'เวลาคือ สิ่งมีค่า' และ 'ต่อให้เหนื่อยท้อแค่ไหน ก็ยังต้องมีความรับผิดชอบ' แนวคิดดีๆ จาก มาย ภาคภูมิ - Forbes Thailand

'เวลาคือ สิ่งมีค่า' และ 'ต่อให้เหนื่อยท้อแค่ไหน ก็ยังต้องมีความรับผิดชอบ' แนวคิดดีๆ จาก มาย ภาคภูมิ

Forbes Thailand ชวนเปิดมุมมองอันน่าสนใจอีกด้านของ 'มาย ภาคภูมิ' ศิลปินหนุ่มรูปหล่อที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นด้วย 'คิ้วเข้มๆ' แม้ปัจจุบันเขาจะมีโปรเจกต์งานต่างๆ ยุ่งจนรัดตัว แต่ทว่าการบริหารจัดการ 'เวลา' ให้กับตนเองและครอบครัว คือสิ่งที่เขามองว่ามันมีค่ามากที่สุด และถึงต่อให้งานเยอะจนเหนื่อย ท้อ หรือรู้สึกขี้เกียจสักเพียงใด เขาก็ยังโชคดีที่ตัวเองยังรู้จัก 'รับผิดชอบ' ในหน้าที่ทั้งเพื่อตัวเองและเพื่อคนอื่น


    นับเป็นโอกาสอันดีที่ทีมงาน Forbes Thailand ได้รับเกียรติจาก 'GUERLAIN' เครื่องสำอางแบรนด์ดังระดับ Luxury ซึ่งเป็น 1 ในแบรนด์หรูของเครือ LVMH ในการเชื้อเชิญให้ไปร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์รองพื้นสูตรใหม่ ‘TERRACOTTA LE TEINT GLOW’ ที่จัดขึ้น ณ ห้าง Central World เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

    บรรยากาศภายในงานนอกจากจะมีความคึกคักจากเหล่าเซเลบริตี้และแขกผู้มาร่วมงานได้ทดลองใช้รองพื้นสูตรใหม่ให้เหมาะกับแต่ละสีผิว ต่อเนื่องไปถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Skincare และเครื่องสำอางชนิดต่างๆ แล้ว เรายังได้เจอกับศิลปินหนุ่มหล่อมากความสามารถ ที่ทางแบรนด์แต่งตั้งให้เป็น Friend of GUERLAIN Thailand ในครั้งนี้ด้วย


    มางานแบรนด์เครื่องสำอางกันทั้งนี้ ก็ต้องสอบถาม มาย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง 'Friend of GUERLAIN ของประเทศไทย' กันด้วยว่าเขามีวิธีในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างไรบ้าง

    "ผมชอบผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของธรรมชาติ เวลาใช้แล้วก็ต้องดูเป็นธรรมชาติเหมาะกับสภาพผิวตัวเองด้วยครับ เราทำงานอยู่ในวงการบันเทิงก็ต้องแต่งหน้าเยอะมากกว่าคนเป็นปกติ ซึ่งการแต่งหน้าโดยหลักๆ นั้น ก็เพื่อเสริมจุดเด่นบนใบหน้าให้เราดูดีขึ้นไปอีก รวมถึงการแก้ปัญหาบางส่วนบนใบหน้าหรือเพื่อปกปิดริ้วรอยให้ดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น"

    สำหรับจุดเด่นบนใบหน้าของมายนั้น เหล่าบรรดาแฟนคลับหรือใครหลายๆ คนก็น่าจะพอเดาออกกันได้ว่า "คิ้ว ซึ่งเปรียบเสมือนมงกุฎของใบหน้า" นั่นแหละ ถือเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่เด่นแบบตะโกนที่สุด

     "คิ้วของผมหนามากจริงๆ ครับ" มายพูดไปพลางหัวเราะไป "แต่ผมก็ชอบนะ หลายคนเคยบอกให้ผมกันคิ้วออก !!! แต่ผมก็เลือกที่จะไม่กัน !!! เราเน้นดูแลคิ้วของเราให้สะอาดสะอ้านเป็นระเบียบ ไม่ปล่อยให้ทรงคิ้วดูรกจนเกินไป ซึ่งมันก็เป็นข้อดีและโดดเด่นที่ทำให้คนจดจำเอกลักษณ์ของเราได้จริงๆ ครับ" 



    เมื่อถามถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของการบริหารจัดการเวลาชีวิตให้กับตนเอง มายบอกว่า ทุกวันนี้ผมงานยุ่งมาก บริหารจัดการเวลาให้กับตัวเองก็ยากมากๆ ด้วยเช่นกัน จากเมื่อก่อนยังพอมีเวลาว่างสัปดาห์ละ 3 วัน ตอนนี้ก็เหลือแค่ 1 วัน เราก็เลยต้องดูว่าใน 1 วันนี้อะไรสำคัญที่สุด บางครั้งเราก็เลือกไปออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ เล่นดนตรี หรือออกไปช็อปปิ้ง แต่ถ้าวันไหนครอบครัวจากต่างจังหวัดแวะมาเยี่ยมที่กรุงเทพฯ ผมก็จะให้วันนั้นทั้งหมดกับครอบครัวไปเลย

    "ตอนนี้ผมอายุ 33 แล้วนะครับ ผมอนิจจังกับเรื่องของสังขารแล้วก็มองว่าเวลาเป็นสิ่งสำคัญมากๆ มาตั้งแต่อายุ 25-26 ตัวเรงเองก็อายุเพิ่มมากขึ้นในทุกๆ วัน รวมถึงพ่อแม่ ครอบครัว คนที่เรารักก็แก่มากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นเวลาจึงเป็นสิ่งมีค่ามากที่สุด เราต้องทำในแต่ละวันให้ดีมากขึ้นตามไปด้วย"

    ส่วนเรื่องการทำงานเยอะๆ แล้วจะมีท้อจนถอดใจหรือไม่นั้น ศิลปินคนดังให้ความเห็นไว้อย่างดีว่า "เรื่องเหนื่อย เรื่องท้อ หรือขี้เกียจนี่ก็มีบ้างแน่นอนครับ เพราะเราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ผมยอมรับได้เลยว่าก็เป็นคนขี้เกียจมากๆ คนหนึ่ง แต่ผมโชคดีตรงที่ว่า ต่อให้เราจะขี้เกียจสักแค่ไหน แต่เราก็ยังมีความรับผิดชอบทำในที่สิ่งเรารักและทำในสิ่งที่เลือกแล้วให้ดีที่สุด ถ้าเราทำตัวไม่ดี เหยาะแหยะ มันก็เหมือนกับเราโกหกตัวเองจากสิ่งที่เราเลือกมาและยังไม่มีความรับผิดชอบต่อคนอื่นอีก" 



    สำหรับแนวทางการบริหารการเงินของตนเองนั้น ศิลปินคนดังบอกว่า ถ้าเรามีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่ง การจะลงทุนอะไรก็ต้องศึกษา หาความรู้ดูให้ดีก่อน ไม่ต้องรีบร้อนเอาเงินไปลงทุนหรือรีบเปิดร้านทำธุรกิจเพราะอาจจะทำให้ธุรกิจเจ๊งหรือสูญเงินเก็บที่มีมาทั้งหมดได้

    "เราต้องมีสกิลในการเรียนรู้บริหารจัดการด้านการเงินและหาจังหวะที่ดีให้เหมาะสมก่อนจะเริ่มลงทุน ที่ผ่านมาผมก็เคยลงทุนบ้างไปกับการซื้อหุ้น แต่ช่วงหลังๆ 2-3 ปีมานี้ยุ่งมากๆ มีเวลาติดตามข่าวสารด้านการลงทุนน้อยเลย ก็ต้องการลงทุนในด้านนี้เพื่อลดความเสี่ยงก่อนดีกว่า" และนี่คือทั้งหมดของบทสัมภาษณ์ดีๆ ที่มาย ภาคภูมิ กล่าวทิ้งท้าย


ภาพ : GUERLAIN



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 'คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น' จริงหรือ? ดร.วิทย์ แนะคนเล่นหุ้น 'จับจังหวะดีๆ และกระจายพอร์ตลงทุน'​

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine