De Bruyne ที่ย้ายไป Napoli แต่ยังคงเต็มไปด้วยดาวเตะหน้าเดิมถึง 8 คนจากปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้ย้ายสโมสร
Karim Benzema รั้งอันดับ 3 ด้วยรายได้รวม 104 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีสุดท้ายของสัญญากับ Al-Ittihad ตามมาด้วย Kylian Mbappe จาก Real Madrid ที่มีรายได้รวม 95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ Erling Haaland จาก Manchester City ที่อยู่อันดับ 5 หลังต่อสัญญายาว 9 ปีครึ่ง โดยคาดว่าจะรับค่าเหนื่อยและโบนัสรวม 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บวกกับรายได้นอกสนามอีก 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วน Vinicius Jr. อยู่อันดับ 6 ด้วยรายได้ 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ขณะที่ Jude Bellingham อยู่อันดับ 9 พร้อมรายได้ 44 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยวัย 22 ปี และตำแหน่งดาวรุ่งอายุน้อยที่สุดที่ครองอันดับ 10 ตกเป็นของเจ้าหนู Lamine Yamal กับรายได้ 43 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในวัยเพียง 18 ปี เมื่อรวมกัน ทั้งสองดาวรุ่งทำให้ ลาลีกา สเปน กลายเป็นลีกที่มีผู้เล่นติดอันดับมากที่สุด 4 คน ตามด้วย ซาอุดีอาระเบีย โปรลีก 3 คน และพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2 คน ส่วน Messi คือผู้เล่นจาก MLS คนเดียวที่ติดอันดับ
สิ่งสำคัญคือ การปรากฏตัวของ Jude Bellingham และ Lamine Yamal สะท้อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของโลกลูกหนัง เพราะตอนนี้ 5 ใน 10 คนที่มีรายได้สูงสุดอายุต่ำกว่า 29 ปี และอายุเฉลี่ยของการจัดอันดับในครั้งนี้ลดลงต่ำกว่า 30 ปี เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี แม้ Cristiano Ronaldo ยังครองบัลลังก์เรื่องรายได้อยู่ แต่ดูเหมือนว่ารุ่นใหม่กำลังพร้อมจะขึ้นมารับช่วงต่อแล้ว
สำหรับ 10 อันดับ นักฟุตบอลรายได้สูงสุด ประจำปี 2025 มีดังต่อไปนี้
1.Cristiano Ronaldo
อายุ: 40 | สโมสร: Al Nassr | สัญชาติ: โปรตุเกส | รายได้ในสนาม: 230 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้นอกสนาม: 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้รวม: 280 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Cristiano Ronaldo คว้าบัลลงดอร์ 5 สมัย แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 4 สมัย รวมถึงแชมป์ลีกในอังกฤษ สเปน และอิตาลีอีกมากมาย แต่ในวัย 40 กะรัต กองหน้าซูเปอร์สตาร์รายนี้ยังคงตั้งเป้าหมายอีกสองอย่าง คือการทำประตูที่ 1,000 ในอาชีพรวมสโมสรและทีมชาติ (ปัจจุบันเหลือเพียง 52 ประตู) และการพาทีมชาติโปรตุเกสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2026 ที่อเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นถ้วยที่ประเทศของเขายังไม่เคยได้สูงกว่าที่ 3 มาก่อน
นอกสนาม Ronaldo ยังคงขยายอาณาจักรธุรกิจแบรนด์ CR7 ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ฟิตเนส และนาฬิกา รวมถึงช่อง YouTube ของเขา UR Cristiano ที่มียอดผู้ติดตามราว 77 ล้านคน โดยเขามีผู้ติดตามรวมกันทุกแพลตฟอร์มกว่า 1.04 พันล้านคน มากที่สุดในโลกเหนือทุกคน
2.Lionel Messi
อายุ: 38 | สโมสร: Inter Miami | สัญชาติ: อาร์เจนตินา | รายได้ในสนาม: 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้นอกสนาม: 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้รวม: 130 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ช่วงปีที่ผ่านมา อนาคตของ Lionel Messi กับ Inter Miami ยังไม่แน่นอนว่าจะไปต่อหรือไม่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะอยู่ต่อ และทั่วโลกฟุตบอลก็กำลังจับตามองว่าเขาจะลงเล่นในฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 6 กับทีมชาติอาร์เจนตินาหรือไม่
นอกสนาม Lionel Messi ยังคงเป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์ดังอย่าง Adidas, Lay’s และ Mastercard และในปี 2024 เขาได้เปิดตัวเครื่องดื่มกีฬา Mas+ by Messi รวมถึงขยายธุรกิจโรงแรม MiM Hotels ที่ร่วมก่อตั้งกับ Majestic Hotel Group ตั้งแต่ปี 2017 และในปีนี้ Messi ยังเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนและพรีเซนเตอร์ระดับโลกของเครือร้านอาหาร El Club de la Milanesa อีกด้วย
3.Karim Benzema
อายุ: 37 | สโมสร: Al Ittihad | สัญชาติ: ฝรั่งเศส | รายได้ในสนาม: 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้นอกสนาม: 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้รวม: 104 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

แม้อายุจะ 37 ปีแล้ว แต่ Karim Benzema ในศึกซาอุดี โปรลีก ฟอร์มทำประตูยังคงเฉียบคม อย่างไรก็ตาม อนาคตของเขาไม่แน่นอนนัก เพราะสัญญากับ Al-Ittihad จะหมดลงหลังจบฤดูกาล แม้ยอดผู้ติดตามของเขาจะเทียบ Ronaldo หรือ Messi ไม่ได้ แต่ Benzema ก็มีผู้ติดตามใน Instagram กว่า 76 ล้านคน และได้ร่วมงานกับแบรนด์ต่างๆ เช่น Adidas และ Assaf Perfumes ในปีที่ผ่านมา
4.Kylian Mbappe
อายุ: 26 | สโมสร: Real Madrid | สัญชาติ: ฝรั่งเศส | รายได้ในสนาม: 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้นอกสนาม: 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้รวม: 95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ความพยายามของ Kylian Mbappe ที่จะคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกสมัยแรกจบลงในรอบ 8 ทีมสุดท้ายในฤดูกาลแรกของเขากับ Real Madrid แถมต้องดูอดีตต้นสังกัดอย่าง Paris Saint-Germain คว้าแชมป์ไปต่อหน้า
นอกสนาม Kylian Mbappe กำลังสร้างพอร์ตลงทุนของตัวเอง โดยถือหุ้นมากกว่า 10% ใน Loewe บริษัทอิเล็กทรอนิกส์จากเยอรมนี และถือหุ้น 80% ของสโมสร Stade Malherbe Caen ทีมฟุตบอลฝรั่งเศสระดับดิวิชัน 2 และปีนี้เขายังซื้อหุ้นในแพลตฟอร์มขายนาฬิกาหรู Wristcheck และทีมแข่งเรือใบ France SailGP Team
5.Erling Haaland
อายุ: 25 | สโมสร: Manchester City | สัญชาติ: นอร์เวย์ | รายได้ในสนาม: 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้นอกสนาม: 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้รวม: 80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Erling Haaland ยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงกับ Manchester City และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนกันยายนของพรีเมียร์ลีก พร้อมทำสถิติ 94 ประตู ใน 104 นัด ลุ้นเป็นผู้เล่นที่ทำครบ 100 ประตูได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก แซงหน้าเจ้าของสถิติเดิมอย่าง Alan Shearer ที่ใช้เวลา 124 นัด
นอกสนาม Haaland มีสัญญาโฆษณากับ Nike และร่วมงานกับหลายแบรนด์ในนอร์เวย์ เช่น Bama Gruppen บริษัทจัดจำหน่ายผักผลไม้ และ Godfisk โครงการรณรงค์บริโภคอาหารทะเล โดยปีนี้เขายังได้ถือหุ้นในแบรนด์กระเป๋าเดินทางสแกนดิเนเวียอย่าง Db ซึ่งมีบริษัทแฟชั่นหรู LVMH หนุนหลังอยู่ด้วย
6.Vinicius Jr.
อายุ: 25 | สโมสร: Real Madrid | สัญชาติ: บราซิล | รายได้ในสนาม: 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้นอกสนาม: 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้รวม: 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Vinicius Jr. สร้างชื่อในฐานะซูเปอร์สตาร์ของ Real Madrid ด้วยผลงาน 110 ประตูและ 79 แอสซิสต์ จาก 330 นัด และมีสปอนเซอร์กว่า 10 แบรนด์ เช่น Nike, Hugo Boss และ Prada Eyewear อย่างไรก็ตาม ฟอร์มที่ดูแผ่วลงเมื่อเทียบกับปีก่อนทำให้อนาคตของเขาเริ่มถูกพูดถึง แม้จะยังมีสัญญากับ Real Madrid ถึงปี 2027 แต่รายงานบางแห่งระบุว่า สโมสรอาจพิจารณาขายเขาในช่วงซัมเมอร์หน้า โดยมีซาอุดี โปรลีก เป็นหนึ่งในปลายทางที่เป็นไปได้
7.Mohamed Salah
อายุ: 33 | สโมสร: Liverpool | สัญชาติ: อียิปต์ | รายได้ในสนาม: 35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้นอกสนาม: 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้รวม: 55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

แม้จะมีการคาดการณ์ว่าฤดูกาล 2024-25 จะเป็นปีสุดท้ายของ Mohamed Salah กับ Liverpool แต่ Salah ได้ต่อสัญญาเพิ่มอีก 2 ปี จนถึงปี 2027 และก็พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ
ฤดูกาลนี้ ถึงแม้ Liverpool จะสะดุดแพ้ 3 เกมติดในลีก โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่แพ้ Manchester United ในศึกแดงเดือด แต่ก็ถือว่ายังมีลุ้นแชมป์ ส่วนในระดับทีมชาติ Salah เพิ่งพาอียิปต์ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2026 นับเป็นการพาทีมลุยบอลโลกครั้งที่ 2 ในชีวิต
8.Sadio Mane
อายุ: 33 | สโมสร: Al Nassr | สัญชาติ: เซเนกัล | รายได้ในสนาม: 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้นอกสนาม: 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้รวม: 54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สัญญาของ Sadio Mane กับ Al Nassr จะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ แต่เจ้าตัวแสดงท่าทีชัดเจนว่าต้องการอยู่ต่อ โดยกำลังไล่ล่าแชมป์ซาอุดี โปรลีก หลังจบอันดับ 3 ในฤดูกาลที่แล้ว สโมสรยังคงรั้งดาวดังอย่าง Ronaldo พร้อมเสริมทัพด้วยดาวรุ่งชาวโปรตุเกสอย่าง Joao Felix ทำให้พวกเขาเริ่มต้นฤดูกาลนี้ด้วยชัยชนะ 4 นัดรวด ส่วนนอกสนาม Sadio Mane ยังคงเป็นพาร์ตเนอร์ระยะยาวกับ New Balance
9.Jude Bellingham
อายุ: 22 | สโมสร: Real Madrid | สัญชาติ: อังกฤษ | รายได้ในสนาม: 29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้นอกสนาม: 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้รวม: 44 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Jude Bellingham ย้ายจาก Borussia Dortmund มาอยู่กับ Real Madrid เมื่อสองปีก่อน ด้วยค่าตัวเกือบ 140 ล้านเหรียญ จัดเป็นดีลที่แพงที่สุดอันดับ 7 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอล และเขาก็ตอบแทนได้ทันทีด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา และแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาล 2023-24 พร้อมกับเป็นกำลังหลักของทีมชาติอังกฤษ และเพิ่งได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของอังกฤษ (2024-25) ไป นอกสนาม Jude Bellingham เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ Adidas และเครื่องดื่มอย่าง Lucozade
10.Lamine Yamal
อายุ: 18 | สโมสร: Barcelona | สัญชาติ: สเปน | รายได้ในสนาม: 33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้นอกสนาม: 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | รายได้รวม: 43 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ตั้งแต่แจ้งเกิดกับ Barcelona ในวัยเพียง 15 ปี เมื่อปี 2023 Lamine Yamal ก็พาทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ ยูโร 2024 และช่วยให้ Barcelona กลับมาคว้าแชมป์ลาลีกาได้อีกครั้งในฤดูกาลถัดมา สโมสรตอบแทนเขาด้วยการต่อสัญญาใหม่ถึงปี 2031 และมอบเสื้อหมายเลข 10 อันเป็นตำนานที่ Ronaldinho และ Lionel Messi เคยสวมใส่
นอกสนาม Lamine Yamal เริ่มใช้ชื่อเสียงต่อยอดทางธุรกิจ โดยเพิ่ม Beats by Dre เข้ามาในพอร์ตสปอนเซอร์ที่มีอยู่แล้ว เช่น Adidas, Konami และ Powerade
ภายในปีเดียว Lamine Yamal เพิ่มยอดผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียกว่าเท่าตัว เป็นเกือบ 77 ล้านคน และที่น่าทึ่งคืออัตราการมีส่วนร่วมของเขาสูงกว่านักเตะระดับโลกคนอื่นๆ โดยมีค่าเฉลี่ยการเข้าชมและมีส่วนร่วมต่อโพสต์มากกว่า 33 ล้านครั้ง ซึ่งสูงกว่า Ronaldo ถึง 5.5 เท่า
หมายเหตุ:
การจัดอันดับนักฟุตบอลที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก โดย Forbes ประจำปีนี้ ใช้การประมาณการรายได้ในสนามสำหรับฤดูกาล 2025-26 ประกอบด้วยเงินเดือนพื้นฐาน โบนัส และในบางกรณียังรวมถึงข้อตกลงสิทธิ์การใช้รูปภาพ ส่วนการประมาณการรายได้นอกสนามมาจากเงินต่อปีจากการเป็นพรีเซนเตอร์ การให้สิทธิ์ใช้ชื่อหรือภาพลักษณ์ การปรากฏตัวตามงานต่างๆ การขายของที่ระลึก รวมถึงผลตอบแทนจากธุรกิจที่นักฟุตบอลถือหุ้นในสัดส่วนสำคัญ
ตัวเลขทั้งหมดถูกแปลงเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดย Forbes ไม่รวมรายได้จากการลงทุน เช่น ดอกเบี้ยหรือเงินปันผล แต่จะนับรวมเงินที่นักกีฬารับจากการขายหุ้นหรือสิทธิ์ในธุรกิจที่เคยถืออยู่แทน และ Forbes ไม่ได้คำนวณการหักภาษี ค่าธรรมเนียมเอเย่นต์ และไม่นับค่าธรรมเนียมการย้ายทีมร่วมด้วย
แปลและเรียบเรียงจาก The World’s Highest-Paid Soccer Players 2025
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 8 เศรษฐินี อายุน้อยกว่า 40 ที่รวยจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine