เผยการจัดอันดับความมั่งคั่งของกลุ่มบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ จำนวน 400 คน ประจำปี 2022 โดยปรากฏว่ามูลค่าทรัพย์สินของผู้อยู่ในรายชื่อมีมูลค่าต่ำกว่าเดิมเมื่อเทียบจากปีก่อน อีกทั้ง มูลค่าทรัพย์สินสุทธิขั้นต่ำของเศรษฐีชาวอเมริกันลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เหตุการณ์ The Great Recession ในปี 2007-2009 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในสภาวะถดถอย
เศรษฐีชาวอเมริกันจำนวน 400 คนซึ่งถูกจัดอันดับโดย Forbes ประจำปี 2022 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมกันทั้งหมดราวๆ 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งนับว่าลดลงจากปีก่อนถึง 5 แสนล้านเหรียญ
นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วิกกฤต The Great Recession ที่ขั้นต่ำของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในการจัดอันดับได้ลดลงมา 200 ล้านเหรียญ อยู่ที่ 2.7 พันล้านเหรียญในช่วงที่มีการเทขายทรัพย์สินในตลาด กลุ่มเศรษฐีที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจะอยู่ในกลุ่มที่ทำธุรกิจด้านเทคโนโลยี ซึ่งสูญเสียทรัพย์สินมูลค่ารวมกันราว 3.15 แสนล้านเหรียญ
ทั้งนี้ ปี 2022 ดูจะเป็นปีที่ดีสำหรับนักธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับน้ำมันและก๊าซ, นักกีฬาแชมเปี้ยน, หรือซีอีโอบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Elon Musk นอกจากนี้ ยังมีเศรษฐีทั้งหน้าใหม่และรายเดิมจำนวน 42 คน ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 29-90 ปี ซึ่งมีรายชื่ออยู่ในการจัดอันดับของปีนี้ มูลค่าทรัพย์สินที่ใช้ในการคำนวณอ้างอิงจากราคาหุ้นตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2022
10 อันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ ประจำปี 2022 มีดังนี้
อันดับ 1
Elon Musk
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2.51 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
อายุ: 51 ปี
แหล่งที่มารายได้: Tesla, SpaceX
คะแนนความใจบุญ: 1/5
Elon Musk ร่วมก่อตั้งบริษัท 6 แห่ง หนึ่งในนั้นรวมถึง บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla, บริษัทเทคโนโลยีผลิตจรวดอวกาศ SpaceX, และ บริษัทสตาร์ทอัพ The Boring Company ซึ่งทำธุรกิจกิจขุดเจาะอุโมงค์ ปัจจุบัน Musk เป็นเจ้าของหุ้นและตราสารสิทธิใน Tesla ถึงร้อยละ 25
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผู้บริหารของ Twitter ได้ตกลงขายแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียดังกล่าวให้แก่ Musk ในราคา 4.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ทว่า 3 เดือนให้หลัง ซีอีโอมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกได้ยกเลิกข้อตกลงดังกล่าว โดยยกข้อกังวลที่มีต่อจำนวนบ็อต (bot) ในแพลตฟอร์มเป็นข้ออ้างในการออกจากข้อตกลงซื้อกิจการ
อันดับ 2
Jeff Bezos
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.51 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
อายุ: 58 ปี
แหล่งที่มารายได้: Amazon
คะแนนความใจบุญ: 2/5
Jeff Bezos ก่อตั้ง Amazon บริษัทอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ในปี 1994 ภายในโรงรถของเขาที่รัฐ Seattle ในเดือนกรกฎาคมของปี 2021 Bezos ออกจากตำแหน่งซีอีโอของบริษัทและทำหน้าที่ประธานกรรมการบริหารแทน ปัจจุบันเขาถือหุ้นบริษัท Amazon ไม่ถึงร้อยละ 10
นอกเหนือจากบริษัทให้บริการแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ Bezos ยังเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ The Washington Post และบริษัท Blue Origin ซึ่งพัฒนายานอวกาศ
อันดับ 3
Bill Gates
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.06 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
อายุ: 66 ปี
แหล่งที่มารายได้: Microsoft
คะแนนความใจบุญ: 5/5
ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft ได้ขยายธุรกิจซอฟต์แวร์ดังกล่าวสู่การเป็นบริษัท Holding Company พร้อมลงทุนในกลุ่มธุรกิจพลังงานสะอาดและบริษัทอื่นๆ อย่างบริษัท Republic Services หรือ Deere & Co. นอกจากนี้ Bill Gates ยังเป็นเจ้าของที่ดินสำหรับเกษตรกรรมรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคมของปี 2020 Bill Gates มีหุ้น Microsoft จำนวนร้อยละ 1.3 ขณะก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอของบริษัท
ปัจจุบัน Gates มียอดเงินบริจาคสะสมจำนวนถึง 5.7 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งได้มอบให้แก่ Gates Foundation มูลธินิธิที่มีจุดประสงค์ในการช่วยเหลือผู้ยากไร้ทางการศึกษาและสาธารณสุขในประเทศกำลังพัฒนา
อันดับ 4
Larry Ellison
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.01 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
อายุ: 78 ปี
แหล่งที่มารายได้: Oracle
คะแนนความใจบุญ: 1/5
Larry Ellison เป็นประธานกรรมการ, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี, และผู้ร่วมก่อตั้งของบริษัทเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ Oracle ซึ่งเขาได้ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 35 บริษัท Oracle เติบโตจากการเข้าซื้อบริษัทที่ทำธุรกิจด้านซอฟต์แวร์ หนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดที่ Oracle ซื้อได้แก่ Cerner ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบไอทีด้านการแพทย์
นอกจากนี้ Ellison ยังเคยเป็นหนึ่งในผู้บริหารของบริษัท Tesla ในเดือนธันวาคมของปี 2018 จนถึงสิงหาคมปี 2022 ปัจจุบัน เขายังคงถือหุ้น Tesla จำนวน 15 ล้านหุ้น
อันดับ 5
Warren Buffett
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 9.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
อายุ: 92 ปี
แหล่งที่มารายได้: Berkshire Hathaway
คะแนนความใจบุญ: 5/5
Warren Buffett ผู้มีฉายาว่า “Oracle of Omaha” หรือพ่อมดแห่งโอมาฮ่า เป็นหนึ่งในนักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเงิน Buffett ดูแลและบริหารกลุ่มบริษัท Berkshire Hathaway ซึ่งทำธุรกิจโดยมีรายได้จากการถือหุ้นในบริษัทอื่น Geico, Duracell, และ Dairy Queen เป็นหนึ่งในบริษัทที่ Berkshire Hathaway เป็นเจ้าของ
Buffett เป็นบุตรชายของสมาชิกรัฐสภาแห่งสหรัฐฯ เริ่มซื้อหุ้นตอนเขาอายุ 11 ปี และเสียภาษีเงินได้ครั้งแรกในขณะมีอายุได้เพียง 13 ปี ทั้งเขาและ Bill Gates ได้ร่วมกันจัดทำ Giving Pledge ในปี 2010 ซึ่งเป็นแคมเปญรณรงค์ให้เหล่ามหาเศรษฐีแบ่งทรัพย์สินส่วนตนอย่างน้อยกึ่งหนึ่งสำหรับการทำกุศล
อันดับ 6
Larry Page
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 9.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
อายุ: 49 ปี
แหล่งที่มารายได้: Google
คะแนนความใจบุญ: 1/5
ในปี 1998 Larry Page ก่อตั้งบริษัท Google ร่วมกับ Sergey Brin ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นนักศึกษาปริญญาดุษฎีบัณฑิตอยู่ที่มหาวิทยาลัย Stanford เขาดำรงตำแหน่งซีอีโอจนกระทั่ง Eric Schmidt ได้เข้ามาบริหารในปี 2001 หลังจากนั้น Page ได้กลายเป็นซีอีโอของบริษัท Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google ตั้งแต่ปี 2011 ถึง 2015
อันดับ 7
Sergey Brin
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 8.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
อายุ: 49 ปี
แหล่งที่มารายได้: Google
คะแนนความใจบุญ: 2/5
Sergey Brin ร่วมก่อตั้งบริษัท Google หลังจากที่ได้พบกับ Larry Page ที่มหาวิทยาลัย Stanford โดยทั้งคู่ได้ทำการศึกษาวิจัยด้าน Computer Science บริษัท Google ได้แปรสภาพกิจการเป็นบริษัทมหาชนในปี 2004 และเริ่มแปลงหุ้นโดยใช้ชื่อบริษัทแม่ Alphabet ในปี 2015
Brin ลาออกจากการเป็นประธานบริษัท Alphabet ในปี 2019 แต่เขายังคงมีบทบาทในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่และสมาชิกของบอร์ดบริหาร
อันดับ 8
Steve Ballmer
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 8.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
อายุ: 66 ปี
แหล่งที่มารายได้: Microsoft
คะแนนความใจบุญ: 2/5
หลังดรอปเรียนจากมหาวิทยาลัย Stanford ขณะศึกษาหลักสูตรบริหารธุรกิจ Steve Ballmer เข้าทำงานที่บริษัท Microsoft ในปี 1980 และได้กลายเป็นซีอีโอผู้บริหารในช่วงที่บริษัทเทคโนโลยีรายอื่นๆ อย่าง Google และ Apple เริ่มเติบโตและตีตลาดเทคโนโลยี
ปีที่ Ballmer เกษียณ เขาได้เข้าซื้อ Los Angeles Clippers ทีมบาสเก็ตบอลของ NBA มหาเศรษฐีรายนี้เดินหน้าทำการกุศลตั้งแต่ปี 2014 โดยทุ่มเงินจำนวน 2 พันล้านเหรียญแก่กองทุนที่มีวัตถุประสงค์ในการแก้ไขปัญหาความยากจนในหมู่คนอเมริกัน
อันดับ 9
Michael Bloomberg
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 7.68 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
อายุ: 80 ปี
แหล่งที่มารายได้: Bloomberg LP
คะแนนความใจบุญ: 4/5
Michael Bloomberg ร่วมก่อตั้งบริษัท Bloomberg LP ผู้ให้บริการด้านข่าวและข้อมูลทางการเงินในปี 1981 เขาเริ่มทำงานที่ธนาคาร Salomon Brothers ใน Wall Street เมื่อปี 1966 ก่อนจะถูกไล่ออก 15 ปีให้หลัง ปัจจุบันบริษัท Bloomberg ประมาณรายได้อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านเหรียญ
อันดับ 10
Jim Walton
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 5.79 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
อายุ: 74 ปี
แหล่งที่มารายได้: Walmart
คะแนนความใจบุญ: 1/5
Jim Walton เป็นบุตรชายคนเล็กสุดของ Sam Walton ผู้ก่อตั้งแฟรนไชส์ซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่อย่าง Walmart เขานั่งอยู่ในบอร์ดผู้บริหารเป็นเวลากว่า 10 ปี ก่อนจะยกตำแหน่งให้แก่ลูกชาย Steuart Walton ในปี 2016 ปัจจุบัน เขาถือส่วนแบ่งหุ้นของ Walmart ครึ่งหนึ่งร่วมกับทายาทคนอื่นๆ ในตระกูล
แปลและเรียบเรียงโดย สิรินนรี อ๋องสกุล จากบทความ The Definitive Ranking of The Wealthiest Americans In 2022 เผยแพร่บน Forbes.com
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine