กสิกรไทย ร่วมกับ เจพีมอร์แกน เตรียมเปิดตัว Carina ร่นเวลาโอนเงินข้ามประเทศจาก 72 ชม. เหลือ 5 นาที คาดเริ่มทดสอบต้น พ.ค. นี้กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ซึ่งกสิกรไทยมีมูลค่าธุรกรรมการส่งออกไปยังสหรัฐเฉลี่ย 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี อีกทั้งปัจจุบันมีการทดสอบธุรกรรมบน Blockchian กับลูกค้ารายย่อยกว่า 1,000 ราย
นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยกับ Forbes Thailand ว่า สัปดาห์แรกในเดือน พ.ค. 2567 นี้คาดว่าจะเริ่มทดสอบการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศสำหรับภาคธุรกิจในโปรเจคต์นคารินา (Carina) ซึ่งร่วมกับธนาคาร เจพีมอร์แกน เชส (J.P. Morgan Chase Bank) โดยจะให้บริการผ่านแพลตฟอร์มบล็อกเชน ที่จะทำให้ลูกค้าธุรกิจสามารถทำธุรกรรมข้ามประเทศได้รวดเร็วยิ่งขึ้นจากเดิมที่ใช้เวลาราว 72 ชม. เหลือ 5 นาที และสามารถติดตามและตรวจสอบการทำธุรกรรมทำได้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract)
ทั้งนี้ โครงการ Carina จะทำรายการต้นทางจาก Q-money เป็นสกุลเงินบาท (ผ่าน Quarix บล็อกเชนของกสิกรไทย) โอนเข้าบัญชีปลายทางที่เป็นบัญชีเงินฝากบล๊อกเชน (JPM Coin) ที่เปิดกับธนาคารเจพีมอร์แกน เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (USD) ผ่านระบบบล็อกเชนของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งโครงการนี้อยู่ใน Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรียบร้อยแล้ว
พิพิธกล่าวว่า หลังจากเริ่มทดสอบในช่วงแรกจะนำปัญหาที่พบเจอมาแก้ไข โดยจะเริ่มใช้ในฐานลูกค้า Large Corporate ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีมูลค่าธุรกรรมของภาคธุรกิจที่ส่งออกไปยังสหรัฐอยู่ที่ 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
ในด้านค่าธรรมเนียมมองว่า หากโครงการ Carina พัฒนาขึ้นในอนาคตจะสามารถลดต้นทุนต่างๆ ลงได้ จึงทำให้ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำลงจากปัจจุบัน
นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาทางธนาคารยังมีการทดสอบโครงการธุรกรรมชำระเงินบน Blockchain ในกลุ่มรายย่อยราว 1,000 ราย โดยทดลองในร้านอาหารย่านอารีย์ 5-6 ร้าน ซึ่งเป็นลักษณะ QR บน blockchain โครงการนี้มีการทดสอบเพื่อพัฒนาและรองรับโอกาสที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น หากมีธนาคารในประเทศเพื่อนบ้านสามารถทำธุรกรรมการชำระเงินบนแพลตฟอร์มเดียวกันได้
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : “กสิกรไทย” ชูไตรมาส 1 ปี 2567 กำไร 13,486 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.44%YoY
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine