Heaven on Earth - Forbes Thailand

Heaven on Earth

FORBES THAILAND / ADMIN
23 Apr 2016 | 12:03 PM
READ 5310
เรื่อง: ปิลันธน์ ศรีวีระกุล / ภาพ: Courtesy of Nars François Nars เมกอัพอาร์ทิสต์ชื่อดังระดับโลกชาวฝรั่งเศส ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องสำอาง Nars คนนี้คือผู้มีอิทธิพลต่อความงามของผู้หญิงมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ในฐานะเป็นหนึ่งในผู้กำหนดเทรนด์การแต่งหน้าของแต่ละซีซั่น เขาก่อตั้งแบรนด์ Nars ขึ้นด้วยตัวเองในวัยเพียง 35 ปี และประสบความสำเร็จสูงสุดจนทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกภายในระยะเวลา เพียง 4 ปี จนกลุ่มบริษัทเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง Shiseido Group ติดต่อขอซื้อแบรนด์ของเขาเข้าเป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรเมื่อ ค.ศ. 2000 แม้จะมีหลายต่อหลายบริษัทติดขอซื้อแบรนด์ของเขาไปบริหารก็ตามที ปัจจุบัน François Nars ยังคงดำรงตำแหน่งครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ ภายใต้การบริหารของ Shiseido Group มุมมองที่มีความทันสมัยและรสนิยมที่เป็นเลิศของ François Nars ถูกถ่ายทอดออกมาในทุกรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นสีสันและเนื้อสัมผัสของเมกอัพ แพ็กเกจจิ้ง แคมเปญโฆษณา ไปจนถึงไลฟ์สไตล์และทุกสิ่งทุกอย่างที่รายล้อมรอบตัวซึ่งก่อให้เกิดแรง บันดาลใจในการทำงาน ดังเช่นบ้านพักและรีสอร์ตส่วนตัวสุดหรูบนเกาะ Motu Tane ของเขาที่ได้รับการตกแต่งอย่างมีรสนิยม สัมผัสได้ถึงความหรูหราในทุกรายละเอียด แต่ยังดูกลมกลืนไปกับความงดงามของธรรมชาติ โดยไม่ขโมยซีนของผืนทรายและท้องทะเลแม้แต่น้อย Nars กล่าวว่า “ผม ตั้งใจให้ที่นี่เป็นบ้านพักส่วนตัวสำหรับผมและครอบครัวในช่วง 5-6 เดือนของทุกๆ ปีที่ผมต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์กมาชาร์จแบตฯ บนเกาะนี้ เพื่อหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการทำงาน” How it all started ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายของทศวรรษ 1990 Nars และครอบครัวเดินได้ทางไปเที่ยวเกาะ Bora Boraและได้พบเกาะ Motu Tane ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะ Bora Bora เพียง 5 นาทีโดยเรือเขาตกหลุมรักเกาะเล็กๆ เกาะนี้ในทันที และตัดสินใจซื้อในเวลาต่อมา เขารู้สึกผูกพันกับเกาะ Motu Tane และมองว่านี่คือสถานที่ที่เขาและครอบครัวจะสามารถใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันได้ อย่างสงบและมีความสุขที่สุดในช่วงเวลาที่ต้องการตัดขาดจากโลกภายนอกอันแสน วุ่นวาย เขากล่าวถึงเหตุผลในการตัดสินใจซื้อเกาะที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของเกาะส่วนตัวที่แพงที่สุดในโลกว่า “ตอน นั้นผมก็แค่คิดว่าการซื้อเกาะส่วนตัวเป็นอะไรที่ฟังดูหรูหราและรู้สึกดี ผมจึงตัดสินใจซื้อแต่ไม่ได้คิดเผื่อไว้เลยว่าการจะเนรมิตเกาะสักเกาะที่ไม่ มีอะไรเลยนอกจากความงามตามธรรมชาติให้กลายเป็นบ้านพักและรีสอร์ตส่วนตัวที่ สะดวกสบายสมบูรณ์แบบและพร้อมสรรพด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่างเหมือน ที่เห็นอยู่ในวันนี้เป็นอะไรที่ยุ่งยากและซับซ้อนมากๆ” โปรเจ็กต์บ้านพักและรีสอร์ตส่วนตัวบนเกาะ Motu Tane ของ Nars เริ่มขึ้นอย่างจริงจังใน ค.ศ. 2000 ด้วยไลฟ์สไตล์ของ Nars เขาต้องการบ้านพักและรีสอร์ตส่วนตัวที่เงียบสงบแต่ในขณะเดียวกันก็ต้องตอบ โจทย์คนรักการสังสรรค์และปาร์ตี้กับคนสนิทได้อย่างครบถ้วนเพื่อความไม่น่า เบื่อ Nars ระดมทีมงานจากทั่วทุกมุมโลกมาที่นี่เพื่อช่วยกันสร้างฝันของเขาให้กลายเป็น จริง เริ่มด้วยนักนิเวศวิทยาที่ต้องบินตรงมาจากประเทศออสเตรเลียเพื่อวางท่อประปา ใต้ทะเลมาจากแผ่นดินใหญ่ ความท้าทายก็คือจะวางท่อประปาอย่างไรโดยไม่ทำลายระบบนิเวศทางทะเล หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อปะการังในท้องทะเล ตามด้วยทีมนักออกแบบจากฝรั่งเศส ได้ Christian Liaigre ดีไซเนอร์นักออกแบบสถาปัตยกรรมและตกแต่งภายในชาวฝรั่งเศสทำหน้าที่ออกแบบ Liaigre นำทรงบ้านสไตล์ตาฮิติดั้งเดิมมาใช้ในการออกแบบตัวบังกะโล ตกแต่งด้วยวัสดุจากธรรมชาติทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นหลังคามุงใบจาก พื้นไม้สักโบราณ Liaigre กล่าวว่า “เพื่อ ให้ได้บรรยากาศที่ดูอบอุ่นและผ่อนคลาย เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ที่เลือกใช้จึงเป็นสีไม้ธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นไม้สีดำจากแอฟริกาหรือไม้สักจากประเทศไทย ผมพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สีสดๆ จัดจ้านในการตกแต่ง เพราะสีเขียวสดของต้นไม้ สีสันของดอกไม้บนเกาะ และสีฟ้าสดของท้องทะเลและท้องฟ้าที่โอบล้อมตัวเกาะนั้นสดใสมากพออยู่แล้วที่ จะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวาท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติ” True Paradise รี สอร์ตตอนนี้มีบังกะโลสไตล์ตาฮิติหลังคามุงจาก 13 หลัง โดยแบ่งเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่เป็นที่พักของ Nars ซึ่งประกอบด้วยมาสเตอร์สวีตบังกะโลขนาด 929 ตารางฟุต 2 หลัง หลังหนึ่งสำหรับ Nars อีกหลังสำหรับพ่อแม่ของเขา และอีกส่วนคือส่วนสำหรับแขกที่มาพัก ประกอบไปด้วยสวีตบังกะโลขนาด 2 ห้องนอน 2 หลัง และบังกะโลติดชายหาดอีก 9 หลัง นอกจากนั้นยังมีส่วนของบังกะโลที่เป็นฟิตเนส ห้องดินเนอร์ ห้องสมุด และห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ รีสอร์ต Motu Tane เปิดให้บริการสำหรับการพักผ่อนแบบส่วนตัวทีละกลุ่ม สามารถรับรองแขกได้สูงสุด 20 คน สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่จัดงานแต่งงานเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศ สุดแสนโรแมนติก หรือต้องการหลีกหนีความวุ่นวายไปพักผ่อนกับครอบครัวและคนรู้ใจ ไปจนถึงจัดปาร์ตี้สังสรรค์แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับเพื่อนสนิท รีสอร์ต Motu Tane น่าจะเป็นคำตอบที่ค่อนข้างลงตัวสำหรับคนใจถึงกับราคาคืนละประมาณหนึ่งล้าน บาท About François Nars François Nars พ่อมดแห่งสีสันชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลกคนนี้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องสำอาง Nars ขึ้น ใน ค.ศ.1994 แม้จะเริ่มเปิดตัวแบรนด์ด้วยลิปสติกเพียง 12 สีซึ่งวางขายแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ห้าง Barney New York เท่านั้น แต่กลับสร้างปรากฏการณ์ Nars Fever ด้วยเสียงตอบรับอย่างท่วมท้นจากผู้หญิงในนิวยอร์กภายในช่วงเวลาสั้นๆ จนทำให้ Nars กลายเป็นตำนานใหม่ของโลกแห่งสีสันเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยคาแร็กเตอร์ของแบรนด์ที่สะท้อนความเป็นผู้หญิงที่มีความเซ็กซี่ ทันสมัย มั่นใจ เด็ดเดี่ยว และกล้าได้กล้าเสีย เห็นได้จากแพ็กเกจจิ้งสีดำเนื้อสัมผัสแบบกำมะหยี่ที่ออกแบบโดย Fabien Baron ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นแพ็กเกจจิ้งแห่งยุค ถือเป็นการปฏิวัติวงการเครื่องสำอางอย่างแท้จริง นอกจากความสามารถในการแต่งหน้าแล้ว François Nars ยังหลงใหลและมีพรสวรรค์ในการถ่ายภาพด้วย เขาเริ่มทำแคมเปญโฆษณาครั้งแรกด้วยการถ่ายภาพโฆษณาให้แบรนด์ของตัวเอง รวมทั้งถ่ายภาพนางแบบและเซเลบริตี้ในหนังสือแต่งหน้าของเขาซึ่งปัจจุบันมี ถึง 3 เล่ม François Nars คือเมกอัพอาร์ทิสต์ ช่างถ่ายภาพ และครีเอทีฟแห่งโลกสีสันและแฟชั่นตัวจริงผู้ไม่เคยหยุดสร้างสรรค์ผลงานดีๆ เขาบอกว่าแรงบันดาลใจในการทำงาน ส่วนใหญ่ของเขามักมาจากการเดินทาง และการได้หลีกหนีความวุ่นวายไปพักผ่อนบนเกาะส่วนตัวของเขาที่เต็มไปด้วยความ งดงามราวกับสวรรค์บนดินอย่างเกาะ Motu Tane
คลิ๊กอ่าน "Heaven on Earth" ฉบับเต็มได้ที่ ForbesLife Thailand ฉบับ MARCH 2016 ในรูปแบบ E-Magazine