เคยเชื่อกันว่าเรือสำราญสุดหรูคือเรือสำราญขนาดเล็ก แต่เทรนด์นี้กำลังเปลี่ยนไป กับเรือสำราญขนาดใหญ่แบบ smartship ที่ถึงพร้อมทุกความทันสมัย และสร้างสรรค์ความหรูหรายิ่งกว่ารีสอร์ตคอมเพล็กซ์ ระดับ 5 ดาวบนพื้นดิน ไม่มีคำว่าเบื่อ ด้วยกิจกรรมนานาประการ และเพิ่มเติมความเป็นส่วนตัวด้วยพื้นที่กว้างใหญ่ของเรือชนิดที่ไม่ต้องร่วมโต๊ะอาหารกับใครถ้าไม่ต้องการ
เรือสำราญเป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางอย่างลักชัวรี่มาแต่ไหนแต่ไร เมื่อการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกระหว่างยุโรปกับอเมริกายังมีเพียงหนทางเรือ และผู้โดยสารเฟิสต์คลาสคือผู้ที่ได้สำราญกับการเดินทางอันหรูหราตลอดระยะเวลา 6-7 สัปดาห์ แต่เมื่อมีเครื่องบินพาณิชย์มาทำหน้าที่ตรงนั้นแทนเรือเดินสมุทรก็แปรเปลี่ยนไปเป็นเรือสำราญเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ และเมื่อซีรีส์โทรทัศน์ Love Boat เกิดขึ้นมาในยุคทศวรรษ 1970 เรือสำราญขนาดใหญ่ก็กลายเป็นเรื่องของคนระดับมิดเดิลคลาส ทำให้คนระดับ Elite หันไปใช้บริการเรือสำราญขนาดเล็กหรือถึงกับมีเรือยอชต์ส่วนตัวกัน
แต่พอมาถึงทศวรรษ 2010 นี้ เทรนด์การเดินทางท่องเที่ยวทางเรือได้เปลี่ยนไปอีกครั้งธุรกิจเรือสำราญเฟื่องฟูถึงขีดสุด มีการเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่ๆ ไปทั่วโลกและมีการสร้างเรือให้ลำใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนมีขนาดราวตึกทั้งบล็อก ทั้งยังใช้เทคโนโลยีทันสมัยล่าสุดในทุกส่วน
ตั้งแต่การเดินเรือจไปจนถึงการกำจัดขยะและบำบัดน้ำเสีย และจากนั้นไม่นาน จาก Megaship ก็ได้กลายเป็น Smart ship ที่ถึงพร้อมทุกความทันสมัยจนอาจแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อได้เห็นเรือขนาดตึก 15 ชั้นสามารถกลับลำได้ด้วยการหมุนรอบตัว ไม่ต้องไปตีวงโค้งกลับลำกลางทะเลกว้างอีก 5 ไมล์ข้างหน้าอย่างแต่ก่อน
สิ่งสำคัญที่สุดที่เรือสำราญมีระดับในยุคนี้ทำก็คือการแยกย่อยการบริการออกไปเพื่อให้ผู้มาใช้บริการทุกระดับได้มีพื้นที่ส่วนตัวหมดยุคแล้วกับการมานั่งรับประทานอาหารพร้อมกันในห้องโถงใหญ่ ที่ผู้โดยสารสำคัญจะต้องมานั่งโต๊ะกลางห้องเพื่อรับประทานอาหารกับกัปตันที่ Captain’s Table บนเรือสมัยใหม่ ผู้โดยสารระดับห้องสวีท จะมีบริเวณเช็กอินต่างหากมารับประทานอาหารต่างหากซึ่งแน่นอนมีห้องรับประทานอาหารต่างหาก ซึ่งแน่นอนว่าเมนูที่เชฟสร้างสรรค์มาให้
โดยเฉพาะก็จะพิเศษสุด ทั้งยังมีส่วนสปาที่ไพรเวทด้วยและแน่นอนว่าถ้าผู้โดยสารระดับ crème de la crème ต้องการ ก็สามารถใช้บริการอื่นๆ ที่มีอยู่มากมายในเรือได้ อาทิ คาสิโน ดูโชว์ หรือทำกิจกรรมต่างๆ ที่มีอยู่สารพัดตั้งแต่ไต่หน้าผาจนถึงเล่นกระดานโต้คลื่น !
ซึ่งนั่นทำให้เทรนด์ของผู้โดยสารระดับหรูเปลี่ยนไปจากการไปกับเรือสำราญหรูขนาดเล็กที่ไม่มีอะไรให้ทำมากไปกว่านั่งๆ นอนๆ (และกิน) ที่ดูเป็นเรื่องของผู้สูงอายุมากไปสักนิดบนพื้นที่ค่อนข้างจำกัดเมื่ออยากทำกิจกรรมอื่นใดก็ต้องลำบากลงจากเรือขึ้นฝั่งซึ่งบางครั้งท่าเรือแปลกถิ่นก็อาจทำให้ต้องผจญภัยกันโดยไม่จำเป็น
เรือสำราญขนาดใหญ่อันเป็นยุคใหม่ของ luxury cruise อย่างเรือ Quantum of the Seas, Harmony of the Seas, และ Ovation of the Seas ของ Royal Caribbean (www.royalcaribbean.com) มีห้องพักหรูหราทั้งแบบสวีทไปจนถึงอะพาร์ตเมนต์ 2 ชั้นแยกส่วนห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ห้องรับแขกมีจากุซซี่ (กลางแจ้ง)
ห้องอาหารบนเรือที่เปลี่ยนแปลงจากดั้งเดิมนั้นก็มีการใช้คอนเซปต์ใหม่ เปลี่ยนเป็นห้องรับประทานอาหารขนาดเล็กเหมือนเป็นร้านอาหารร้านหนึ่ง และนำเสนอรสชาติแตกต่างให้เลือก มีทั้งฝรั่งเศส อเมริกัน จีน ฯลฯ ไม่เพียงเท่านั้น ยังนำร้านอาหารของเซเลบริตี้เชฟระดับ โลก อาทิ Jamie’s Italian ของ Jamie Oliver ขึ้นมาไว้บนเรือ
สำหรับกิจกรรมบนเรือนั้น ทางเรือได้สร้างสรรค์ความมหัศจรรย์บนเรือในแบบที่เรียกว่าไม่น่าเชื่อว่าจะยกสิ่งเหล่านั้นมาไว้บนเรือได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “ซอฟต์ๆ” อย่างลานสเก็ตน้ำแข็ง หรือโรงฝึกกายกรรม หน้าผาจำลอง กระดานโต้คลื่น ตู้ลมเพื่อทดลอง “บิน” ในภาวะไร้น้ำหนัก ไปจนถึงเครื่องเล่นสไลเดอร์ที่มีความสูงเทียมตึก 10 ชั้น ซิปไลน์สระน้ำลึกสำหรับโชว์กระโดดน้ำและกระเช้า “North Star” ที่สามารถยกขึ้นสูงเหนือดาดฟ้าเรือขึ้นไปและกางออกไปข้างกราบเรือเหนือน้ำได้ด้วย เป็นประสบการณ์แบบ one of a kind อย่างแท้จริง
แต่สำหรับใครที่ไม่อยากผจญภัยหรือเล่นกิจกรรมหวาดเสียวขนาดนั้น ก็อาจไปนั่งจิ้มแท็บเล็ตหน้า Bionic Bar ให้เครื่องอัตโนมัติพร้อมแขนกล ผสมเครื่องดื่มในแบบที่คิดขึ้นเองให้ลองชิมได้อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นความหรูหราอย่างไม่ต้องขวนขวายบนเรือสำราญขนาดใหญ่ ก็คือโชว์บนเรือที่มีการยกเวทีบรอดเวย์มาแสดงในเธียเตอร์ขนาด 1,400 ที่นั่ง ให้ดูแบบฟรีๆ อย่างไม่ต้องเดินทางไป New York หรือ London โดยนักแสดงที่มีฝีมือและระบบแสงเสียง ซึ่งเทียบเท่าเวทีในโรงละครบนพื้นดินเลยทีเดียวทุกวันนี้ เรือสำราญสุดหรูขนาดใหญ่เดินทางไปให้บริการทั่วโลก
นอกเหนือจากเส้นทางดั้งเดิมที่คุ้นเคย อย่าง Mediterranean Alaska Caribbean ฯลฯ มีหลายลำเข้ามาถึงเมืองไทย ไปตะวันออกไกล จีน ญี่ปุ่น และเดินทางลงไปถึงออสเตรเลีย ทำให้สามารถไปสัมผัสความหรูนี้ได้อย่างสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น
