เจ้าพ่อจอเงิน: โฮมเธียเตอร์ของ Charles Cohen - Forbes Thailand

เจ้าพ่อจอเงิน: โฮมเธียเตอร์ของ Charles Cohen

FORBES THAILAND / ADMIN
27 Nov 2017 | 10:43 AM
READ 13911

Charles Cohen ตกหลุมรักการชมภาพยนตร์ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เขาชอบภาพยนตร์เรื่อง Cinderella ที่คุณยายพาไปชมมากจนกระทั่งยายของเขาต้องพาไปดูภาพยนตร์เรื่องนั้นซ้ำอีกเป็นรอบที่สอง

Cohen ใช้เวลาในช่วงก่อนวัยรุ่นดูภาพยนตร์ต่างประเทศหลายต่อหลายเรื่องที่โรงภาพยนตร์ซึ่งตั้งอยู่ใกล้บ้านใน Westchester County รัฐ New York บางครั้งเขาโดยสารรถประจำทางไป White Plains เพื่อดูภาพยนตร์ซึ่งฉายสองเรื่องควบ Cohen ยังเคยทำหนังสั้น 3 เรื่องในช่วงวัยระหว่าง 16-20 ปี เขากล่าวว่า “ภาพยนตร์เป็นเหมือนประตูสู่โลกกว้างสำหรับผม” หลังจากจบการศึกษาด้านกฎหมายแล้ว Cohen เริ่มต้นทำงานในธุรกิจของครอบครัวอย่าง Cohen Brothers Realty ซึ่งเป็นที่มาของทรัพย์สินมูลค่า 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ของเขา และในที่สุดเขาก็ได้ซื้อกิจการนั้นจนได้เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว
Charles Cohen ร่ำรวยจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ สินทรัพย์มูลค่าสูงส่วนใหญ่ของเขาคือบรรดาออฟฟิศบิลดิ้งใน New York และศูนย์การออกแบบในอีกหลายเมือง อีกมุมหนึ่ง Cohen คลั่งไคล้ภาพยนตร์และจัดตั้งบริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์ ซึ่งบริษัทนี้ได้เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์คลาสสิกกว่า 1 พันเรื่อง
ถึงกระนั้นก็ดี ความหลงใหลในภาพยนตร์ก็ยังคงอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย ในระยะแรก Cohen เก็บงำความคลั่งไคล้นั้นไว้คนเดียว เขาใช้เงินประมาณ 500,000 เหรียญสร้างโรงภาพยนตร์ที่มีความวิจิตรงดงามขึ้นใต้แมนชั่นใน Greenwich รัฐ Connecticut ของเขาในปี 1994 จากนั้น เขาได้ใช้เงินอีก 500,000 เหรียญทยอยปรับปรุงโรงภาพยนตร์ของเขาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เช่น ติดตั้งจอโปรเจคเตอร์ดิจิทัลสำหรับฉายภาพยนตร์ในระบบสามมิติ และจอภาพยนตร์แบบโค้งซึ่งมีความสว่างมากกว่าจอภาพยนตร์แบบปกติเพื่อฉายภาพยนตร์ที่ถ่ายทำด้วยเลนส์ที่มีความคมชัดสูงสุด หรือในระบบสามมิติ ในที่สุด เขาได้ก้าวออกมาจากโรงภาพยนตร์เพื่อลงมือทำความฝันของตนในปี 2008 เขาได้ลงทุนและร่วมสร้างภาพยนตร์เรื่อง Frozen River ซึ่งกำกับการแสดงโดยภรรยาของเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง Cohen ขาดทุนเล็กน้อยจากการสร้างภาพยนตร์ แต่ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscar ถึงสองรางวัลด้วยกัน
โรงภาพยนตร์ส่วนตัว Quad Cinema ใต้แมนชั่นของ Cohen ที่ Greenwich Village รัฐ Connecticut ค่าก่อสร้างรวมกับค่าปรับปรุงสถานที่นับจากปี 1994 ถึงปัจจุบันคิดเป็นมูลค่าราว 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
สองปีต่อมา เขาเปิดบริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์และถือสิทธิในภาพยนตร์คลาสสิกและภาพยนตร์ต่างประเทศถึง 1,000 เรื่อง ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมประจำปี 2017 จากเวที Oscar อย่าง The Salesman ตัวเขาจัดจำหน่ายภาพยนตร์จากประเทศอิหร่านเรื่องดังกล่าวร่วมกับ Amazon Studios ในประเทศสหรัฐฯ Cohen ลงมือสร้างโรงภาพยนตร์อันมีสไตล์ โดยเริ่มจากการปรับโฉม Quad Cinema ใน Greenwich Village ซึ่งจะเปิดตัวใหม่ในเดือนเมษายน และกำลังจะนำภาพยนตร์สำหรับครอบครัวที่โด่งดังในทศวรรษ 1970 อย่าง Benji กลับมาสร้าง นอกจากจะเป็นสมาชิกของ Academy of Motion Picture Arts & Sciences แล้ว Cohen ยังเป็นสมาชิกของสถาบันอันทรงเกียรติอย่าง Bel Air Circuit ซึ่งส่งภาพยนตร์เรื่องใหม่ให้สมาชิกวงในได้รับชมก่อนฉายในโรงภาพยนตร์อีกด้วย ในวันหยุด Memorial Day เขาและครอบครัวใช้เวลาว่างชมภาพยนตร์เรื่อง Pirates of the Caribbean ภาค 5, Paris Can Wait และ Baywatch   ใบปิดหนังของแท้ขนาด 81 นิ้วของภาพยนตร์ 4 เรื่อง ได้แก่ Frenzy ของผู้กำกับ Alfred Hitchcock (ซ้าย) ภาพยนตร์ James Bond เรื่อง For Your Eyes Only (ขวา) Chinatown และ The Day of the Locust แขวนอยู่บริเวณทางเข้าโรงภาพยนตร์ Cohen ประมูลใบปิดหนังโบราณและนำมาซ่อมแซมจนมีสภาพดี เขามีใบปิดหนังมากกว่า 100 ใบ และสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันนำออกมาแสดง บนกำแพงยังมีใบปิดหนังขนาดย่อมลงมาของภาพยนตร์เรื่อง From Russia with Love (ซ้าย) และภาพนิ่งจากภาพยนตร์เรื่อง North by Northwest (ขวา)  
ประติมากรรมรูปพนักงานเก็บตั๋วหนังแต่งตัวเต็มยศเป็นผลงานของศิลปินจาก Massachusetts ซึ่ง Cohen สั่งทำขึ้นในราคา 10,000 เหรียญ
   
ไฟระบบใยแก้วนำแสงซึ่งปรับระดับความสว่างได้ติดตั้งอยู่บนเพดานบริเวณทางเข้าเพื่อช่วยสร้างบรรยากาศของท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีแสงดาวระยิบระยับ ราวกับว่าคุณเดินเข้าล็อบบี้มาจากภายนอกอาคาร สัญลักษณ์ Paramount ซึ่งสั่งทำขึ้นล้อมรอบด้วยงานโลหะฝีมือประณีตซึ่ง Cohen ซื้อต่อมาจากบริษัทที่ทำการบูรณะซ่อมแซม Grand Central Terminal
มือจับประตูโรงภาพยนตร์ทำด้วยทองเหลือง 8 คู่เป็นของดั้งเดิมจากโรงภาพยนตร์ Paramount ที่ 43rd Street และโรงละคร Broadway ใน Times Square โคมไฟระย้าจากโรงภาพยนตร์ Centrum Theatre ใน Cleveland แขวนอยู่ในล็อบบี้เหนือทางเข้า โรงภาพยนตร์สุดอลังการของ Cohen ซึ่งปูพื้นด้วยหินขัดและกรุผนังด้วยหินปูนเทียมแห่งนี้สร้างขึ้นโดยมีกลิ่นอายของโรงภาพยนตร์สุดหรูในช่วงทศวรรษ 1920 และ 1930
Cohen เป็นแฟนตัวยงของ Hitchcock เป็นสาวกของภาพยนตร์ James Bond และภาพยนตร์ต่างประเทศ เขายืนยันว่าตัวเขาหลงใหลภาพยนตร์ทุกประเภท โดยเฉพาะภาพยนตร์แนวอินดี้ ถ้าหากถามว่าภาพยนตร์เรื่องใดเป็นภาพยนตร์ที่เขาชื่นชอบมากที่สุดตลอดกาล เขาตอบว่าคำถามนี้เหมือนกับคำถามว่าคุณรักลูกคนไหนมากที่สุดหรืออะไรคืออาหารจานโปรดของคุณ มันเป็นการเดินทางที่ไม่มีจุดสิ้นสุด และก็ยังมีผู้สร้างภาพยนตร์ฝีมือดีอีกหลายต่อหลายคน
ที่นั่งทั้ง 24 ที่รวมทั้งโซฟาคู่อีกหนึ่งตัวสามารถมองเห็นจอภาพยนตร์ได้ชัดเจน ที่นั่งแถวถัดไปอยู่สูงกว่าที่นั่งแถวก่อนหน้าสองขั้นบันได เพดานอันวิจิตรงดงามมี โรงภาพยนตร์ Roxy Theatre ใน New York เป็นต้นแบบ
  เรื่อง: LUISA KROLL เรียบเรียง: ริศา
ติดตามบทความทางด้านธุรกิจได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ ตุลาคม 2560 ในรูปแบบ e-Magazine