ทดสอบ Huawei P50 Pro กล้อง Leica - Forbes Thailand

ทดสอบ Huawei P50 Pro กล้อง Leica

Huawei P50 Pro รุ่นกล้อง Leica สมาร์ทโฟนเรือธงภายใต้คอนเซ็ปต์ของ Huawei P Series โดย P50 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ฟีเจอร์ในการใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมของ Huawei ประสานกับคุณภาพของเลนส์ Leica ทำให้จุดเด่นของ Huawei P50 Pro คือการถ่ายภาพและการบันทึกวิดีโอในระดับยอดเยี่ยม

Huawei P50 Pro มาพร้อมขุมพลังจากชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 และ GPU Turbo เทคโนโลยีระบายความร้อน ทำให้การใช้ฟีเจอร์อย่างการบันทึกวิดีโอเป็นไปอย่างราบเรียบ ไม่มีอุณหภูมิความร้อนให้กวนใจ สำหรับพื้นที่เก็บข้อมูลภายในเครื่องมีตั้งแต่พื้นที่การจัดเก็บเริ่มที่ 128 GB, 256 GB และ 512 GB ทั้งยังรองรับเมมโมรี่การ์ด แบบ “NM Memory Card” การออกแบบเป็นไปอย่างปราณีต ฝาหลังแม้เป็นกระจกโค้งมนแต่จับได้ถนัดและกระชับมือ ในส่วนกล้องหลัง Huawei ออกแบบพื้นที่สี่เหลี่ยมซึ่ง Huawei ให้นิยามว่า “Dual-Matrix Camera Design” พื้นที่สำหรับตำแหน่งของกล้องสองชุดจำนวน 4 ตัวไว้อย่างโดดเด่น สวยงาม และยังเป็นไปเพื่อฟังก์ชันการทำงานที่ชัดเจน โดยกล้องชุดแรกในตำแหน่งบนจะเป็นเลนส์หลัก เลนส์ momo และ เลนส์ Ultrawide ขณะที่กล้องชุดที่สองอีกตำแหน่งจะทำให้หน้าที่ในการซูมภาพจากเลนส์ซูมแบบ Periscope และแฟลซแบบ LED โดยกล้องหลัง 4 ตัวประกอบไปด้วย กล้องหลัก เลนส์ขนาด 23 มิลลิเมตร ขนาดความละเอียดที่ 50 เมกะพิกเซล รูรับแสงขนาด f1.8 มาพร้อมกับ Laser Autofocus และ phase detection autofocus (PDAF) โดย Laser Autofocus มีจุดเด่นการจับภาพในระยะใกล้ได้ดีในทุกสภาวะแสงแต่ถ้าวัตถุอยู่ไกลอาจจะหลุดโฟกัสไปบ้าง ขณะที่ ระบบโฟกัสภาพ PDAF ใช้การตรวจจับโฟกัสผ่านเส้นแสงด้วยเซนเซอร์โดยจุดเด่นของเทคโนโลยี PDAF จะทำให้กล้องจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ยังมีระบบกันสั่นด้วยเลนส์ OIS เทคโนโลยีการป้องกันภาพสั่นไหวโดยมอเตอร์ภายในจะเคลื่อนไหวไปพร้อมๆ กับการเคลื่อนตัวของกล้อง สำหรับเลนส์อีก 3 ตัวประกอบไปด้วย เลนส์ซูม ขนาด 3.5x/90 มิลลิเมตร ความละเอียดที่ 64 เมกะพิกเซล MP รูรับแสงขนาด f3.5 (มีเทคโนโลยี PDAF และ OIS ในตัว) ที่ช่วยให้โหมด Macro ถ่ายภาพในระยะใกล้ได้ถึง 2.5 เซนติเมตรได้อย่างคมชัด โดย P50 PRO ยังสามารถซูมแบบออฟติคัลได้ 3.5 เท่า และซูมดิจิทัลแบบได้ 200 เท่า เลนส์ Ultrawide ขนาด 13 มิลลิเมตร ความละเอียดที่ 13 เมกะพิกเซล มีรับแสงขนาด f2.2 (มีเทคโนโลยี PDAF ในตัว) และ เลนส์ Mono ขนาด 23 มิลลิเมตร ความละเอียดที่ 40 เมกะพิกเซล มาพร้อมรูรับแสงขนาด f1.6 ที่ช่วยให้โหมดการถ่ายภาพในโหมด Mono จะได้ภาพถ่ายโทนขาว-ดำมีความลึกและมิติของสีได้อย่างแท้จริง ขณะที่กล้องหน้า Huawei P50 Pro ให้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล สำหรับฟีเจอร์ในการบันทึกวิดีโอนั้นกล้องหลังสามารถบันทึกวีดีโอระดับ UHD (4K) ด้วยอัตรา 30/60 เฟรมต่อวินาที ความละเอียด 3840x2160 พิกเซล ด้านวิดีโอกล้องหน้าระดับ UHD (4K) ด้วยอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที ระบบกันสั่น AIS Pro True-Steady Shot จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งภายใน P50 PRO และระบบการสั่นของชุดกล้อง ที่สำคัญยังสามารถใช้งานในโหมดบันทึกวิดีโอจากกล้องหน้าและกล้องหลังในเวลาเดียวกัน เป็นอีกหนึ่งลูกเล่นสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์วิดีโอที่ไม่เหมือนใคร

ทดสอบ

สำหรับการทดลองการใช้งาน Huawei P50 Pro ในการบันทึกวิดีโอด้วยค่าเริ่มต้นปกติแต่เลือกการบันทึกวิดีโอแบบ 4K ภายใต้โจทย์ที่ตั้งไว้ในการทดสอบคือการใช้มือเพียงข้างเดียวในการถือสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้เพื่อทดสอบระบบกันสั่นและการโฟกัส ซึ่งผลในการทดสอบ เราพบว่าด้วยขนาดของ P50 Pro ทั้งความกว้างและความยาวของกล้อง (158.8 x 72.8 x 8.5 มิลลิเมตร) เป็นขนาดที่จับแล้วถนัดมือ ในขณะที่น้ำหนักของเครื่องเพียง 195 กรัม ด้านผิวสัมผัสของกล้องที่มันเวาไม่ได้เป็นอุปสรรคในการจับด้วยมือเพียงข้างเดียวแต่อย่างใด แม้ในวันที่ทดสอบตัวกล้องจะมีฝนเริ่มโปรยปรายก็ตาม สำหรับผลในการบันทึกวิดีโอของ P50 Pro ด้วยขุมพลังจาก ชิปประมวลผล Qualcomm, เลนส์ Leica ทำให้เราเก็บรายละเอียดได้อย่างคมชัดระหว่างที่ซูเปอร์คาร์ทำความเร็ว โดยกล้องสามารถบันทึกรายละเอียดตัวรถและความเร็วของการหมุนของล้อ รวมถึงหยดน้ำฝน นอกจากความคมชัดแล้วนั้นความสมจริงด้านเสียงยังเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น P50 Pro สามารถบันทึกและเสียงในระดับ surround แยกเสียงซ้าย-ขวา ใกล้-ไกล ได้อย่างชัดเจน โดยระหว่างการทดสอบตัวกล้องกินเวลาราว 15 นาที อุณหภูมิของตัวเครื่องยังคงปกติส่วนแบตเตอรี่ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด https://youtu.be/Dhn7IFMFd0A https://youtu.be/h1gLbZ3nheQ ขอบคุณ Huawei ประเทศไทย, Renazzo Motor, พีระเซอร์กิต อ่านเพิ่มเติม: เจริญอักษร ผู้อยู่เบื้องหลัง “CABB BANGKOK TAXI” พร้อมรุกตลาด

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine