พงษ์ชัย จินดาสุข หนึ่งในทายาทรุ่น 2 แห่งธุรกิจอุปกรณ์ประปา SANWA ที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและครอบคลุมอาเซียน และในเมืองใหญ่รอบโลก ถ่ายทอดสมการที่ลงตัวระหว่าง ธุรกิจ-ชีวิต-ศิลปะ"
หนึ่งเหตุผลสำคัญต้องมาจากความตั้งใจในการใช้ “ทองเหลือง” เป็นวัตถุดิบผลิตอุปกรณ์ประปาคุณภาพสูงจนได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์คุณภาพจากรัฐบาลไทย ซึ่งชี้ชัดว่า “ผลิตภัณฑ์ดีไม่แพงก็มี” ของ SANWA มีคุณภาพสูงตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2534 จนถึงเวลานี้ ภายใต้การบริหารของ พงษ์ชัย จินดาสุข กรรมการผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดผลิตภัณฑ์ซันวา (SANWA) บริษัท จินดาสุขคอมเมอร์เชียล (1980) จำกัด นักธุรกิจวัย 56 ปี ที่มีแนวคิด การทำงานที่พัฒนามาจากงานอดิเรกที่เขารัก ให้เป็นธุรกิจเพิ่มรายได้ควบคู่ธุรกิจหลักได้อย่างน่าสนใจ นั่นคือการเป็นเจ้าของและผู้บริหาร The Third Place BANGKOK ซอยทองหล่อ 10 ซึ่งรวม ARDEL’s Third Place Gallery และร้านอาหารนางกวัก ไว้ในพื้นที่เดียวกัน รวมถึงเป็นผู้อำนวยการบริหารโครงการเขาใหญ่อาร์ตมิวเซียม แกลเลอรีศิลปะร่วมสมัย พร้อมบ้านพักตากอากาศไว้บริการ และยังสวมหมวกใบอื่นๆ ในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมด้วย พงษ์ชัยเป็นบุคคลหนึ่งในรุ่น 2 ของครอบครัวจินดาสุข ที่อยู่ในการสร้างสรรค์ให้อุปกรณ์ประปา SANWA ดีไม่มีตกเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความเรียบง่ายในการขยายตัวกระทั่งวันนี้มีบริษัทในเครือหลายแขนง แม้ขณะนี้ประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญวิกฤตโรคระบาดจากไวรัสโควิด-19 แต่เพราะความที่ในไทยเกิดภัยแล้งอย่างรุนแรงด้วย จึงเป็นผลให้ SANWA ยังคงรักษาระดับยอดขายได้อย่างดี โดยพงษ์ชัยยอมรับว่า หากการแพร่ระบาดยังคงต่อเนื่องไปอีกหลายเดือน เขาก็เชื่อว่า SANWA จะได้รับผลกระทบไปด้วยแน่นอน “ผลประกอบการปีที่แล้วของ SANWA ไม่ตกแต่ก็ไม่โต เพราะเศรษฐกิจโดยรวมของไทยที่ยังไม่ดี แต่ยอดขาย 4 เดือน ตั้งแต่ต้นปี 2563 มานี้ เรายังดีอยู่เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ด้วยนโยบายหลักของ SANWA ที่ผลิตสินค้าคุณภาพดีเทียบเท่าของนอกแต่ราคาถูก หากใครคิดจะทำแข่งก็อาจเหนื่อยนี่เป็นจุดแข็งของเราว่า ของดีก็ต้องถูก ต้องมี แง่ที่ว่าเมื่อเทียบกับคุณภาพจะถูกกว่าก๊อกในระดับเดียวกัน” พงษ์ชัยกล่าว-หมวกหลายใบแต่จุดยืนเดียว-
เมื่อธุรกิจครอบครัวดำเนินไปได้ด้วยดี พงษ์ชัยก็เริ่มต้นทำธุรกิจของตนเองโดยพัฒนาที่ดินเปล่าของครอบครัวให้มีรายได้ ใช้เงินลงทุนของตนสร้าง The Third Place BANGKOK จากขนาดผืนดินไม่กี่ตารางเมตรในแนวราบ เป็นอาคาร 3 ชั้น ประกอบธุรกิจร้านอาหารนางกวัก อาร์เดล แกลเลอรีแสดงงานศิลปะ และ coworking space อย่างสวยงาม เมื่อเศรษฐกิจขยับ และการขยายร้านอาหารก็นับเป็นโอกาสดี พงษ์ชัยจึงปรับเปลี่ยนร้านขึ้นชั้นบน โดยมีเพื่อนมาร่วมลงทุนคือ อั๋น (ศราวุธ นวแสงอรุณ นักแสดง) กับเจนนี่ (เจนนิเฟอร์ โปลิตานนท์ นักร้อง/นักแสดง) และเป็นผู้ดูแลหลักของร้าน ปรับจากการขายอาหารไทยสู่อาหารอิตาเลียนปรับพื้นที่ coworking space เป็นแกลเลอรีแทน โดยนับเป็นยุคต้นของแกลเลอรีก็ว่าได้ที่ใช้คอนเซ็ปต์ “เอาศิลปะมาอยู่ในเมืองให้ดูกันง่ายๆ” จัดแสดงงานประติมากรรมของวัชระ ประยูรคำ ประติมากรเป็นงานเปิดตัวแกลเลอรี และมีผลงานศิลปะมากคุณค่าจัดแสดง ณ อาร์เดล อย่างต่อเนื่องโดยมีคิวเรเตอร์คือ ศาสตราจารย์ ถาวร โกอุดมวิทย์ และอีก 5 ปีต่อมา พงษ์ชัยก็นำแนวคิดเอาศิลปะไปอยู่นอกเมืองให้ดูกันง่ายๆ โดยก่อตั้งโครงการเขาใหญ่อาร์ตมิวเซียม แกลเลอรีศิลปะร่วมสมัย พร้อมบ้านพักตากอากาศด้วยบริการแบบรีสอร์ตในพื้นที่เดียวกัน “สำหรับที่เขาใหญ่อาร์ตมิวเซียมนั้นเกิดจากอยากทำหมู่บ้านเล็กๆ ขายในพื้นที่สวยๆ อากาศดีๆ แต่ก็กลัวคนจะเหงา ผมจึงทำมิวเซียมไว้ด้วย คนแถวๆ นั้น และคนที่ไปพักผ่อนที่เขาใหญ่จะได้ดูงานศิลปะดีๆ โดยเอางานที่ผมเก็บไว้มาแสดง ตอนเริ่มต้นก่อสร้างใช้เงินลงทุนไม่ถึง 100 ล้านบาท แต่พอทำเสร็จมันก็เกินไปมาก เฉพาะแค่ปรับหน้าดินให้เป็นแลนด์สเคปแบบสนามกอล์ฟ ก็เกิน 20 ล้านบาทแล้ว”
-การทำงานให้การเรียนรู้ชีวิต-
“สิ่งหนึ่งที่ผมได้จากการทำงานคือ เมื่อเราตั้งใจทำงาน ความเป็นคนอยากรู้และลงมือทำเองตั้งแต่ต้น จะช่วยให้เราตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ไม่ค่อยพลาด ซึ่งมันได้ส่งผลถึงการใช้ชีวิตด้วย บวกกับเป็นคนชอบสนุกสนาน ชอบอยู่กับเพื่อน และผมก็มักชอบจะช่วยเพื่อนๆ ดังนั้น เวลาที่ผมลงมือทำอะไร ก็จะมีเพื่อนๆ คอยมาช่วยกันเสมอซึ่งก็ยิ่งทำให้เราได้เจอสิ่งที่ดีไปด้วย และมันก็ส่งต่อกันไปเรื่อยๆ ได้” พงษ์ชัยสรุปถึงสิ่งที่ได้จากการทำงาน และเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นในการมีงานศิลปะระดับประเทศไว้ชื่นชมส่วนตัว นอกเหนือจากการแบ่งปันงานศิลปะที่งดงามให้ผู้คนได้ร่วมชื่นชมแล้ว พงษ์ชัยยังสวมหมวกอีกใบกับการทำงานเพื่อสังคมด้วยนั่นคือ การเป็นกรรมการตัดสินงานศิลปะและการเป็นกรรมการในสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ด้านการค้าแนวตะเข็บชายแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “คนอาจเห็นว่าผมมีงานศิลปะเยอะ จึงน่าจะมีความรู้พอที่จะแสดงความคิดเห็น และเป็นกรรมการตัดสินรางวัลได้ ซึ่งไม่ได้เป็นตลอดนะครับ แต่ก็ทำให้ได้คลุกคลีกับวงการศิลปะไทยยิ่งขึ้น เห็นการเติบโตของคนทำงานศิลปะ ตอนนี้เห็นชัดว่าพัฒนาการเริ่มตัน เด็กรุ่นใหม่ไปดูงานเมืองนอก ก๊อปปี้มาหรือดัดแปลงนิดหน่อย หาดาวจริงๆ ไม่เจอ ใครทำอะไรที่แปลกใหม่สักอย่างหนึ่งสักพักก็จะมาเหมือนกันเต็มเลย เช่น งานถักศิลปินทำคนแรก เดี๋ยวจะมีงานถักหลากวัสดุออกตามกันมา แต่ผมก็เข้าใจ เพราะการคิดงานมันยาก ต้องศึกษา ต้องตีโจทย์ให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะไปทับงานคนอื่น”
เรื่อง: กนกวรรณ ไม้สนธิ์ ภาพ: กิตติเดช เจริญพร
คลิกอ่านบทความด้านการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกรกฎาคม 2563 ในรูปแบบ e-magazine
