The World’s Top 10 Mixed-Use Development - Forbes Thailand

The World’s Top 10 Mixed-Use Development

FORBES THAILAND / ADMIN
21 Dec 2017 | 11:29 AM
READ 13739

การเติบโตและขยายตัวของมหานครหรือ Urbanization ได้ขับเคลื่อนเทรนด์การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีการใช้สอยแบบผสมผสานหรือ mixed-use development ที่กำลังผุดตัวขึ้นทั่วโลก องค์การสหประชาชาติได้คาดการณ์ไว้ว่า จำนวนประชากรที่อาศัยในเมืองจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหรือเป็นจำนวน 6.5 พันล้านคนในปี 2050

Business Insider เว็บไซต์สื่อออนไลน์ในสหรัฐอเมริกาได้รวบรวมอภิมหาโครงการ mixed-use ตามเมืองสำคัญๆ ทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 9.06 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และกำลังจะเปลี่ยนโฉมเมืองใหญ่ของโลกภายในปี 2035 เพื่อรองรับกับการขยายตัวของเมือง มหานครชั้นนำอย่าง Paris, New York และ Tokyo กำลังมีการก่อสร้างโครงการ mixed-use ที่มีทั้งที่อยู่อาศัย และพื้นที่สาธารณะ เช่น สวนโรงเรียน และรถไฟใต้ดิน ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาเมืองขึ้นใหม่ ซึ่งบรรดามหานครเหล่านี้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายในทศวรรษหน้านี้อย่างแน่นอน มาดูกันว่าโครงการพัฒนา mixed-use ขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างมีที่เมืองใดบ้าง Europa City Paris, France Paris ได้เริ่มก่อสร้าง Europa City โครงการ mixed-use ขนาด 8.6 ล้านตารางฟุต ทางตอนเหนือของใจกลางเมืองตั้งแต่ปีที่แล้ว โครงการได้รับการออกแบบโดย Bjarke Ingels Group บริษัทสถาปนิกชื่อดังสัญชาติเดนมาร์กที่ฝากผลงานการออกแบบสำนักงานใหญ่ของ Google ใน California Europa City มีมูลค่าการพัฒนาราว 3.4 พันล้านเหรียญ จะประกอบไปด้วยที่อยู่อาศัย ร้านค้าและร้านอาหาร ซึ่งยังไม่มีการยืนยันตัวเลขจำนวนที่แน่นอนนอกจากนี้ ยังมีพลาซ่า เนินสกีเทียม ทางเท้าเปิดโล่งพื้นที่เล่นกอล์ฟ และระบบขนส่งแห่งใหม่ โครงการนี้จะอยู่แถบชานเมืองในย่าน Triangle de Gonesse ซึ่งยังเป็นเขตนอกเมืองพื้นที่ขนาดใหญ่โดยบริษัทผู้พัฒนา Europa City วางแผนให้โครงการนี้เป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับเขตใจกลาง Paris และลดความหนาแน่นของเมืองโครงการได้เริ่มการก่อสร้างในปี 2016 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2024 The City’s New Master Plan Sao Paulo, Brazil เมื่อปี 2014 เมือง São Paulo ได้เผยมาสเตอร์แพลนใหม่ ซึ่งคาดว่าจะพลิกโฉมหน้าตาของเมืองในอีก 2 ทศวรรษหน้า แผนการพัฒนาจะเน้นที่การพัฒนาเพื่อให้ผู้คนได้ใช้พื้นที่ทั้งบ้าน เลนจักรยาน เลนเฉพาะรถประจำทาง และเน้นที่การลดจำนวนพื้นที่จอดรถมีงานวิจัยที่ระบุว่า São Paulo กำลังขาดแคลนที่อยู่อาศัยถึง 500,000 ยูนิต ชาวเมือง São Paulo ราว 1.2 ล้านคนอาศัยอยู่ตามสลัมหรืออาคารร้างตามมาสเตอร์แพลนใหม่ São Paulo วางแผนสร้างที่อยู่อาศัยใหม่จำนวน 717,000 ยูนิต ภายในปี 2030 โดย 240,000 ยูนิตจะกำหนดให้มีราคาที่ไม่แพง มีอาคาร Centro de Acçao Social por Mu´sica ที่สร้างเสร็จในปี 2015 เป็นหนึ่งในกลุ่มอาคารแรกๆ ศูนย์ชุมชนขนาด 4 ชั้นแห่งนี้มีทั้งป้ายรถเมล์ สนามเด็กเล่น ฟาร์ม และโถงจัดการแสดง Europacity Berlin, Germany ชื่อโครงการ Europacity เหมือนใน Paris แถมแนวคิดการพัฒนาก็ไม่ต่างกันมากนัก โดย Europacity แห่งนคร Berlin เป็นการพัฒนา mixed-use บนพื้นที่ขนาด 100 เอเคอร์ (0.40 ตารางกิโลเมตร) ใกล้กับ Berlin Central Station ซึ่งว่ากันว่าจะเป็นศูนย์กลางย่านการค้าและที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ของเมืองการก่อสร้างได้เริ่มในปี 2014 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2025 โดยจะประกอบไปด้วยอะพาร์ตเมนต์ 2,000 ยูนิต พื้นที่สำนักงานและค้าปลีกขนาด 4.3 ล้านตารางฟุต โรงเรียน ถนน สะพานและพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ ซึ่งการพัฒนาโครงการใหม่ๆ เหมือนโครงการนี้ต่างโดนชาว Berliner บางกลุ่มออกมาต่อต้านและไม่เห็นด้วยกับการพัฒนาเมืองที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว Todtown Shanghai, China Todtown เป็นโครงการ mixed-use แห่งใหม่ใน Minhang เขตชานเมืองของ Shanghai ซึ่งการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2020 โครงการนี้จะประกอบไปด้วยอะพาร์ตเมนต์จำนวน 1,000 ห้อง ศูนย์การค้าพื้นที่ 1.3 ล้านตารางฟุต พร้อมพื้นที่ค้าปลีกขนาด 580,000 ตารางฟุต พื้นที่สำนักงานขนาด 1.5 ล้านตารางฟุต และศูนย์วัฒนธรรมบนพื้นที่ 53,000 ตารางฟุต นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่สีเขียวครอบคลุมทั้งโครงการ ทั้งหลังคาเขียวและสวนขนาดเล็กที่จะมีอยู่ทั่วโครงการ โดยมี Goettsch Partners บริษัทสถาปนิกจาก Chicago และ Lead 8 สตูดิโอด้านดีไซน์ในฮ่องกงเป็นผู้ออกแบบมาสเตอร์แพลน มูลค่าการก่อสร้างประมาณ 1.5 พันล้านเหรียญ ซึ่งเริ่มการก่อสร้างในปี 2014 New Cairo Capital Cairo, Egypt New Cairo Capital หรือ Cairo เมืองใหม่ ซึ่งอยู่ในทำเลทางตะวันออกของใจกลางเมือง Cairo จะเป็นศูนย์กลางที่อยู่อาศัยบนพื้นที่ขนาดใหญ่ราว 270 ตารางไมล์ (699 ตารางกิโลเมตร) โดยจะพัฒนาเป็นเขตที่อยู่อาศัยแห่งใหม่จำนวน 21 เขต สำหรับประชากร 5 ล้านคน โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินโดยกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากประเทศจีน เช่น บริษัท China Fortune Land Development เป็นส่วนใหญ่ บริษัทนี้ได้ลงทุน 2 หมื่นล้านเหรียญตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาCairo เมืองใหม่แห่งนี้จะประกอบไปด้วยมัสยิดและโบสถ์รวม 1,250 แห่งศูนย์การประชุมขนาด 5,000 ที่นั่ง โรงเรียนและวิทยาลัยรวมเกือบ 2,000 แห่ง โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์กว่า 600 แห่ง และสวนสาธารณะที่คาดว่าจะเป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในโลกการก่อสร้างได้เริ่มในปี 2015 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2022 โดยมีมูลค่าการพัฒนาประมาณ 4.5 หมื่นล้านเหรียญ The Battersea Power Station London, England The Battersea Power Station อาคารขนาดใหญ่รูปทรงแปลกตาที่มีปล่องไฟ 4 แท่งและถูกใช้เป็นปกอัลบั้ม “Animals” ในปี 1977 ของ Pink Floyd วงดนตรีร็อกระดับตำนานของอังกฤษ กำลังมีการปรับปรุงพัฒนาใหม่ ตัวตึกเดิมเป็นอาคารโรงผลิตไฟฟ้า ตั้งอยู่ใจกลางการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ในย่าน Nine Elms โดยมีมูลค่าการลงทุนราว 1.65 หมื่นล้านเหรียญ โครงการนี้จะประกอบด้วยที่อยู่อาศัย พื้นที่เชิงพาณิชย์อะพาร์ตเมนต์ โรงแรม และสำนักงาน โดยการก่อสร้างจะแบ่งเป็น 7 เฟส เฟสแรกเริ่มก่อสร้างในปี 2014 และเฟสสุดท้ายจะเสร็จในปี 2025 โครงการนี้มีพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมดรวมกว่า 8 ล้านตารางฟุตถือเป็นไซต์ก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดใน London มี Apple Inc. เป็นผู้เช่ารายใหญ่จับจองพื้นที่ไว้แล้ว โดย Apple จะย้ายสำนักงานใหญ่ใน London มาใช้พื้นที่ที่อาคารนี้ในปี 2021 และคาดว่าจะใช้พื้นที่ถึง 40% ของพื้นที่เช่าสำนักงานที่อาคารแห่งนี้ The World Trade Center New York City, USA หลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2011 New York City ได้พัฒนาพื้นที่ขนาด 16 เอเคอร์ (0.65 ตารางกิโลเมตร) ย่าน Manhattan ที่เป็นที่ตั้งเดิมของอาคารแฝดหรือ Twin Towers และอาคารโดยรอบ ปัจจุบัน กลุ่มอาคาร World Trade Center ใหม่ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จบางส่วน ประกอบด้วยอาคาร 1 World Trade Center หรือ Freedom Tower ซึ่งเป็นอาคารระฟ้าที่สูงที่สุดในเมืองด้วยความสูงกว่า 540 เมตร มีมูลค่าการก่อสร้างราว 3.9 พันล้านเหรียญ นอกจากนี้ ยังมีอาคาร 4 World Trade Center อาคาร 7 World Trade Center ศูนย์กลางระบบขนส่งแห่งใหม่ พิพิธภัณฑ์และสถานที่รำลึกเหตุการณ์9/11 ศูนย์การค้า และสวนสาธารณะ ส่วนอีก 3 อาคารที่เหลือ รวมทั้งโบสถ์ขนาดเล็ก และศูนย์การแสดงศิลปะการละครอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2020 Castellana Norte Redevelopment Madrid, Spain เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Madrid ได้อนุมัติโครงการพัฒนาใหม่มูลค่า 7.1 พันล้านเหรียญให้กับย่าน Castellana Norte ทางตอนเหนือของใจกลางเมือง ปัจจุบัน ที่ดินผืนนี้เป็นที่ตั้งของสถานีรถประจำทางของเขตเทศบาลเมือง บ้านไม่กี่หลัง รวมทั้งคลังสินค้าและอาคารอุตสาหกรรมที่ถูกปล่อยร้างมานานการพัฒนาใหม่ให้กับย่านนี้จะเปลี่ยนโฉม Castellana Norte ให้เป็นย่านอาคารระฟ้า สวนสาธารณะ ถนน สะพาน และอะพาร์ตเมนต์สำหรับ 17,000 คน ภายในปี 2035 New City Istanbul Istanbul, Turkey ฝั่งตุรกีก็มีการพัฒนาเมืองใหม่เช่นเดียวกับอียิปต์ โดยโครงการ Istanbul เมืองใหม่เป็นการพัฒนาที่เรียกได้ว่าเป็นภาพใหม่ของเมืองเก่าแก่ริมน้ำที่มีอายุถึง 8,000 ปีแห่งนี้เลยทีเดียวเมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา สภาเทศบาลเมืองได้อนุมัติแผนการพัฒนาก่อสร้างคอนโดมิเนียม 7 อาคารจำนวนรวม 50,000 ยูนิตบนที่ดินขนาดใหญ่ 2-3 แปลงใกล้ใจกลาง Istanbul โดยมีพื้นที่รวมขนาด 93.6 ล้านตารางฟุต ซึ่งบริเวณนี้เคยเป็นพื้นที่เขตทหารมาก่อน Istanbul เมืองใหม่จะมีศูนย์การค้า พื้นที่จอดรถใต้ดินขนาด 6,200 คัน สวนขนาด 26.9 ล้านตารางฟุต โรงหนัง ลานสเก็ตน้ำแข็ง และสนามบินที่คาดว่าจะเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการก่อสร้างได้เริ่มในปลายปีที่ผ่านมา ส่วนกำหนดการแล้วเสร็จและงบลงทุนยังไม่ได้รับการเปิดเผย สำหรับสนามบินที่จะเปิดให้บริการในปี 2018 ได้ใช้เงินลงทุนกว่า 6 พันล้านเหรียญ Shibuya Station Area Redevelopment Tokyo, Japan Tokyo กำลังขะมักเขม้นกับการเตรียมการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกในปี 2020 ซึ่งได้กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาใหม่ๆ ในเมืองหลายโครงการ มีการประเมินกันว่าจะมีอาคารระฟ้าแห่งใหม่เกิดขึ้นอย่างน้อย 45 อาคารทั่วกรุง Tokyo ภายในปี 2020 คิดเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นถึง 50% ในกลุ่มอาคารสูงที่มีอยู่ปัจจุบันในจำนวนนี้ มี 7 อาคารที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาพื้นที่ย่านสถานี Shibuya ใหม่ ประกอบด้วยอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก 6 อาคาร และอาคารคอนโดมิเนียมขนาด 32 ชั้น 1 อาคาร ซึ่งในแผนการพัฒนาพื้นที่ได้มีการเสนอให้นำ Shibuya River ทางเท้าที่มีพื้นที่แคบๆ มาพัฒนาใหม่ให้มีร้านค้าและพื้นที่สีเขียวเพิ่มมากขึ้น โครงการพัฒนาพื้นที่ย่านสถานี Shibuya ที่มีมูลค่าหลายพันล้านเหรียญแห่งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการในปี 2027
ติดตามการลงทุนและการใช้ชีวิตรอบโลกได้ที่ ForbesLife Magazine ฉบับพิเศษประจำเดือน พฤศจิกายน 2560 ได้ในรูปแบบ e-Magazine