กสิกรไทยร่วม BlackRock ตั้งกองทุน K-ART เน้นหนักการลงทุนในทวีปอเมริกา ขนาดกองทุน 5 พันล้านบาท ชูจุดขายกองทุนป้องกันความเสี่ยง ใช้นวัตกรรม Big Data และ Machine Learning วิเคราะห์แนวโน้มหุ้นแห่งแรกของไทย
ตรีพล ภูมิวสนะ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจบริการไพรเวทแบงก์
ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยได้เปิดตัวกองทุนใหม่คือ
กองทุนเปิด K-ART ขนาดกองทุน 5 พันล้านบาท โดยเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในกองทุนหลักคือ
BSF Americas Diversified Equity Absolute Return Fund ไม่ต่ำกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่ง BSF จะกระจายการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนในทวีปอเมริกา (สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และแถบละตินอเมริกา)
ตรีพลกล่าวว่า กองทุน K-ART มีจุดประสงค์เพื่อเป็นกองทุนช่วยกระจายความเสี่ยงให้พอร์ตการลงทุนรวมของลูกค้า (diversifier) โดยใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ
Market Neutral Strategy หมายถึงกลยุทธ์ที่ลงทุนเพื่อหาโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการซื้อและ/หรือขายหุ้นที่มีราคาแตกต่างจากมูลค่าแท้จริง
และกองทุนนี้ยังใช้เทคโนโลยีช่วยบริหารกองทุนผ่านความร่วมมือกับ
BlackRock บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจากสหรัฐฯ โดย
มีการใช้นวัตกรรม Big Data และ Machine Learning มาเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน ช่วยคัดเลือกหุ้นจากข้อมูลจำนวนมากที่ไหลเวียนในระบบ
“การใช้ผู้จัดการกองทุนเพียงคนเดียวอ่านข้อมูลจำนวนมากในยุคนี้ไม่ทันแล้วแน่นอน BlackRock จึงใช้ Machine Learning มาช่วยในการเก็บและดักจับข้อมูลในระบบเพื่อวิเคราะห์ว่าข้อมูลเหล่านั้นจะทำให้แนวโน้มตลาดมีผลบวกหรือลบอย่างไร”
“ส่วนกองทุน K-ART เป็นกองทุนที่จะเป็น diversifier มาเสริมในพอร์ตโดยรวมของลูกค้า ถ้าตลาดยังเป็นขาขึ้นอย่างเดียว กองทุนแบบนี้ก็คงเกิดยาก แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ตลาดมีความผันผวน กองทุนนี้จะมีความสำคัญ และเราคิดว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เหมาะสม หลังจากตลาดหุ้นปีนี้ไต่ระดับขึ้นไปสูงมากแล้ว” ตรีพลกล่าว
ด้าน
ศิริพร สุวรรณการ ผู้บริหารกลุ่มงานที่ปรึกษาทางการเงินไพรเวทแบงก์ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในโลกยุคเก่า การตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนจะดูจากตัวเลขรายงานในบัญชีเป็นหลักและเน้นความเร็วในการรับทราบข้อมูลก่อนผู้อื่น แต่ในโลกใหม่ซึ่งกระแสข้อมูลข่าวสารมีเป็นจำนวนมาก การได้ข้อมูลเร็วอาจมีประโยชน์น้อยกว่าการมีเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลได้ถูกต้อง ซึ่งเป็นวิถีทางที่ BlackRock เชื่อและมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดดังกล่าวมาตลอด ทำให้กสิกรไทยเลือก BlackRock เป็นพันธมิตรธุรกิจ
สำหรับการเปิดขายกองทุน K-ART จะเปิดขายเฉพาะลูกค้าไพรเวทแบงก์ของกสิกรไทย และลงทุนไม่ต่ำกว่า 5.5 แสนบาท เป็นกองทุนความเสี่ยงระดับ 6 และคาดหวังผลตอบแทนการลงทุนอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 5% ต่อปี
Damien Mooney กรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการธุรกิจลูกค้าบุคคล
BlackRock (Asia Pacific) เปิดเผยว่า BlackRock เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมากว่า 30 ปี ปัจจุบันมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) 5.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 190 ล้านล้านบาท โดยบริษัทมีการพัฒนาเน้นหนักในเรื่องการลงทุน การบริหารจัดการความเสี่ยง และเทคโนโลยี โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาซึ่งบริษัทเน้นการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม Big Data, Machine Learning และ Artificial Intelligence (AI) เป็นอย่างมาก เนื่องจากเห็นว่าโลกได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งข้อมูลข่าวสารเรียบร้อยแล้ว
ด้านภาพรวมธุรกิจไพรเวทแบงก์ของกสิกรไทย
จิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจบริการไพรเวทแบงก์ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ปัจจุบันกสิกรไทยมีลูกค้า 1 หมื่นราย และมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการรวม 7.5 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็น 60% ในการลงทุนประเภทต่างๆ และ 40% อยู่ในรูปของเงินฝาก
เป้าหมายของธนาคารต้องการผลักดันให้สินทรัพย์ภายใต้การจัดการเติบโตได้ 15% ต่อปี และผลักดันให้มีการนำสินทรัพย์ลงทุนเพิ่มสัดส่วนเป็น 70% ภายในสิ้นปี 2561 ซึ่งคาดว่ามีความเป็นไปได้จากปัจจัยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ลูกค้า HNWIs (High Net Worth Individual) ของไทยซึ่งยังเก็บสินทรัพย์ในรูปของอสังหาริมทรัพย์มากถึง 30-40% ของพอร์ต เปลี่ยนสินทรัพย์ที่เป็นอสังหาฯ เหล่านี้เข้าสู่การลงทุนกับธนาคารมากขึ้น