“Patek Philippe” ความซับซ้อนที่สุดคลาสสิก - Forbes Thailand

“Patek Philippe” ความซับซ้อนที่สุดคลาสสิก

FORBES THAILAND / ADMIN
02 Oct 2020 | 07:25 AM
READ 4495

แม้เวลาไม่เคยย้อนกลับ Time never goes back แต่นาฬิกายังทรงคุณค่าเสมอ ไม่ว่ายุคสมัยเปลี่ยนเพียงใด เทคโนโลยีก้าวล้ำแค่ไหน นาฬิกายังเป็นเครื่องบอกเวลาสำคัญที่แสดงรสนิยมเจ้าของได้เป็นอย่างดี

คนจำนวนไม่น้อยหลงใหล “นาฬิกา” อุปกรณ์บอกเวลาที่อยู่คู่กายผู้คนมานานนับศตวรรษ หลายคนยอมจ่ายแพงเพื่อสะสมเป็นของที่ให้คุณค่าทางจิตใจ และนาฬิกายังให้ผลตอบแทนที่ดีในแง่การลงทุน เป็น passion investment หนึ่งในความหลงใหลที่มีโอกาสทำกำไร ได้ทั้งความสุขใจและมูลค่าเพิ่ม แต่ความชอบเป็นเรื่องของปัจเจก รสสัมผัส ในความงามเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล สวยในสายตาคนหนึ่งอาจไม่น่าตื่นเต้นในสายตาหลายคน ถึงกระนั้นความชื่นชอบอาจมีร่วมกันสำหรับนาฬิกาแบรนด์ดังระดับโลก เพราะนอกจากความสวยงามแล้ว คุณค่าและเอกลักษณ์เฉพาะตัวยังเป็นพลังดึงดูดสำคัญที่รวมความปรารถนาของผู้คนเข้าด้วยกันผ่านคอลเล็กชั่นต่างๆ ที่นาฬิกาแบรนด์ดังสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้เอกลักษณ์และคุณค่าอันน่าจดจำ เช่นเดียวกับ “Patek Philippe” (ปาเต็ก ฟิลิปป์) นาฬิกาแบรนด์หรู ที่ยืนหยัดมายาวนานกว่า 180 ปี (เริ่มก่อตั้ง ปี 1839) ครองแชมป์นาฬิกาเรือนแพงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบันกว่า 11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ Patek Philippe เป็นเครื่องบอกเวลา ที่โปรดปรานและของสะสมล้ำค่าแห่งราชวงศ์อังกฤษ ความโดดเด่นของแบรนด์นี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความหรูหรา แต่ยังได้รับการขนานนามเรื่องกลไกความซับซ้อนที่เป็นเอกลักษณ์ ฟังก์ชันที่ซับซ้อนในการบอกหน่วยเวลาต่างๆ ได้มากที่สุดในโลกคือจุดเด่นที่หาตัวจับยาก ล่าสุด Patek Philippe เพิ่งเปิดตัว คอลเล็กชั่นใหม่อีก 3 รุ่น เป็น นาฬิการุ่นใหม่ 5303 มินิท รีพีทเตอร์ (Minute Repeater) รุ่นแรก ที่ประกอบด้วยกลไกการตีบอกเวลาอยู่บนหน้าปัด, นาฬิการุ่นตำนาน 5370 มีฟังก์ชันการทำงานแบบแยกจับเวลามากกว่า 2 รายการ และนาฬิกาคลาสสิกดั้งเดิม 5270 เป็นนาฬิกาจับเวลาระบบปฏิทินถาวร ซึ่งนำกลับมาออกแบบใหม่  
  • Minute Repeater 5303R-001 ความหรูหราในการมองเห็นและได้ยิน

นับตั้งแต่ Patek Philippe ได้นำเสนอนาฬิกาพกที่มีฟังก์ชันการทำงาน มินิท รีพีทเตอร์เรือนแรก (ปี 1845) และวางรากฐานเป็นหนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกาชั้นเลิศ ทำให้ Patek Philippe มีความโดดเด่นในงานสร้างสรรค์ เช่น นาฬิกาข้อมือสกาย มูน ตูร์บิยอง ที่ประกอบด้วยฟังก์ชันมินิท รีพีทเตอร์พร้อมเสียงระฆังคาธีดรัล หรือนาฬิกา Patek Philippe แกรน มาสเตอร์ ไชม์ ซึ่งมีกลไกการทำงานการตีระฆัง 5 ประเภท รวมถึงสิทธิบัตรที่เปิดตัวทั่วโลกครั้งแรกถึง 2 รายการ Patek Philippe ยังนำเสนอทางเลือกหลากหลายที่สุดสำหรับนาฬิกามินิท รีพีทเตอร์ที่ผลิตทั่วไป นาฬิการุ่นคลาสสิก หรือรุ่น ที่มีการตีระฆังของคาธีดรัล และนาฬิกามินิท รีพีทเตอร์ที่มีหรือไม่มีกลไกความซับซ้อนอื่นเพิ่มเติม (เช่น ระบบปฏิทินถาวร ตูร์บิยอง เวิร์ดไทม์ และการจับเวลา) แต่ยังไม่เคย มีสักครั้งที่ Patek Philippe นำเสนอนาฬิกามินิท รีพีทเตอร์ ที่มีกลไกการตีเสียงที่สามารถมองเห็นได้ผ่านหน้าปัด นาฬิการุ่น 5303 นำเสนอออกมาในปี 2019 เป็นรุ่นลิมิตเต็ด อิดิชั่นมีเพียง 12 เรือน เปิดตัวครั้งแรกที่งาน “Watch Art Grand Exhibition Singapore 2019” มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยสำหรับนาฬิกามินิท รีพีทเตอร์ ตูร์บิยอง รุ่น 5303 ทำให้นาฬิการุ่นนี้เป็นส่วนหนึ่งในคอลเล็กชั่นปัจจุบันด้วยกลไกความซับซ้อนใหม่ นาฬิการีพีทเตอร์รุ่นใหม่นี้มีความโดดเด่นในรูปลักษณ์ที่สามารถมองเห็นได้สำหรับกลไกรีพีทเตอร์เป็นครั้งแรก ที่การตีด้วยฆ้อนและระฆังสามารถมองเห็นได้โดยไม่ต้องถอดนาฬิกาออกจากข้อมือ ความงดงามของกลไกไขลานด้วยมือ คาลิเบอร์ R TO 27 PS ถูกนำมารังสรรค์ใหม่ อย่างประณีตเพื่อเน้นถึงความสวยงาม น่าประทับใจ การทำงานของกลไกสามารถชื่นชมได้ผ่านตัวเรือนด้านหลังที่ทำจากกระจกแซฟไฟร์คริสตัล ซึ่งมีกรอบของขอบตัวเรือนภายในทำด้วยทองคำขาว สะท้อนความงดงามอยู่ภายในตัวเรือน และปุ่มเลื่อนสำหรับการทำงานของรีพีทเตอร์  
  • Split-Seconds Chronograph 5370P-011 กลไกขั้นสูง แยกจับเวลาเกิน 2 รายการ

สำหรับสุดยอดกลไกความซับซ้อนสูงสุดคือ นาฬิกาที่มีระบบการทำงานแบบแยกจับเวลามากกว่า 2 รายการ โดยนับตั้งแต่ปี 1923 เป็นต้นมา นาฬิกาประเภทนี้ได้ กลายเป็นความพิเศษสำหรับคอลเล็กชั่นนาฬิกาข้อมือของ Patek Philippe นาฬิการุ่น 5370 เป็นนาฬิการุ่นแรกที่มีระบบการทำงานแบบแยกจับเวลามากกว่า 2 รายการ ซึ่งผลิตด้วยกลไกคาลิเบอร์ CH 29-535 PS ตัวเรือนทำจากแพลทินัม หน้าปัดเคลือบลงยาสีดำ เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 ล่าสุดนาฬิกาที่มีกลไกความซับซ้อนสูงรุ่นนี้ถูกพัฒนาออกมาในรูปแบบหน้าปัดสีน้ำเงินมันวาว สะท้อนถึงหน้าปัดเคลือบลงยาแบบกรองด์เฟอดั้งเดิม รูปลักษณ์หน้าปัดออกแบบให้อ่านง่าย เข็มบอกเวลาชั่วโมงและนาทีรูปทรงใบไม้เพรียวบาง เคลือบด้วยสารเรืองแสง ตัวเลขบอกเวลาแบบบริเกต์ทำจากทองคำขาวทำให้ผลการจับเวลาระยะสั้นสามารถมองเห็นได้ชัดเจน เที่ยงตรง และรวดเร็ว เข็มจับเวลาวินาที แยกจับเวลามากกว่า 2 รายการ และเข็มบอกเวลาทันทีสำหรับหน้าปัดย่อย 30 นาที สามารถมองเห็นได้ชัดเจนบนหน้าปัดสีน้ำเงิน สเกลบอกเวลาที่พิมพ์เป็นสีขาว การทำงานของกลไกจับเวลา 2 รายการนี้ ประกอบด้วยปุ่มกด 2 ปุ่มเพื่อให้ระบบการจับเวลาทำงาน โดยมีปุ่มกดการทำงาน แบบแยกจับเวลาบนเม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา นาฬิการุ่นนี้ผลิตขึ้นมาแทนรุ่นเดิมที่มีหน้าปัดเคลือบลงยาสีดำ  
  • นาฬิกาจับเวลารุ่น 5270J-001 คลาสสิกสง่างามบนตัวเรือนทองคำแบบใหม่

Patek Philippe คลาสสิกแกรนด์ ปี 1941 (รุ่น 1518) ถูกนำมาถ่ายทอดสู่นาฬิกาจับเวลา ระบบปฏิทินถาวร รุ่น 5270 ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2018 บนตัวเรือนแพลทินัม รุ่นหน้าปัดทองคำกำมะหยี่ และรุ่นหน้าปัดทองชมพู บนสายนาฬิการูปทรงหยดน้ำ ได้ขยายคอลเล็กชั่นให้มีความซับซ้อนสูงในรุ่น 5270 ในปัจจุบัน โดยพัฒนาให้เป็นรุ่นที่ทำจากตัวเรือนทองคำเป็นครั้งแรก การแสดงผลของปฏิทินถาวรมีความสวยงาม สมดุลกับการแสดงวันที่แบบอนาล็อกที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และช่องหน้าต่างคู่ที่แสดงวันและเดือนที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา โดยมีช่องหน้าต่างรูปทรงกลม ขนาดเล็กแสดงผลกลางวัน/กลางคืน พร้อมหน้าปัดย่อยแสดงรอบปีอธิกสุรทิน และหน้าต่างแสดงปรากฏการณ์ข้างขึ้นข้างแรม คาลิเบอร์ CH 29-535 PS Q เป็นกลไกการทำงานการจับเวลา พร้อมด้วยระบบปฏิทินถาวรรุ่นแรกที่พัฒนาขึ้นในปี 2011 ผลิตโดย Patek Philippe แต่เพียงผู้เดียว เป็นการผนวกกันระหว่างโครงสร้างดั้งเดิม (คลัตช์แนวนอน คอลัมน์วีล และการไขลานด้วยมือ) พร้อมกับสิทธิบัตรนวัตกรรมใหม่ 6 รายการ ด้านระบบการทำงานจับเวลา และความโดดเด่นของกลไกระบบปฏิทินที่มีขนาดบางเป็นพิเศษ (1.65 มิลลิเมตร สำหรับชิ้นส่วนจำนวน 182 ชิ้น) กลไกการทำงานสามารถมองเห็นได้ผ่านฝาหลังที่ทำจากกระจกแซฟไฟร์ คริสตัล และมีฝาหลังทึบที่ทำจากทองคำ 18K   เรื่อง: ลมุนวรรณ สรรพศาสตร์  ภาพ: Cortina Watch
คลิกอ่านฉบับเต็ม “Patek Philippe ความซับซ้อนที่สุดคลาสสิก” ได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกันยายน 2563 ในรูปแบบ e-magazine