Seven Stars in Kyushu รถไฟหรูขบวนแรกบนเกาะ Kyushu เริ่มให้บริการครั้งแรกเมื่อ 3 ปีก่อน ออกเดินทางจาก Fukuoka ผ่าน Oita Miyazaki Kagoshima และ Yamamoto แวะเมืองที่เป็นไฮไลต์ของ Kyushu อย่าง Yufuin และ Nagasaki ขบวนรถหรูหราทั้งภายนอกและภายในด้วยการตกแต่งงานศิลป์ จากฝีมือระดับศิลปินแห่งชาติของญี่ปุ่น
รถไฟที่มีชื่อเสียงมานานอย่าง Orient-Express อาจเป็นภาพลักษณ์ของการโดยสารรถไฟหรูของศตวรรษก่อน ที่มากับความเนิบช้า เก่าแก่ เป็นความหรูหราในแบบของยุคโบราณหรือที่ฝรั่งชอบเรียกกันว่า bygone era มีขบวนรถไฟหรูเช่นนี้ให้บริการอยู่ในทวีปต่างๆ ทั่วโลก แม้ในปัจจุบัน แต่ความหรูแบบเดิมๆ นี้เทียบไม่ได้เสียแล้วกับความหรูแบบ over the top ของรถไฟลักชัวรีแบบญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นมาด้วยความที่ว่าคนญี่ปุ่นนั้น เคยเป็นกองทัพนักท่องเที่ยวบุกโลกในทุกรูปแบบ แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อสภาพสังคมและเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเปลี่ยนไป คนญี่ปุ่นที่มีเงินหันมาเที่ยวในประเทศมากขึ้น จึงมีการสร้างสรรค์โปรดักส์การท่องเที่ยวสำหรับ “ไฮเอนด์” ขึ้นเพื่อตอบสนองกลุ่มคนดังกล่าว โดยเฉพาะรถไฟหรู ที่หรูยิ่งกว่าโรงแรม 5-6 ดาวเสียอีก Seven Stars in Kyushu เป็นรถไฟหรูขบวนแรกของญี่ปุ่น เริ่มให้บริการครั้งแรกเมื่อ 3 ปีก่อน บนเกาะ Kyushu โดยเริ่มต้นออกเดินทางจาก Fukuoka ผ่าน Oita Miyazaki Kagoshima และ Yamamoto แวะเมืองที่เป็นไฮไลต์ของ Kyushu อย่าง Yufuin และ Nagasaki ทว่าเรื่องเส้นทางท่องเที่ยวดูจะไม่ใช่ประเด็นเท่าไรนัก เมื่อเทียบกับความหรูหราของตัวรถไฟและการบริการแบบ 5 ดาวที่ยากจะหาใครทัดเทียมได้ เมื่อต้นปีนี้ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ The Telegraph ได้ลิสต์รถไฟ Seven Stars ว่าเป็นหนึ่งในขบวนรถไฟหรูที่สุดของโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเพราะเราต่างก็ทราบดีว่า เวลาญี่ปุ่นหรูนั้นเขาหรูประณีตกันขนาดไหน ขบวนรถไฟ Seven Stars มีด้านนอกของตัวรถไฟที่เงาวับราวกับเครื่องไม้เคลือบแลคเกอร์ของญี่ปุ่น บริเวณทางเดินภายในตู้โดยสารห้องพักตกแต่งด้วยไม้เนื้อดี โดยแต่ละตู้ใช้ไม้ต่างชนิดบุเป็นผนังและเพดาน จึงให้สีและบรรยากาศที่ต่างกันไป ทั้งยังมีฉากไม้สไตล์ญี่ปุ่นที่แสนบอบบางประดับอยู่ด้วย จนผู้เดินทางอดหวั่นเกรงไม่ได้ว่าเมื่อเดินโยกเยกไปตามแรงเหวี่ยงของรถไฟแล้ว อาจจะไปกระแทกหรือพิงจนของเขาหักพังเสียหายได้ ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อเข้าไปในแต่ละห้องพักยังมีงานอาร์ตที่เป็นศิลปะของขึ้นชื่อของ Kyushu ประดับไว้ด้วยอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะเครื่องพอร์ซเลนอาริตะ (Arita Porcelain) วาดลวดลายด้วยมือและใช้สีส้มพิเศษแต่งแต้มที่เรียกว่า คาคิเอมง (Kakiemon) อ่างล้างมือในห้องน้ำของห้องพักแต่ละห้องนั้น เป็นอ่างกระเบื้องเคลือบที่ออกแบบวาดลวดลายแบบหนึ่งเดียว โดยฝีมือของ Sakaida Kakiemon ที่ 4 ช่างศิลป์ระดับศิลปินแห่งชาติของญี่ปุ่นที่ฝากผลงานไว้กับรถไฟขบวนนี้เป็นผลงานครั้งสุดท้ายเพราะเขาเสียชีวิตก่อนรถไฟจะเริ่มการเดินทางเที่ยวแรกเพียงไม่กี่เดือน ห้องพักภายในรถไฟ Seven Stars มีเพียง 12 ห้องคู่ และ 2 ห้องสวีท แม้จะตกแต่งแบบมีกลิ่นอายของญี่ปุ่นดั้งเดิม แต่ก็มีเครื่องอำนวยความสะดวกทันสมัยไฮเทคโนโลยีครบครนทุกอย่างเช่นเดียวกับโรงแรมชั้นหนึ่งของโลกโดยทั่วไป นอกจากนั้นแล้ว ขบวนรถไฟ Seven Stars ยังมีตู้ห้องอาหารและห้องเลานจ์ด้วย โดยที่เลานจ์มีบาร์เสิร์ฟเครื่องดื่มและนักดนตรีบรรเลงเปียโน ไวโอลินให้ฟังเพลิน และผู้โดยสารอาจไปนั่งชมวิวที่หน้าต่างบานกระจกบานกว้างที่ท้ายขบวนในห้องเลานจ์นั้นได้ เมื่อพูดถึงห้องอาหาร อาหารบนรถไฟ Seven Stars ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของความหรูหราที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ เพราะมีอาหารชั้นเยี่ยมจัดให้รับประทานทุกมื้อ ตั้งแต่อาหารเย็น 10 คอร์สแบบ Kaiseki อาหารกลางวันแบบ Bento จากร้านขึ้นชื่อที่สุดบนเมืองทางผ่าน อาหารแบบฝรั่งที่เชฟประกอบสดๆ บนรถไฟ และอาหารเช้าเพื่อสุขภาพที่จัดให้รับประทานแบบบุฟเฟต์ที่สถานีซึ่งจอดพักค้างคืน ถ้าเดินทางไปกับรถไฟแบบ 2 วัน 1 คืน รถไฟจะจอดพักค้างคืนในจุดสถานีรถไฟที่กำหนดไว้ แต่ถ้าเป็นคอร์สเดินทางแบบ 4 วัน 3 คืน จะมีคืนหนึ่งที่ผู้เดินทางได้เดินทางไปพักค้างยังเรียวกังระดับ 5 ดาว เพื่อแช่น้ำพุร้อน และสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบท้องถิ่น Kyushu อย่างแท้จริง โดยมีรถโค้ชวีไอพี Seven Stars ที่วิ่งตามรถไฟมาตลอดให้บริการต่อในส่วนนี้เพื่อจะได้ไม่ต้องไปใช้บริการรถของคนอื่นที่ไม่แน่ใจว่าจะได้ระดับความหรูที่ต้องการหรือไม่ ก่อนจะขึ้นไปใช้บริการรถไฟ Seven Stars ได้ ผู้ที่อยากไปสัมผัสประสบการณ์สุดหรูนี้บ้างต้องยื่นใบสมัครขอจองการเดินทางในช่วงวันเวลาที่กำหนด อาทิ เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางรถไฟได้เปิดให้ยื่นขอจองการเดินทางระหว่างเดือนตุลาคม 2017-กุมภาพันธ์ 2018 ไปแล้ว จากนั้นจะมีการ “สุ่ม” ผู้โชคดีขึ้นมาจากใบสมัครดังกล่าว เรียกว่าถึงมีสตางค์ก็ซื้อไม่ได้ ต้องมีโชคร่วมด้วย โดยราคาเริ่มต้นสำหรับคอร์ส 4 วัน 3 คืน ห้องคู่คือราวคนละ 9 แสนเยน และราคาสูงสุดคือ 1 ล้าน 5 แสนเยนMore Luxury Trains in Japan
- Train Suite Shiki-Shima ขบวนรถไฟตู้นอน ทั้งขบวนมี 17 ห้อง แต่ละห้องเป็นห้องสวีท ตัวรถไฟสร้างอย่างทันสมัย ไฮเทค ออกแนว futurism ออกเดินทางจากสถานี Ueno ผ่าน Tochigi เห็นวิว Nikko วิ่งขึ้นไป Hokkaido เห็นวิวเมือง Hakodate และลงมายัง Yamagata เมือง Tsuruoka และวนมายัง Niigata เมือง Tsubame มีโปรแกรมเดินทางตั้งแต่ 2 วัน 1 คืน ถึง 4 วัน 3 คืน http://www.jreast.co.jp/shiki-shima/en/
- Twilight Express Mizukaze เดินทางระหว่าง Kyoto/Osaka กับ Shimonoseki ในจังหวัด Yamaguchi บนเส้นทางเลียบทะเลญี่ปุ่น ในขบวนมีแค่ 16 ห้อง ภายในรถไฟตกแต่งสไตล์ตะวันตกทันสมัย มีโปรแกรมเดินทางตั้งแต่ 2 วัน 1 คืน และ 3 วัน 2 คืน http://twilightexpress-mizukaze.jp/en/
อ่านบทความอื่นๆ ได้ที่ Forbes Thailand Magazine ฉบับ กันยายน 2560 ในรูปแบบ e-Magazine