นานหลายปีทีเดียวที่เข้าใจกันว่านาฬิกา Rolex Submariner ของ Steve McQueen ได้หายไป ต่อมาก็เชื่อว่ามันมอดไหม้ ไปในกองเพลิงแล้ว แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น นาฬิกาของดาราเจ้าของฉายา King of Cool ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งและนี่คือประวัติอันลึกลับของนาฬิกาในตำนานเรือนนี้
เป็นเวลานานกว่าครึ่งศตวรรษทีเดียวที่ Steve McQueen และ Paul Newman เป็นเหมือนกับแฝดคนละฝาในโลกแห่งชายชาตรี ภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ที่ทั้งคู่แสดงนำต่างก็ผลัดกันขึ้นครองตำแหน่งภาพยนตร์ทำเงินในการจัดอันดับ Box Office ตลอดช่วงยุค 60 และ 70
เป็นเวลานานหลายทศวรรษทีเดียวที่ผู้คนเข้าใจกันว่านาฬิกาของ McQueen ได้สูญหายไป จนกระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2016 เมื่อเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งประวัติศาสตร์อย่าง Sand Fire ได้คุกรุ่นอยู่ใน Los Angeles เป็นเวลานานเกือบ 2 สัปดาห์ ไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ครั้งนั้นได้เผาผลาญบ้านเรือนใน Canyon Country วอดไปทั้งหมด 18 หลัง หนึ่งในนั้นก็คือบ้านที่ Janes ซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์อาศัยอยู่กับภรรยามาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1990(Janes เสียชีวิตในเดือนมิถุนายน 2017)
Eisenberg จำได้ว่าเคยอ่านเรื่องราวของสามีภรรยาคู่นี้ซึ่งสูญเสียทรัพย์สมบัติทุกอย่างไปกับกองเพลิง ซึ่งรวมถึงของที่ระลึกล้ำค่ามากที่สุดหลายอย่างของ Janes อันได้แก่ แก้วมีหูของ John Wayne มีดซึ่ง Sylvester Stallone ใช้ในการแสดงภาพยนตร์เรื่อง Rambo: First Blood Part II รวมถึงนาฬิกา Submariner ของ McQueen ด้วย
Gearys ได้ส่งต่อนาฬิกาเรือนนั้นไปที่สำนักงานใหญ่ของ Rolex ใน New York ทันที ซึ่งสามารถทำให้นาฬิกากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยยังเก็บรักษาฝาด้านหลังที่จารึกเรื่องราวอันทรงคุณค่าเอาไว้
“เรื่องราวที่คุณได้กรุณาแบ่งปันกับ Rolex Jeweler อย่างเป็นทางการของเราเป็นบทพิสูจน์แสนมหัศจรรย์ถึงความทนทานของนาฬิกา Rolex พ่อของคุณโดยความทุ่มเทที่แสดงให้เห็นผ่านศิลปะการแสดงของท่าน เพื่อนนักแสดงแทนของท่าน บรรดาดาราที่ท่านสวมบทบาทแทน ซึ่งรวมถึงมิตรและผู้มอบนาฬิกาเรือนนี้ให้เป็นของขวัญอย่าง Mr. Steve McQueen และแน่นอนว่ารวมถึงครอบครัวของท่านด้วย ได้แสดงให้เห็นถึงลักษณะพิเศษที่หมายถึงความเป็นเลิศโดยแท้ เรารู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ท่านเลือกใส่ Rolex Submariner”
ไม่มีดาราคนไหนมีเสน่ห์ดึงดูดเหมือนดังเช่น Steve McQueen ตำนาน King of Cool ผู้ใช้ชีวิตจริงอย่างมีสีสันราวกับอยู่ในภาพยนตร์ (PHOTO CREDIT: motorcyclistonline.com)