ชิมรสชาติอาหารฝรั่งเศสต้นตำรับที่ Tables Grill - Forbes Thailand

ชิมรสชาติอาหารฝรั่งเศสต้นตำรับที่ Tables Grill

Tables Grill ร้านอาหารอายุ 9 ปีในโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เพิ่งจะยกเครื่องเปลี่ยนสไตล์ร้านอาหารและ Chef de Cuisine คนใหม่มาเป็นร้านสไตล์ฝรั่งเศส เสนอเมนูฟูลคอร์สพร้อมตัวเลือกชีสจาก Barnard Antony และไวน์หายาก

ร้านอาหาร Tables Grill บนชั้น 1 โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กำลังเตรียมงานในครัวและจัดตกแต่งโต๊ะปูผ้าปูสีขาวใต้แสงเทียน บรรยากาศโดยรวมตกแต่งด้วยไม้สีน้ำตาลอบอุ่นและแสงไฟสีส้ม ปัจจุบัน Tables Grill ได้เชฟ Hans Zahner เชฟชาวฝรั่งเศสที่ย้ายมาจากห้องอาหาร Sir Elly โรงแรม The Peninsula Shanghai ประเทศจีน มาประจำตำแหน่ง Chef de Cuisine ร้านจึงเปลี่ยนเมนูอาหารทั้งหมดเป็นสไตล์ฝรั่งเศส Zahner กล่าวกับ Forbes Thailand ว่าเขาเลือกย้ายมาประจำประเทศไทยเพราะการมาถึงของมิชลิน สตาร์ที่เริ่มให้ดาวมิชลินกับร้านอาหารในกรุงเทพฯ เมื่อปีที่แล้ว นับเป็นความท้าทายใหม่ที่ทำให้เขาต้องการมาร่วมงานในไทย สำหรับสไตล์อาหาร Zahner ยังคงความถนัดในสไตล์อาหารฝรั่งเศสที่ใช้วัตถุดิบชั้นดี เขาได้ยกเมนูจากประเทศจีนมาที่ Tables Grill โดยปรับเปลี่ยนบางเมนูให้มีความเป็นไทยขึ้น เช่น เมนูซุปปูยักษ์อลาสก้า และวัตถุดิบบางส่วนมีการปรับมาใช้ของไทย เช่น พืชผักส่วนใหญ่จะมาจากโครงการหลวงทางภาคเหนือ ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ มาจากหลากหลายแหล่งทั่วโลก
Hans Zahner เชฟแห่งร้าน Tables Grill
เมนูแนะนำของทางร้านจะเป็นเมนูฟูลคอร์สสำหรับมื้อเย็น มีให้เลือกทั้งแบบคอร์ส 5 จาน หรือคอร์ส 7 จาน เสริมด้วยตัวเลือกชีสตบท้ายมื้ออาหารก่อนเข้าสู่ช่วงของหวาน โดยวันนี้ Forbes Thailand ขอเลือกคอร์สแบบ 5 จานมานำเสนอโฉมใหม่ของร้าน Tables Grill   David Herve Boudeuse Oyster หอยนางรมจากฟาร์มในฝรั่งเศสคำโตชิ้นนุ่ม มีซอสที่ช่วยตัดรสเค็มและกลิ่นคาวของหอยนางรมเป็นเจลลี่ที่ทำจากตะไคร้และแอปเปิ้ลรสเปรี้ยวเล็กน้อย พร้อมกับบีทรูทพูเรกรอบๆ ช่วยเสริม texture ในปากตัดกับความนุ่มของหอย ตัวหอยเสิร์ฟมาบนจานสีขาวและเกลือสีฟ้าสดสื่อถึงท้องทะเลที่อาหารจานนี้เติบโตมา เป็นจานแรกที่เรียกความสนใจในมื้ออาหารได้อย่างดี   Brittany Royal Sea Bass ปลากะพงจาก Brittany ประเทศฝรั่งเศส ตัวเนื้อปลาบดจะค่อนข้างยุ่ยและมีรสเค็ม เสิร์ฟมาพร้อมกับไข่ปลาคาเวียร์สีดำด้านบนและน้ำมันมะกอกด้านล่างพร้อมเจลลี่แครอท ตัวเจลลี่จะมีรสออกหวานเพื่อมาตัดกับรสเค็มของปลา   Alaskan King Crab เป็นเมนูที่เชฟ Zahner ปรับสูตรให้มีความเป็นไทยเข้ามาผสม ลักษณะคล้ายกับซุปข้นที่มีโฟมหนาอยู่ด้านบน ตัวซุปมีเนื้อปูยักษ์อลาสก้าในแกงแดงของไทยแต่ลดความเผ็ดลงเพื่อให้ชาวต่างชาติรับประทานง่ายและเป็นกลิ่นเนยที่หอมหวลเข้ามาแทนที่กลิ่นแกง ด้านบนโฟมมีเครื่องเทศโรย ทำให้ต้องรับประทานขณะที่ยังร้อนๆ เพื่อรับกลิ่นเครื่องเทศ   Roasted Australian Lamb เนื้อลูกแกะส่วนสันในย่างมาแบบมีเดียมแรร์กำลังดี ตัวเนื้อนุ่มหนึบและกลิ่นไม่สาบมากและให้รสเค็มพอดี ส่วนที่เซอร์ไพรส์คือแครอทมิลเฟย แครอทสไลด์บางซ้อนเป็นชั้นมีรสหวานและนุ่มมาก ควรรับประทานเนื้อกับแครอทพร้อมกันในคำเดียวจะได้รสชาติที่ผสมกลมกล่อม การจัดจานเมนูนี้ยังน่ารับประทานด้วยซอสยี่หร่าสีส้มที่ทาลงบนพื้นจานสีขาว และแครอทหั่นเต๋าเล็กๆ น่ารัก   Lemon and Rhubarb ไอศกรีมซอร์เบรูบาร์บเสิร์ฟคู่กับครีมเลมอนและซอสราสเบอร์รี่ รองด้านล่างด้วยครัมเบิลถั่วเฮเซลนัท ความเปรี้ยวสดชื่นของไอศกรีมรูบาร์บและครีมเลมอนตัดรสเนื้อที่ทิ้งค้างในปากจากจานก่อนหน้าได้เป็นอย่างดี   ภาพรวมของฟูลคอร์สมื้อนี้เป็นอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยที่ใส่กลิ่นอายไทยเล็กน้อย รสชาติพื้นฐานจะออกทางรสอ่อนๆ เน้นชูรสวัตถุดิบหลักจำพวกเนื้อสัตว์ โดยระหว่างคอร์สก่อนที่จะถึงเมนูของหวาน สามารถเลือกเพิ่มชุดตัวเลือกชีสจาก Bernard Antony ที่จะเสิร์ฟมาบนเขียงไม้ขนาดยาวให้ได้ลองชิมชีสนำเข้าหลายประเภท เป็นตัวเลือกที่คนรักชีสไม่ควรพลาด Artisan Cheese Selection นอกจากนี้ ร้าน Tables Grill ยังมีไวน์จำนวนมากให้เลือกสรร และร้านจะจับคู่ไวน์กับอาหารในคอร์สให้ด้วย โดย Sylvain Meme ผู้จัดการร้านบอกกับเราว่าทางร้านมีไวน์ขวดไฮไลต์เป็นไวน์หวาน Les Jardins de Babylone Jurancon ปี 2011 ซึ่งมีจำหน่ายที่ Tables Grill แห่งเดียวในกรุงเทพฯ   ชื่อร้าน: Tables Grill สไตล์: ฝรั่งเศส พิกัด: ชั้น 1 โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ถนนราชดำริ วัน/เวลาทำการ: มื้อเย็น ทุกวัน 18.00-22.00น. ราคา: ฟูลคอร์ส 5 จาน 2,900 บาท (Cheese Selection +420 บาท)   ภาพนิ่ง: กิตตินันท์ สังข์นิยม วิดีโอ: ฐานิธ จันทร์สว่าง