ในงาน Watches and Wonders 2024 ที่กรุงเจนีวาซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-15 เมษายนที่ผ่านมา Patek Philippe ได้เปิดตัวเรือนเวลา 11 รุ่น พร้อมนำเสนอนวัตกรรมด้านเทคนิค การออกแบบอันงดงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และพัฒนาการของมาตรฐานการรับประกันสากล สะท้อนความน่าเชื่อถือระยะยาวของแบรนด์
Antoine Norbert de Patek ผู้หลงใหลในความงาม และ Jean Adrien Philippe อัจฉริยะนักรังสรรค์เครื่องบอกเวลาได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทนาฬิกา Patek Philippe ขึ้นในปี 1893 พัฒนาสร้างสรรค์เรือนเวลาที่มีความประณีตงดงามเพียบพร้อมด้วยกลไกอันสมบูรณ์แบบ ซึ่งได้รับสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันโดยครอบครัว Stern ควบคู่กับความโดดเด่นด้านการออกแบบที่ไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาที่มีกลไกซับซ้อนสูง ไปจนการประดับอัญมณี
ในวาระ Watches and Wonders 2024 นี้ ทางแบรนด์จึงถือโอกาสเปิดตัวเรือนเวลา 11 รุ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จากการผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่ล้ำเลิศร่วมกับสไตล์อันโดดเด่น ได้แก่
นาฬิกาเวิลด์ไทม์ใหม่ รุ่น 5330G-001 (World Time Reference 5330G-001) ตัวเรือนทองคำขาว หน้าปัดสีน้ำเงิน-เทาโอพะลีน กลางหน้าปัดตกแต่งด้วยลวดลาย “คาร์บอน” พร้อมกลไกแสดงวันที่ตามเวลาท้องถิ่น
นาฬิกาโกลเด้น อีลิฟต์ รุ่น 5738/1R-001 (Golden Ellipse Reference 5738/1R-001) ใหม่ พร้อมด้วยสายนาฬิการูปทรงโซ่สีโรสโกลด์ที่หรูหรางดงาม นำเสนอล็อคสลักลวดลาย และตำแหน่งการปรับ 3 ระดับ สามารถปรับให้สั้นลงหรือยาวขึ้นก็ย่อมได้ อีกทั้งยังมีกลไขคาลิเบอร์ 240 ขนาดบางเป็นพิเศษ ทำให้เรือนเวลารุ่นดังกล่าวเป็นนาฬิกาที่บางที่สุดในคอลเล็กชันทั่วไปของ Patek Philippe
นาฬิกาอลาร์มแทรเวล ไทม์ รุ่น 5520RG-001 (Alarm Travel Time Reference 5520RG-001) จากนาฬิกาเวิร์ลไทม์ในปี 1930 วิวัฒนาการผ่านกาลเวลา สู่การออกแบบใหม่ในปี 2024 ด้วยหน้าปัดทูโทน เลขอารบิก และเข็มรูปทรงดาบ พร้อมกลไกการปลุกเตือน ดูมีความลำลองและสวยงามทันสมัย เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางผู้มีรสนิยม
นาฬิกาอควานอต แทรเวล ไทม์ รุ่น 5164G-001 (Aquanaut Travel Time Reference 5164G-001) กับความพิเศษคือมีระบบแสดงโซนเวลาที่สองซึ่งมองเห็นได้ชัดเจนและง่ายต่อการใช้งาน ทั้งยังไม่มีผลต่อความเที่ยงตรงของนาฬิกาเลยแม้แต่น้อย พร้อมลวดลายอควานอตอันเป็นเอกลักษณ์บนหน้าปัดสีน้ำเงิน-เทา กรอบสีไวท์โกลด์ที่ดูทันสมัย หรูหรา และมีความลำลอง
นอกจากนี้ยังมี นาฬิกาอควานอต แทรเวล ไทม์ รุ่น 5269R-001 (Aquanaut Travel Time Reference 5269R-001) เวอร์ชั่นใหม่สีโรสโกลด์ ดึงดูดสายตาด้วยหน้าปัดสีน้ำเงิน-เทาโอพะลินที่สลักลวดลายอควานอต ตกแต่งขั้นตอนสุดท้ายด้วยการขัดแบบซาติน เสริมความโดดเด่นลายเส้นของตัวเรือนที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 38.8 มิลลิเมตร
นาฬิกาอินไลน์ เพอร์เพคชวล คาเลนดาร์ รุ่น 5236P-010 (In-line perpetual calendar Reference 5236P-010) กับระบบปฏิทินถาวรที่ Patek Philippe จดสิทธิบัตรในปี 1996 ตัวเรือนทองคำขาวพร้อมฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ หน้าปัดแกะสลักด้วยมือทั้งหมด งดงามด้วยเข็มนาฬิกาสไตล์วินเทจ
นาฬิกาแรร์ แฮนคาร์ฟ เรโทรเกรด เพอร์เพคชวล คาเลนดาร์ รุ่น 5160/500R-001 (Rare Handcrafts Retrograde Perpetual Calendar Reference 5160/500R-001) โมเดลเก่าที่ถูกนำมาตีความใหม่เป็นเวอร์ชั่นโรสโกลด์ หน้าปัดทองโอพะลีนสีเงิน ประกอบด้วยตัวเลขรูปทรงบริเกต์ทองคำขาวร่วมกับสีดำ และเข็มรูปทรงลูกแพร์ ทองคำออกซิไดสีดำ ทำงานผ่านกลไกคาลิเบอร์ 26-330 S QR
ตามด้วย นาฬิกาแอนนวล คาเลนดาร์ รุ่น 5396G-017 (Annual Calendar Reference 5396G-017) รุ่นใหม่ประกอบด้วยคาลิเบอร์ 26-330 S QA LU 24H กลไกไขลานอัตโนมัติ รูปแบบทองคำขาวพร้อมหน้าปัดสีน้ำเงินกระจายแสง หลักชั่วโมงทำจากเพชรเจียระไนทรงบาแกต การตัดกันที่แสนโดดเด่นนี้ทำให้สามารถอ่านเวล่าได้ง่ายและน่าดึงดูดใจเป็นอย่างยิ่ง
Patek Philippe มิได้ลืมเรือนเวลาสำหรับสตรีโดยเฉพาะที่มีความสปอร์ตหรูหรา และได้นำนาฬิกาควอตซ์โมเดล manchette มานำเสนอใหม่กับ นาฬิกาทเวนตี้ โฟร์ รุ่น 4910/1201R-010 (Twenty-4 Reference 4910/1201R-010) สลักลวดลายนูนของคลื่นแบบวงกลม เคลือบแลคเกอร์ใสหลายชั้นก่อให้เกิดการสะท้อนแสงเห็นความลึก พร้อมกรอบโรสโกลด์ประดับเพชร สง่างาม โดดเด่น ไร้กาลเวลา
นาฬิกานอติลุส ฟลายแบค โครโนกราฟ รุ่น 5980/60G-001 (Nautilus Flyback Chronograph Reference 5980/60G-001) ติดตั้งด้วยคาลิเบอร์ CH 28-520 C กลไกไขลานอัตโนมัติ แสดงผลโครโนกราฟด้วยโมโนเคาร์เตอร์ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ด้านการออกแบบเป็นไวท์โกลด์ใหม่พร้อมเข็มนาฬิการูปทรงบาตอง สีหน้าปัดเข้ากันกับสายนาฬิกาที่ให้มา 2 สาย ได้แก่ สายหนังลูกวัวที่น้ำเงิน-เทา สลักลวดลายเดนิม และสายวัสดุคอมโพสิตลวดลายผ้าสีเดียวกัน
และสุดท้ายคือ นาฬิกาอควานอต ลูเช่ โชแอลยอรี รุ่น 5268/461G-001 (Aquanaut Luce Haute Joaillerie Reference 5268/461G-001) การออกแบบร่วมสมัยด้วยทองคำขาวประดับเพชรและแซฟไฟร์สีน้ำเงิน โดยการฝังอัญมณีเป็นลวดลายอควานอต ติดตั้งด้วยคาลิเบอร์ 26-330 S กลไกไขลานอัตโนมัติ ที่สามารถมองผ่านฝาหลังกระจกแซฟไฟร์คริสตัล
วิวัฒนาการแด่ตราประทับ
ตราประทับ Patek Philippe Seal คิดค้นขึ้นโดยครอบครัว Stern และได้รับการนำเสนอครั้งแรกในปี 2009 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ด้านคุณภาพสำหรับนาฬิกากลไกการทำงานที่อธิบายชัดเจนถึงแก่นแท้และความโดดเด่นของคุณภาพของแบรนด์ ซึ่งจะมีการพัฒนาต่อเนื่องต่อไป ในโอกาสนี้ Patek Philippe ได้มีวิวัฒนาการที่สำคัญ 2 ประการสำหรับตราประทับเฉพาะดังกล่าว ได้แก่ เกณฑ์มาตรฐานอันเข้มงวด และการรับประกันสากล
Patek Philippe ได้มีการตรวจสอบอัตราความเที่ยงตรงหลายช่วงระหว่างขั้นตอนการผลิต นับตั้งแต่กลไกที่ยังไม่ได้ประกอบไปจนถึงเรือนเวลาที่เสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีมาตรฐานการกันน้ำซึ่งกำหนดไว้ที่ระดับ 30 เมตรสำหรับนาฬิกาทุกเรือนที่ได้รับการรับรองว่ากันน้ำได้
ในส่วนของการรับประกันสากล ณ งาน Watches and Wonders 2024 ทางแบรนด์ได้ประกาศให้นาฬิกาใหม่ทุกเรือนที่ขายตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2024 เป็นต้นไป จะมีการขยายระยะเวลาการรับประกันจากเดิมคือ 2 ปีไปเป็น 5 ปีนับจากวันที่ซื้อนาฬิกา
ทั้งหมดนี้เพื่อแสดงความใส่ใจลูกค้าผู้ทรงเกียรติ และเน้นย้ำความสำคัญของตราประทับ Patek Philippe Seal ตลอดจนเสริมแกร่งความน่าเชื่อถือในระยะยาวของแบรนด์ สร้างความพิเศษแก่เรือนเวลาของ Patek Philippe ให้มีมูลค่ายิ่งขึ้น คู่ควรแก่การส่งต่อให้ทายาทรุ่นถัดๆ ไปในอนาคต
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เอส โฮเทล เปิด 'SO/ Maldives' แฟชั่นรีสอร์ตสุดหรูคู่ความยั่งยืน
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
