MARGET ฝากเอกลักษณ์ไทยผ่านเครื่องประดับอัญมณีหรู แรงบันดาลใจจาก ‘วัตถุดิบอาหารไทย’ - Forbes Thailand

MARGET ฝากเอกลักษณ์ไทยผ่านเครื่องประดับอัญมณีหรู แรงบันดาลใจจาก ‘วัตถุดิบอาหารไทย’

FORBES THAILAND / ADMIN
02 Aug 2024 | 05:30 PM
READ 1176

การพบกันของ ‘มธรา สตูดิโอ’ และ ‘เจมส์ แกลอรี่’ สองแบรนด์เครื่องประดับอัญมณีไทยโด่งดังไกลถึงระดับโลก ที่ผนึกกำลังเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ‘MARGET’ เครื่องประดับชั้นสูงแรงบันดาลใจจากวัตถุดิบอาหารไทย พร้อมส่งซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สากลผ่านงานศิลป์หรูหราอันสร้างสรรค์


    ‘มธรา’ (MATARA) แบรนด์ไข่มุกแท้ ดีไซน์สวย ฝีมือดี ที่โด่งดังระดับโลกไปถึงงานพรมแดงที่เมืองคานส์ และ ‘เจมส์ แกลอรี่’ (GEMS GALLERY) แบรนด์เครื่องประดับงานพลอยและอัญมณีไทยสุดหรูหราที่ออกแบบและผลิตอย่างพิถีพิถันโดยช่างฝีมือ อีกทั้งมีโชว์รูมขนาดใหญ่ต้อนรับแขกต่างชาติรวมมากกว่า 120 ประเทศทั่วโลกเป็นเวลามากกว่า 38 ปี ร่วมกันจัดงาน Thai Proud Phenomena เปิดตัว ‘MARGET’ เครื่องประดับชั้นสูงกว่า 25 ดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากวัตถุดิบอาหารไทย

    ภัทรภณ หงษ์ศรีสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจมส์ แกลอรี่ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า “ทั้งสองแบรนด์ต่างมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทยเช่นเดียวกัน รวมถึงมีวิสัยทัศน์ในการนำ Thai Fine Jewelry ที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกันเปิดตัวแบรนด์ MARGET ที่มีการนำวัตถุดิบอาหารไทยมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เครื่องประดับอันล้ำค่า มีความงดงามเหนือกาลเวลา และเปี่ยมไปด้วยรายละเอียดเช่นเดียวกับซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ที่คนรักเครื่องประดับควรมีไว้ครอบครอง”


    ภัณฑิรา หงษ์ศรีสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท เจมส์ แกลอรี่ กรุ๊ป จำกัด เสริมว่า “เรามีเป้าหมายให้โปรดักส์ของเราถูกพูดถึงทั้งในเรื่องดีไซน์ งานฝีมือที่มีความประณีต ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงการทำการตลาดอย่างเป็นวงกว้าง และเป็นที่ต้องการของลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติโดยคาดว่าจะมีสัดส่วนลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ 80-90% และชาวไทย 10-20%”

    ทั้งนี้ เนื่องจากทั้งมธาราและเจมส์ แกลอรี่มีความตั้งใจที่จะทำให้นานาชาติได้รู้จักและประทับใจในซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ขณะเดียวกันชาวไทยเองก็ได้มีความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่ถูกถ่ายทอดผ่านผลิตภัณฑ์ของ MARGET ด้วย

    ด้าน สาลิล อันธพันธ์ ผู้บริหารฝ่ายออกแบบ บริษัท มธรา สตูดิโอ จำกัด กล่าวว่า “เราใช้วิธีการดึงศิลปะขององค์ประกอบที่แสดงถึงวัฒนธรรมไทยในเรื่องต่างๆ มาถ่ายทอดผ่านเครื่องประดับชั้นสูงในแต่ละคอลเลกชั่น โดยช่างฝีมือคนไทย ซึ่งคอลเลกชั่นแรกเป็นการหยิบยกวัตถุดิบหลักของอาหารไทย มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ซึ่งเครื่องประดับแต่ละชิ้นไม่เพียงแต่มีความสวยงาม โดดเด่นสะดุดตา และมาพร้อมคอนเซ็ปต์ที่สนุกสนานเท่านั้น แต่ยังบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างมีชั้นเชิง”


    สาลิลอธิบายว่า เอกลักษณ์ของไทยหลายเรื่องนั้นอาจเป็นที่รู้จักกันทั่วไปอยู่แล้ว การหยิบยกองค์ประกอบต่างๆ มาเป็นไอเดียตั้งต้นจึงฟังดูง่าย แต่ความยากคือการนำสิ่งที่คิดว่าง่ายมาดีไซน์ให้เกิดเป็น Fine Jewelry หรือโปรดักส์มีคุณค่างดงามเหนือกาลเวลาและบอกเล่าเรื่องราวในคราวเดียวกัน

    การตีโจทย์ความภาคภูมิใจในความเป็นไทยนั้นต้องทำให้แคบลงและลงรายละเอียดในแต่ละคอลเล็กชันที่จะนำเสนอ จึงต้องมีการศึกษาเรื่องราวขององค์ประกอบต่างๆ เป็นเวลานานกว่าจะสร้างสรรค์ได้ในแต่ละคอลเล็กชัน โดยเน้นถ่ายทอดออกมาในรูปแบบที่สนุกสนาน มีความ Pop Art ผ่านสัญลักษณ์ Icon หรือ Emoji Style ซึ่งมธาราถนัด Typography และชื่นชอบการออกแบบ Icon อยู่แล้ว ผลิตภัณฑ์ในคราวนี้จึงยิ่งเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นและท้าทายมาก



    จงจินต์ จึงสุระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มธรา สตูดิโอ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในระยะแรกจะวางจำหน่ายแบรนด์ MARGET ที่ Gems Gallery flagship store Bangkok ขณะเดียวกันก็มีโอกาสเป็นไปได้สูง ที่จะขยายสาขาเพิ่มเติม ซึ่งคงต้องรอดูว่าการกระแสตอบรับทั้งช่องทาง Offline และ Online เป็นอย่างไร และด้วยการร่วมมือกันในโปรเจ็กต์นี้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติซึ่งเป็นลูกค้าส่วนใหญ่ของเจมส์ แกลอรี่ อีกทั้งในแต่ละวันมีลูกค้าเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงต้องดูกำลังการผลิตและคอนเซ็ปต์ที่จะนำมาใช้ในแต่ละสาขาด้วย เพื่อสร้างความพิเศษไม่เหมือนใครให้ลูกค้าในแต่ละครั้งที่เข้ามาเยี่ยมชม”

    นอกจากนี้ รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายแบรนด์ MARGET จะนำไปเปลี่ยนเป็นอาหารในแต่ละมื้อมอบให้กับผู้ด้อยโอกาสในประเทศไทยต่อไป เพื่อสนองเจตนารมณ์ของทั้งสองบริษัทฯ ตั้งแต่แรก ที่ต้องการเปลี่ยนของฝากระดับลักชัวรีให้เป็นเครื่องประดับสุดหรูที่น่าจดจำของประเทศไทย


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : บูทีคคอนเซ็ปต์ใหม่ ‘โรลส์-รอยซ์’ ใจกลางสยามพารากอน หรูหรา เป็นส่วนตัว และใกล้ชิดลูกค้ากว่าเดิม

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine