ธนินท์ แต่งตั้ง สุภกิต วัย 55 ปี บุตรชายคนโต และ ศุภชัย วัย 52 ปี บุตรชายคนเล็ก ให้ดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอของเครือซีพีตามลำดับ ขณะที่ ณรงค์ บุตรชายคนกลาง เป็นรองประธานเครือซีพีพร้อมกับการดูแลธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ตของเครือในประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง
สุภกิต ศิษย์เก่าจาก New York University รับหน้าที่บริหารงานในบริษัทสำคัญๆ ของเครือ ส่วนศุภชัยซึ่งสำเร็การศึกษาจาก Boston University เริ่มต้นชีวิตการทำงานที่ธุรกิจค้าปลีกของบริษัทอย่าง สยามแม็คโคร และต่อมาได้ขยายไปคุมธุรกิจโทรคมนาคมของในเครืออย่าง ทรู ซึ่งปี 2561 ทำกำไรไปกว่า 7 พันล้านบาท ก่อนที่จะขยับมาคุมงานในซีพีเอฟเมื่อปี 2560 และบริหารทั้งเครือในที่สุด
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของซีพีคือการสยายปีกไปสู่กิจการขนส่งสาธารณะ โดยประมูลสัญญาสัมปทานรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา เงินลงทุน 2.25 แสนล้านบาท จ่อเคาะอนุมัติภายในเดือนมิถุนายน 2562
เชื่อกันว่าเจ้าสัวธนินท์ในวัย 80 ปียังคงเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจตัวจริง แต่จากการเริ่มถอยจากตำแหน่งของเขาในปีนี้นับเป็นสัญญาณได้ว่าซีพีกำลังอยู่ในช่วงผลัดใบให้ทายาทได้เข้ามาบริหารอย่างเต็มตัวเร็วๆ นี้
ล่าสุด เครือซีพี เพิ่งประมูลซื้อกิจการ Tesco ในไทยและมาเลเซียได้เมื่อเดือนมีนาคมด้วยราคา 1.06 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งความผันผวนทางเศรษฐกิจและการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้จำนวนทรัพย์สินลดลง แต่ก็ยังคงเป็นอันดับ 1 ในทำเนียบของเราด้วยทรัพย์สิน 2.73 หมื่นล้านเหรียญ