หลัง SB CASA แบรนด์ใหม่ภายใต้ เอสบี ดีไซน์สแควร์ ประสบความสำเร็จอย่างมากกับ 3 คอลเล็กชัน Galar-Hagi-Eterno ที่คัดสรรวัสดุสุดเอ็กซ์คลูซีพมารังสรรค์เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ล่าสุดได้เผยโฉมคอลเลกชันใหม่ Soul Collection ที่วางแนวทางการออกแบบให้สะท้อน Mental Well-being ของผู้อยู่อาศัย
พิเดช ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เปิดเผยว่า แบรนด์ SB CASA คือหนึ่งในกลุ่ม Strategic Brand ที่ตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มตลาดผู้ที่ชื่นชอบการแต่งบ้านและเฟ้นหาสินค้าที่มีความเป็นเอกลักษณ์สะท้อนความเป็นตัวตนได้ชัดเจน มีอิสระในความคิด และมองว่าความแตกต่างเป็นสิ่งที่มีค่า ซึ่งในปัจจุบันถือว่าหาได้ไม่ง่ายนักในตลาด การพัฒนาแบรนด์ SB CASA จึงถือเป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่ท้าทาย เพราะเป็นการรวมทักษะเฉพาะ ความสามารถ และมุมมองของความเป็นมืออาชีพเข้ามาใช้ร่วมกัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคจะได้รับผลงานระดับมาสเตอร์พีซ
“เราพัฒนา SB CASA เพื่อเจาะกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการแต่งบ้านและชอบสินค้าที่มีดีไซน์ ต้องการสินค้าที่เป็นงานคราฟท์ งานประณีต หรือแม้แต่กลุ่มที่เป็นเจ้าของธุรกิจไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหารที่ต้องการสินค้าที่มีการดีไซน์เป็นพิเศษ แตกต่างจากเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป ทั้งการเลือกวัสดุและการออกแบบ สินค้าในกลุ่ม SB CASA นำเสนอภายใต้แนวคิด Feel the Masterpiece ให้ได้สัมผัสงานสุนทรียะแห่งงานศิลปะร่วมสมัยเข้ากับวัสดุธรรมชาติด้วยความใส่ใจพิถีพิถันในทุกรายละเอียดของชิ้นงานสะท้อนความปราณีต ความทรงพลัง เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่า คู่ควรแก่การเป็นเจ้าของ อีกระดับของงาน Art Piece ที่สามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อส่งมอบความประทับใจอย่างยั่งยืน”
พิเดชเล่าว่าที่ผ่านมา SB CASA ได้ส่ง 3 คอลเล็กชันสู่ลูกค้า ได้แก่ Galar Collection เฟอร์นิเจอร์งานคราฟท์จากเส้นที่โค้งมนของงานไม้ในสไตล์โมเดิร์นอิตาเลียน โดดเด่นด้วยแนวคิด Timeless White Artistry ให้ความหรูหราเหนือกาลเวลา, Hagi Collection ที่รังสรรค์ด้วยคอนเซปต์ Timeless Design of Cozy & Zen เฟอร์นิเจอร์ลาย ไม้สีอ่อน โค้งมน ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนอยู่ในห้องพักออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่น เต็มเปี่ยมด้วยสุนทรียะวิถีแห่งเซนให้ความสงบ ผ่อนคลาย บาลานซ์การใช้ชีวิต ผสานด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ในยุคสมัยปัจจุบัน และสุดท้ายคือ Eterno Collection ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด The Classic Scent of Luxury อีกรูปแบบของความหรูหราสไตล์ British Luxe การตกแต่งที่เน้นความเรียบง่าย เพิ่มดีเทลเส้นสีดำและองค์ประกอบของการตัดสีบนพื้นขาวนวล สะท้อนสไตล์การตกแต่งในแบบโมเดิร์น คลาสสิค อาร์ติซาน
หลังจากแนะนำ 3 คอลเล็กชันดังกล่าวสู่ตลาดพบว่าผลตอบรับที่ได้เป็นที่น่าพอใจอย่างมากเนื่องจากสินค้ามีจุดเด่นที่น่าสนใจ อีกทั้งยังเลือกที่จะใช้ไม้จริง ท็อปหิน และผ้าระดับไฮเอนด์อย่างผ้า PASAYA มาเป็นองค์ประกอบหลักของงานเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น รวมถึงการออกแบบที่หลากหลายและดีไซน์ที่ทันสมัยสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน
“สินค้าแบรนด์ SB CASA สะท้อนรสนิยมอันเป็นเอกลักษณ์สร้างความประทับใจให้กับแขกผู้มาเยือนได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดดเด่นเรื่องคุณภาพของสินค้าจากวัสดุที่เลือกใช้ในทุกคอลเล็กชันแบบเหนือความคาดหมาย” พิเดช กล่าวถึงความสำเร็จของ SB CASA
ล่าสุด SB CASA จึงได้เปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ Soul Collection ที่สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด Boutique Luxe for Your Home เพิ่มเสน่ห์น่าดึงดูดให้พื้นที่ที่อยู่อาศัยของคุณด้วยการรังสรรค์เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยการผสมผสานงานดีไซน์ระหว่างสี Pewter Grey เฉดสีเทาพร้อมอันเดอร์โทนสีเขียวที่ละเอียดอ่อน เสริมเสน่ห์เอกลักษณ์ภายในจากงานไม้สี Valley Oak เชื่อมโยงสองเฉดสีด้วยโลหะสีทองเหลืองบลัช และสะท้อนความหรูหราด้วยความเงาของกระจกใสพ่นสี
ดีไซน์ผ่านงานไม้ด้วยลายเส้นอันคมชัดของความโค้งมน และดีเทลระแนงงานคราฟท์รูปทรงหกเหลี่ยม เป็นการเสริมสร้างความสมดุล Individual Colors & Shape ที่ลงตัว ที่ทำให้ได้องค์ประกอบของบรรยากาศอันนุ่มนวล เพื่อสะท้อน Mental Well-Being หรือ สมดุลระหว่างการรับรู้, ความรู้สึก, ความคิด รวมไปจนถึงองค์ประกอบภายนอกอื่นๆ ที่ดีต่อทั้งกายใจของผู้อยู่อาศัยรวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งภายในบ้านให้เป็นพื้นที่สะท้อนความเป็นตัวตนของคุณพร้อมต้อนรับแขกผู้มาเยือนอย่างอบอุ่นในทุกมิติ
นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยี Craft Tech ผสานกับงานผีมือดั้งเดิมของช่างไม้ สร้างเอกลักษณ์งานคราฟท์ของระแนงไม้ให้กับความโค้งมนที่นุ่มนวลของบูทีคเฟอร์นิเจอร์ Soul Collection มีเฟอร์นิเจอร์ทั้งสำหรับห้องนอนและห้องนั่งเล่นให้ได้เลือกสรรอย่างตรงความต้องการ
“Soul Collection ภายใต้แบรนด์ SB CASA ให้ความสำคัญในการออกแบบที่ใส่ใจในรายละเอียดเน้นเรื่องของดีเทลของชิ้นงาน รวมถึงการคัดสรรวัสดุที่มีคุณภาพสูงทำให้มีคุณค่ายิ่งขึ้น การเลือกใช้สีที่ดูละมุนตา ท่ามกลางกลิ่นอายดีไซน์ที่ร่วมสมัยแม้เวลาจะผ่านไป ตอบโจทย์ตรงใจผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถปรับใช้ในการตกแต่งทุกพื้นที่ได้อย่างอิสระไม่ว่าจะเป็นโซนพักผ่อนหรือโซนทำงาน” พิเดชอธิบาย
นอกจากนี้เมื่อเพิ่มการตกแต่งภาพรวมของบ้านด้วยสไตล์ Transitional Lux ซึ่งเป็นสไตล์ที่ผสมผสานระหว่างความโมเดิร์น และความคลาสสิก โดยมักเน้นไปที่คุณภาพของตัวสินค้าและต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้นในสไตล์การตกแต่งที่มีการปรับให้เหมาะสมกับความต้องการและความรู้สึกของเจ้าของบ้านที่ให้การใส่ใจในรายละเอียดให้ได้ความสวยงามที่ลงตัว
“ทั้งหมดนี้เพื่อสะท้อนความเป็นหนึ่งในคอลเลกชันระดับมาสเตอร์พีซที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร สามารถเติมเต็มความต้องการที่หลากหลายด้วยความแตกต่างอย่างทรงคุณค่า ซึ่งทุกสิ่งที่กล่าวมารวมอยู่ในแบรนด์ SB CASA ที่เราตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้น” พิเดชกล่าวสรุป
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : จับตาทำเลสุดฮอต ‘บางนา-ตราด’ ผู้ประกอบการแห่ผุดมิกซ์ยูส ออฟฟิศสุดไฮเทค และที่อยู่อาศัยไฮเอนด์
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine