ความพยายามสรรหาผลิตภัณฑ์ในประเทศบ้านเกิดเพื่อบำรุงผมหยิกเป็นลอนของตัวเองทำให้ Anshita Mehrotra ถึงกับต้องลงมือสร้างแบรนด์สินค้าบำรุงผมแบบเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มซึ่งเธอบอกว่า ทำรายได้แล้วถึงกว่า 2.8 ล้านเหรียญในปีการเงินที่สิ้นสุด ณ เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
Anshita Mehrotra สาวสวยชาวอินเดีย วัย 26 ปี ผู้ก่อตั้งแบรนด์สินค้าบำรุงเส้นผม Fix My Curls โดยธุรกิจของเธอเริ่มต้นมาจากความพยายามสรรหาผลิตภัณฑ์ในประเทศบ้านเกิดเพื่อบำรุงผมหยิกเป็นลอนของตัวเอง จนทำให้ Anshita ถึงกับต้องลงมือสร้างแบรนด์สินค้าบำรุงผมแบบเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม ซึ่งเธอบอกว่า ธุรกิจนี้ทำรายได้ไปแล้วถึงกว่า 2.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีการเงินที่สิ้นสุด ณ เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
Fix My Curls จากเมือง Gurgaon ที่ขายแชมพู ครีมนวดผม และผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหลากหลายรูปแบบนี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อช่วงต้นปี 2019 เมื่อเธอพักเรียนสาขาวิชานิเทศศาสตร์ที่แคนาดาเป็นเวลา 1 ภาคการศึกษาและกลับมาบ้าน พอเธอใช้ครีมบำรุงผมแบรนด์โปรดที่ช่วยไม่ให้ผมชี้ฟูจนหมดและหาซื้อไม่ได้ แม่ของเธอที่เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Fixderma จึงแนะนำว่า น่าจะทำขึ้นมาเองเองเสียเลย หลังจากนั้นเธอจึงทุ่มเทเวลาหลายเดือนร่วมงานกับทีมที่ Fixderma สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สำหรับผมหยิกเป็นลอน 5 อย่างจนแยกธุรกิจออกมาตั้งเป็นบริษัทต่างหากในปีถัดมา ซึ่งเธอถือหุ้น 68% ส่วนแม่ที่ร่วมลงทุน 200,000 เหรียญ เป็นผู้ถือหุ้นลำดับที่ 2
ทุกวันนี้ Fix My Curls บอกว่า ได้รับการสั่งซื้อแล้วมากกว่า 500,000 ครั้งจาก 10 ประเทศ ทั้งจากการขายผ่านเว็บไซต์บริษัทโดยตรง และผ่าน Amazon รวมถึงผู้ค้าปลีกผลิตภัณฑ์ความงามอย่าง Nykaa และแบรนด์อื่นๆ “ธุรกิจนี้มีโอกาสไปได้สวยมากๆ” Mehrotra กล่าว
แน่นอนว่านักลงทุนย่อมไม่พลาดโอกาส เมื่อเดือนเมษายนปี ปี 2024 เธอคว้าเงิน 100,000 เหรียญจาก Peak XV บริษัท VC ที่ให้ทุนแก่นักธุรกิจหญิง และอีกเดือนให้หลังยังระดมทุนได้อีก 910,000 เหรียญในรอบ seed ที่นำโดย Amazon Sambhav Venture Fund (ASVF) ด้วยมูลค่าประเมินของบริษัทที่ 6.8 ล้านเหรียญ ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์ม Traxen "เธอมีความเข้าใจลูกค้าในตลาดนี้อย่างลึกซึ้งและมุ่งมั่นกับการสร้างแบรนด์ให้เติบโต" Mayank Nandwani หุ้นส่วนระดับผู้บริหารของ ASVF กล่าว "หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล แต่ผมเชื่อว่าเธอจะบริหารงานได้เป็นอย่างดีและก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง"
เรียบเรียงโดย A. R
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เปิดทำเนียบ 30 Under 30 Asia ประจำปี 2025
