“เราอยู่ที่นี่เพื่อสร้างนาฬิกาที่ดีที่สุด ให้สมดังเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้ง” Wilhelm Schmid ซึ่งเป็น CEO ของ Lange Uhren GmbH ผู้ผลิตนาฬิกา A.Lange & Söhne ในกลุ่ม Richemont เอ่ยกับ Forbes Thailand อย่างภาคภูมิใจ
ย้อนไปเมื่อ 170 ปีก่อน จากเมืองเล็กๆ ที่แทบไม่มีใครรู้จัก Ferdinand Adolph Lange ลงหลักปักฐานก่อตั้งโรงงานผลิตนาฬิกาภายใต้ชื่อ A.Lange & Söhne ขึ้นที่เมือง Glashütte ในปี 1845 เขาและผู้ช่วยจำนวนหยิบมือสร้างสรรค์นาฬิกาด้วยความตั้งใจ โดยมีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นสมาชิกราชวงศ์ในยุโรป รวมถึงผู้มีชื่อเสียงในแวดวงสังคมชั้นสูง ชื่อชั้นในการทำนาฬิกาของเขาขจรขจายไปไกล พร้อมๆ กับสร้างให้ Glashütte โดดเด่นในฐานะเมืองผลิตนาฬิกา หลังจาก Ferdinand เสียชีวิต ลูกชายทั้งสองของเขาก็รับไม้ต่อและส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น กระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้นำเปลวเพลิงลามสู่เมือง ทำให้ในที่สุด A.Lange & Söhne ต้องหยุดกิจการในปี 1948 และ Walter Lange ซึ่งเป็นเหลนของ Ferdinand ต้องลี้ภัยออกจากเยอรมนีตะวันออก ทว่าไฟแห่งความหวังของเขายังคงโชติช่วง เมื่อกำแพงเบอร์ลินพังทลาย และเพียงไม่นานหลังจากการรวมเยอรมนีตะวันตกและตะวันออก Walter ก็ก่อตั้งบริษัทขึ้นใหม่ในนาม Lange Uhren GmbH เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ปี 1990 ซึ่งเป็นวันและเดือนเดียวกับที่ทวดของเขาก่อตั้งโรงงานผลิตนาฬิกา ปี 1994 A.Lange & Söhne หวนคืนสู่สังเวียนนาฬิการะดับไฮเอนด์อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวนาฬิกา 4 รุ่นแรก และไม่เคยห่างหายนับแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งในไทยมี บริษัท เพนดูลัม จำกัด เป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และได้กระแสตอบรับดีอย่างยิ่งจากนักสะสมนาฬิกาชาวไทย โรงงานของ A.Lange & Söhne ที่ Glashütte มีบุคลากรกว่า 650 คน จำนวนนี้เป็นช่างทำนาฬิกากว่า 200 คน ประจำอยู่ตามแผนกต่างๆ เช่น แผนกต้นแบบ แผนกแกะลวดลายชิ้นส่วน แผนกประกอบนาฬิกา แผนกทดสอบประสิทธิกลไก เป็นต้น ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องผ่านการเคี่ยวกรำอย่างเข้มข้น Tino Bobe ผู้เป็น Director of Manufacturing เล่าว่า A.Lange & Söhne มีโรงเรียนสอนทำนาฬิกาของตนเอง แต่ละปีจะมีผู้ยื่นใบสมัครเป็นจำนวนมาก แต่สามารถรับได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว 98% สมัครใจทำงานเป็นช่างทำนาฬิกาของแบรนด์ต่อ มีส่วนน้อยเท่านั้นที่เลือกศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยในเมืองอื่น ที่นี่เป็นแบรนด์นาฬิกาไม่กี่แห่งที่ผลิตชิ้นส่วนขึ้นเอง มีจุดเด่นคือการใช้วัสดุเฉพาะที่เรียกว่า German Silver มีความทนทานสูง นำมาผลิตเป็นชิ้นส่วนต่างๆ เช่น balance cock ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ A.Lange & Söhne เป็นที่จดจำและนึกถึง ช่างแกะสลักจะทำงานผ่านกล้องขยายกำลังสูง เพื่อใช้เครื่องมือบรรจงแกะสลักลวดลายดอกไม้ลงบน balance cock ที่มีความยาวไม่กี่เซนติเมตร แต่ละชิ้นจะมีความงามแตกต่างกันไปตามฝีมือของช่างแต่ละคน ระยะเวลาที่ใช้แกะสลักขึ้นอยู่กับความยากง่ายของลวดลาย ซึ่งโดยมากจะใช้เวลาเฉลี่ยที่ 45 นาที “ความ สมบูรณ์แบบและคุณภาพคือสิ่งที่เรายึดถือมาโดยตลอด แต่สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันก็คือการนำพาทุกคนที่มีความรักในการทำ นาฬิกาชั้นสูงมาอยู่ร่วมกัน และผลิตนาฬิกาที่ดีที่สุดให้ผู้คนได้สวมใส่” Bobe กล่าวถึง “หัวใจ” ของ A.Lange & Söhne จากภาพ: โรงงาน A.Lange & Söhne และอาคารต่างๆ ในเมือง Glashütteติดตาม Forbes Thailand "แรงบันดาลใจของผู้ใฝ่ความสำเร็จ" จากแผงหนังสือชั้นนำและรูปแบบ E-MAGAZINE