Luxury Travel : NAGANO Japan - Forbes Thailand

Luxury Travel : NAGANO Japan

FORBES THAILAND / ADMIN
10 Dec 2015 | 02:33 PM
READ 1043

คุณดุ๊ก ภูษณุ โลกาศิริวัตร ผู้ก่อตั้งและ CEO แห่ง World Surprise Travel บริษัทท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำในการเดินทางที่มีเอกลัษณ์เฉพาะตัว บนเส้นทางแบบเจาะลึกที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ คือผู้หนึ่งที่หลงใหลวินเทอร์สปอร์ต โดยเฉพาะการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด เขายกให้จังหวัด Nagano ในประเทศญี่ปุ่นเป็นที่เล่นสกีที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุดสำหรับคนไทย

“4 เหตุผลครับ หนึ่งคือไม่ไกลเกินไป สองคือพาวเดอร์สโนว์ สามคือออนเซน และสี่คืออาหารที่มีความหลากหลายและอร่อย" จังหวัด Nagano ถือเป็นทูออฟเดอะเบสต์ สำหรับเล่นสกีในญี่ปุ่น (อีกที่คือHokkaido) หิมะที่นี่จะเป็นพาวเดอร์ สโนว์ละเอียดเหมือนแป้งเนื้อหิมะนุ่มมาก คนเล่นสกีจะรู้ดีว่าพาวเดอร์สโนว์ คือสุดยอดหิมะที่เหมาะที่สุดกับการเล่นสกี เพราะเล่นแล้วสนุก เล่นแล้วมัน ล้มแล้วไม่เจ็บ ซึ่งที่เล่นสกีในโลกไม่ใช่ทุกที่ที่จะมีพาวเดอร์ สโนว์ ขึ้นอยู่กับอากาศและความสูง ที่เล่นสกีที่ Nagano จะแบ่งเป็นหลักๆ 3 จุดคือ ฝั่ง Hakuba ซึ่งเจ๋งตรงที่มีสโลปเล่นสกีที่หลากหลายมาก แล้วก็ฝั่ง Shikakogen ซึ่งมีถึง 19 ลานสกีและสุดท้ายคือตรงน้ำพุร้อน Nozawa ที่คุณสามารถเดินไปแช่ออนเซนที่หมู่บ้านน้ำพุร้อน ได้เลยหลังเล่นสกีเสร็จ ซึ่งที่ Nagano มีบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงถึง 200 แห่ง และหมู่บ้าน Nozawa ก็เป็นหมู่บ้านออนเซนที่สวยงามและมีชื่อเสียง โดยส่วนตัวผมชอบพักฝั่ง Hakuba ฝั่งนี้โรงแรมจะมีความลักชัวรีมากกว่า และทันสมัยกว่า มีกลิ่นอายของความเป็นตะวันตก ส่วนฝั่ง Shigakogen โรงแรมจะมีความเป็นญี่ปุ่นกว่าฉะนั้นที่นี่จึงไม่ได้มีแต่ภูเขาหรือหิมะให้ เล่นสกีเพียงอย่างเดียว แต่เป็นจังหวัดที่รวมเอาความหลากหลายของญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งเมืองขนาดกลาง หมู่บ้านชนบท สังคมเกษตร ธรรมชาติที่หลากหลาย ออนเซน กิจกรรมกลางแจ้งทั้งฤดูร้อนและหนาว เป็นเมืองที่มีความคอมเพล็กซ์และวาไรตี้ที่กลมกล่อม มีเสน่ห์มากๆ ฉะนั้นสำหรับคนไทยที่ชอบเล่นวินเทอร์สปอร์ตหรือสกีผมว่าที่นี่ค่อนข้างลงตัว ที่สุด How to Get There จังหวัด Nagano มีสนามบินอยู่ที่เมือง Matsumoto แต่ไม่มีไดเร็กไฟลต์บินไปจากเมืองไทย ฉะนั้นต้องบินไปลงที่สนามบิน Narita หรือ Haneda แล้วนั่งรถไฟเข้า Tokyo ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จากนั้นขึ้นรถไฟชินคันเซ็นที่โตเกียวสเตชั่นไป Nagano ใช้เวลาประมาณ 90 นาที ข้อดีของการนั่งรถไฟชินคันเซ็นก็คือรวดเร็ว และได้ยืดแข้งยืดขาสามารถลุกเดินไปมาได้ ถ้าจะพักที่ Hakuba ให้ลงที่สถานี Nagano แล้วนั่งรถบัสต่อไปอีก 1 ชั่วโมง แต่ถ้าจะไปพักที่ Shigakogen หรือหมู่บ้าน Nozawa ให้ลงที่สถานี Iiyama แต่ถ้าไม่อยากนั่งรถไฟหลายต่อก็สามารถนั่งรถบัส จากสนามบิน Narita หรือ Haneda ตรงไป Nagano เลยก็ได้ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง แต่โดยส่วนตัวผมว่ารถบัสนั่งไม่ค่อยสบายเท่ารถไฟ ถ้าเดินทางเป็นกลุ่มไปกันหลายคน แนะนำให้เหมาจัมโบ้แท็กซี่ไปเลยซึ่งต้องจองตั๋วล่วงหน้า สามารถจุผู้โดยสารได้ประมาณ 5-6 คน ราคาอยู่ที่ประมาณ 13,600 เยนต่อคน When to Go ไป ได้ทุกฤดู ขึ้นอยู่กับว่าอยากเห็น อยากเที่ยวอะไร ถ้าอยากเห็นดอกซากุระก็แนะนำให้ไป ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ช่วงกลางเดือนเมษายน) ถ้าอยากไปดูใบไม้เปลี่ยนสีก็ฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม-พฤศจิกายน) แต่ถ้าอยากเล่นสกีและวินเทอร์สปอร์ตพร้อมแช่ออนเซนก็ต้องฤดูหนาว (ธันวาคม-มีนาคม) Where to Stay ถ้าพักที่ Hakuba แนะนำโรงแรม Phoenix เป็นบูทีกโฮเทลระดับ 5 ดาว ถ้าพักที่ Shigakogen แนะนำ Shigakogen Prince Hotel East แต่ถ้าไปพักที่หมู่บ้าน Nozawa แนะนำ Onsen Ryokan Jon Nobiเป็นที่พักสไตล์เรียวกังที่ผสานเอาความหรูหราและความโมเดิร์นเข้าไว้กับกลิ่นอายของเรียวกังแบบดั้งเดิมได้อย่างลงตัว แล้วก็ Yuyado Sekiya Kambayashi Onsen เป็นบูทีกเรียวกังที่เทพมาก มีแค่ 8 ห้องเป็นห้องสวีตทั้งหมดแต่ละห้องมีบ่อแช่น้ำร้อน ที่นี่เป็นที่ที่ผมชอบที่สุด Things to Do ถ้า จะไปเล่นสกี อันดับแรกที่ควรทำเมื่อไปถึงคือไปเรียนพื้นฐานเบื้องต้นการเล่นสกีซึ่ง แนะนำให้จองคอร์สเรียนจากเมืองไทยก่อนไป ผมแนะนำว่าไปถึงปุ๊บให้เรียนคลาสบิกินเนอร์วันนั้นก่อนเลยใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง พอรุ่งขึ้นก็ไปลองเล่นสักหนึ่งวัน แล้วค่อยกลับมาเรียนอีกคอร์ส intermediate ในวันต่อมา แล้วเราจะเอ็นจอยกับการเล่นสกีมากขึ้น พอ ตอนเย็นๆ ก็มานอนแช่ออนเซนผ่อนคลายเสร็จแล้วก็ใส่ชุดยูกาตะเดินเล่นในเมืองออนเซนวัน ไหนไม่เล่นสกีแนะนำให้ไปดูลิงหิมะแช่น้ำแร่ที่อุทยานลิงหิมะ Jigokudani หรือจะไปเที่ยวชมฟาร์มวาซาบิที่เมือง Azumino ซึ่งเป็นแหล่งผลิตวาซาบิที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่นหรือไปเที่ยวเมือง Obuse ชมโรงงานผลิตเหล้าสาเกเก่าแก่ และลองชิมขนมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเกาลัด ถ้าไปช่วงฤดูใบไม้ผลิจะเห็นดอกซากุระสวยงามเต็มไปหมด อีกทั้ง Nagano ยังขึ้นชื่อเรื่องเส้นโซบะเนื่องจากภมิ ประเทศเหมาะกับการปลูกต้นโซบะมีหลายที่ในจังหวัดที่มีการสาธิต และสอนวิธีการทำโซบะซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์การท่องเที่ยวของ Nagano ที่ www.go-nagano.net แล้วจะรู้ว่าเป็น Nagano จังหวัดในญี่ปุ่นที่มีที่เที่ยวเยอะและสวยมากๆ What to Bring ถ้า ไปเล่นสกีช่วงฤดูหนาวให้นำเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวไปให้ครบ ที่ขาดไม่ได้คือลองจอห์นและพวกฮีตเทค ส่วนอุปกรณ์เล่นสกีไปเช่าเอาที่นั่นได้หมด เดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยีใหม่เรียกว่า Recco เป็นตัวสะท้อนสัญญาณตามหาคนหายเวลาเล่นสกี ซึ่งจะติดมากับชุดสำหรับเล่นสกี แนะนำว่าให้เลือกใส่ชิ้นที่มี Recco อย่างน้อย 2 ชิ้น อาจจะเป็นที่แจ็กเกตกับถุงมือ และที่สำคัญควรทำประกันอุบัติเหตุก่อนไป เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตอนเล่นสกี และค่ารักษาพยาบาลที่นั่นก็แพงมาก Where to Eat ถ้าชอบอาหารญี่ปุ่นทั่วไปแนะร้าน Obusedo Honten ในเมือง Obuse ซึ่งเป็นร้านที่อร่อยมากถ้าชอบกินโซบะแนะนำร้าน Kobayashi Soba กับร้าน Sobasho ที่เมือง Matsumoto What to Buy ด้วย อากาศที่เหมาะสม ข้าวคุณภาพดี และน้ำใสที่สะอาดทำให้เป็นที่ที่เหมาะในการผลิตสาเก และองุ่นไวน์เฮียวโคที่ให้รสชาติเหมือนดื่มไวน์ ผลไม้ที่นี่หวาน อร่อยมากๆ มีสวนแอปเปิ้ล ท้อ และสาลี่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเลือกเก็บซื้อผลไม้ด้วยตัวเองอีกทั้งยังมี วาซาบิ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเกาลัดของเมือง Obuse และโซบะชินชูที่ถือเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของจังหวัด Nagano อีกด้วย   เรื่อง: ปิลันธน์ ศรีวีระกุล / ภาพ: ภูษณุ โลกาศิริวัตร
คลิ๊กอ่าน Forbes Life Thailand ฉบับพิเศษ NOVEMBER 2015 ในรูปแบบ E-Magazine