The Great Phantoms สุดยอดยานยนต์ แฟนธอม - Forbes Thailand

The Great Phantoms สุดยอดยานยนต์ แฟนธอม

FORBES THAILAND / ADMIN
16 Jan 2018 | 06:24 PM
READ 12488
หลังจากที่ Sir Frederick Henry Royce นำเสนอ Rolls-Royce Phantoms เพื่อสืบทอดความสำเร็จต่อจากรุ่น Silver Ghost ในปี 1925 เป็นต้นมา Rolls-Royce Phantoms ได้กลายเป็นประจักษ์พยาน ผู้เฝ้ามองเหตุการณ์สำคัญ ตลอดระยะเวลานานกว่า 92 ปี ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ทั้งยังทำหน้าที่รับใช้บุรุษและสตรีผู้ทรงอำนาจสูงสุดของโลกผ่านวาระสำคัญมากมายทุกยุคสมัย Rolls-Royce Phantoms จึงเป็นตำนานแห่งโลกยานยนต์ระดับสูงที่ชื่อชั้นดำรงอยู่มาอย่างยาวนาน โดยบทพิสูจน์ผ่านผู้นำระดับสูงต่างยุคสมัยต่างที่สะท้อนถึงความสำคัญของ Rolls-Royce นับตั้งแต่ผู้ครองรัฐไปจนถึงนายพล ราชวงศ์ไปจนถึงนักร้องเพลงร็อก และดาราจอเงินไปจนถึงเจ้าพ่อแห่งวงการอุตสาหกรรม Rolls-Royce เริ่มผลิตรถยนต์รุ่น Phantoms ในปี 1925 โดยการผลิตถูกเก็บเป็นความลับสุดยอดภายใต้รหัสโครงการ Eastern Armoured Car ซึ่งทำให้ดูเหมือน Rolls-Royce ตั้งใจผลิตยานพาหนะทางทหารสำหรับใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 จนกระทั่งนำมาใช้ในภาพยนตร์เรื่อง Lawrence of Arabia และชื่อเสียงโด่งดังในเวลาต่อมา ระหว่างการผลิตได้มีการวางชิ้นส่วนเกราะกันกระสุนเรียงรายไว้รอบโรงงานผลิตเพื่อสร้างความสับสนให้กับคู่แข่งที่แอบมาเก็บข้อมูลการสร้าง “รถยนต์ที่ดีที่สุดในโลก” รุ่นนี้ Rolls-Royce Phantoms I รถยนต์รุ่น Phantoms I ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบ 7.668 ลิตรรุ่นใหม่ ถือเป็นความแปลกใหม่อย่างมากของรถยนต์รุ่นนี้ เมื่อ General Motors Company เปิดสนามทดสอบสมรรถนะรถยนต์ในรัฐมิชิแกน ไม่มีรถยนต์คันใดที่สามารถวิ่งในสนามขนาด 4 ไมล์โดยใช้ความเร็วสูงสุดได้ครบ 2 รอบโดยที่เครื่องยนต์ไม่เกิดความเสียหายในส่วนท้ายของห้องลูกสูบ ทว่า Phantom I กลับโชว์สมรรถนะได้อย่างเหนือชั้นและสมบูรณ์แบบ โดยสามารถทำความเร็วคงที่ได้สูงสุด 80 ไมล์ต่อชั่วโมงเป็นผลสำเร็จโดยไม่เกิดข้อผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย Rolls-Royce Phantoms II ด้วยปรัชญา “จงดึงเอาด้านที่ดีที่สุดของสิ่งที่มีอยู่ออกมาแล้วทำให้ดียิ่งขึ้น” แห่ง Sir Frederick Henry Royce ได้พัฒนารถยนต์รุ่น Phantoms II ขึ้นในปี 1929 รถยนต์รุ่นนี้ใช้โครงช่วงล่างที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด ยกระดับสมรรถนะการควบคุมตัวรถอย่างมีนัยสำคัญและมีการออกแบบเครื่องยนต์ใหม่ในทุกองค์ประกอบ โดย Phantoms III คือยานยนต์รุ่นสุดท้ายของ Sir Frederick Henry Royce ก่อนเขาเสียชีวิตในปี 1933 ด้วยวัย 70 ปี Rolls-Royce Phantoms III Sir Henry สามารถผลิตรถต้นแบบที่ใช้เครื่องยนต์ 12 สูบอันไร้ที่ติเป็นผลสำเร็จ จนกระทั่งเปิดตัวเมื่อ 2 ปี ในหลังและมีการผลิตต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1936 จนกระทั่งหยุดสายการผลิตสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยปี 1941 โครงช่วงล่างรุ่นสุดท้ายได้หยุดสายการผลิตลง เช่นเดียวกับการผลิตตัวถังรถที่หยุดการผลิตจนกระทั่งปี 1947 ในช่วงเวลานั้น Rolls-Royce ไม่มีถ้อยแถลงใดๆ จนดูเหมือนว่ารถยนต์ Phantoms ได้กลายเป็นเหยื่อไฟสงคราม Rolls-Royce Phantoms IV กระทั่ง ปี 1950 รถยนต์ Phantoms IV ได้ปรากฏโฉมอีกครั้ง โดยเริ่มแรกเป็นการสั่งผลิตแบบคันเดียวสำหรับ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป ทว่าเพียงรถยนต์คันนี้ได้เผยโฉมครั้งแรก คำสั่งผลิตจากสมาชิกในราชวงศ์และผู้นำรัฐต่าง ๆ ทั่วโลกตามมาอีกถึง 17 คัน รถยนต์รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 8 สูบ ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมแม้ในความเร็วต่ำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับเคลื่อนในขบวนพาเหรดของงานพิธีต่างๆ รถยนต์รุ่น Phantoms IV ยังนำเสนอสัญลักษณ์ Spirit of Ecstasy บนฝากระโปรงรถในเวอร์ชั่นคุกเข่าที่สร้างความฮือฮา พร้อมทั้งเปิดยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ของ Rolls-Royce Phantoms อีกครั้งและส่งต่อสู่ Phantoms ในรุ่นต่อๆ มา Rolls-Royce Phantoms V Phantoms V ถูกผลิตขึ้นในช่วงปี 1959 -1968 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงทั้ง 516 คัน ถูกผลิตขึ้นสำหรับลูกค้าระดับสูง อาทิ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ผู้ว่าการเกาะฮ่องกง กษัตริย์โอลาฟแห่งนอร์เวย์ เอลวิส เพรสลีย์ และ จอห์น เลนนอน ผู้โด่งดัง Rolls-Royce Phantoms VI Phantoms VI ได้ใช้ระยะเวลาในการพัฒนาที่ยาวนาน (ค.ศ. 1968 – 1990) เพื่อผลิตรถยนต์แบบเปิดประทุนถวายแก่สมเด็จพระราชินีนาถ อลิซาเบธที่ 2 โอกาสฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 25 ปีเมื่อปี 1977 และต่อมายังได้ถูกใช้ในงานอภิเษกระหว่าง ดยุคและดัชเชสส์แห่งแคมบริดจ์ในปี 2011 การทวงคืนยุคสมัยแห่ง Rolls-Royce อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อ Phantoms VI หยุดการผลิตลงในปี 1990 Rolls-Royce ใช้เวลากว่า 13 ปี ในการพัฒนารถรุ่นต่อไป ก่อนบ่มเพาะยนตรกรรมสายพันธุ์ใหม่อย่างมีนัยสำคัญ เรื่องราวย้อนกลับไปปี 1971 ธุรกิจอากาศยานและรถยนต์ของ Rolls-Royce ถูกทำการพิทักษ์ทรัพย์ สินทรัพย์หลายๆ ส่วนถูกทยอยจำหน่ายเป็นเวลายาวนานกว่า 2 ปี จนกระทั่งหุ้นของบริษัทถูกนำมาขายทอดในตลาดหลักทรัพย์ในชื่อบริษัทมหาชน Rolls-Royce ได้มีการเรียกหุ้นคืนทั้งหมดในส่วนของธุรกิจรถยนต์ ต่อมาในปี 1980 บริษัทซึ่งขณะนั้นเป็นที่รู้จักในชื่อ Rolls-Royce Motors Holdings Limited ได้ควบรวมกิจการกับบริษัท Vickers ที่ดำเนินธุรกิจด้านวิศวกรรมทั้งสองได้ร่วมกันผลิตรถยนต์แต่เป็นจำนวนที่ไม่มากนักระหว่างปี 1980 - 1990 ในปี 1998 บริษัท Vickers ตัดสินใจขาย บริษัท Rolls-Royce Motors และเปลี่ยนมือสู่กรรมสิทธิ์ของ BMW Group ซึ่ง BMW ในฐานะผู้ดูแลรายใหม่ของ Rolls-Royce ได้เริ่มต้นพัฒนาแบรนด์ใหม่ตั้งแต่ต้น โดยตั้งเป้าหมายทั้งการเปิดบริษัทใหม่ สร้างโรงงานผลิตใหม่ และเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในวันที่ 1 มกราคม 2003 ซึ่งบริษัทสามารถรักษาสัญญาครบทุกประการได้อย่างเข้มแข็งจนได้ชื่อว่าเป็น “ประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่อันน่าตื่นตะลึงแห่งโลกยานยนต์ครั้งสุดท้าย” ในเวลานั้น เพียงหนึ่งนาทีหลังเที่ยงคืนของวันปีใหม่ปี 2003 การฟื้นฟูยุคใหม่ของ Rolls-Royce ในฐานะ “รถยนต์ที่ดีที่สุดของโลก” ได้เริ่มต้นขึ้น กับบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่อย่างสมศักดิ์ศรีในชื่อ Rolls-Royce Motor Cars Limited พร้อมการปรากฏโฉมครั้งแรกของรถยนต์รุ่น Goodwood Phantom หรือที่รู้จักในชื่อ Phantoms VII ซึ่งผลิตในสำนักงานแห่งใหม่ Home of Rolls-Royce ในเมือง Goodwood ประเทศอังกฤษ นำเสนอภาพลักษณ์ที่สวยงามร่วมสมัยเหนือกาลเวลา โดยยังคงสุนทรียภาพของยานยนต์ตระกูล Phantoms และมอบความหรูหรารูปแบบใหม่พร้อมความสะดวกสบายในทุกรายละเอียดดังที่เหล่านักขับปรารถนา ความเป็นเลิศในรายละเอียดนั้นสัมผัสได้ ทำให้ผู้บริโภคต่างมั่นใจว่าแบรนด์ Rolls-Royce กลับมาแล้วอย่างสง่างาม ขอข้อมูล New Model Phantom หรือ Phantom VIII ที่จะเปิดตัวในเมืองไทยในปีนี้ได้ที่ Rolls-Royce Motor Cars Bangkok 02-670-6060, Siam Paragon 02-610-6788, Phuket 076-201-999 อัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/rollsroycemotorcarsbangkok/