ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) และ บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด (NDID) เปิดให้บริการตรวจสอบข้อมูลเครดิต และ เครดิตสกอริ่ง ผ่านแอปพลิเคชัน KKP e-Banking แบบ “เรียลไทม์ (Real Time)” ครั้งแรกในประเทศไทย อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าของธนาคารเกียรตินาคินภัทร ไม่ต้องรอรับรายงานภายใน 7 วันทำการ
อนุชิต อนุชิตานุกูล ที่ปรึกษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในระยะแรก บริการนี้ใช้ประโยชน์จากโครงสร้าง NDID เพื่อช่วยให้มีการยืนยันตัวตนของผู้ขอข้อมูลเครดิตซึ่งเป็นข้อมูลส่วนตัวได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วที่สุด คือแบบเรียลไทม์ ดังนั้น กระบวนการขอสินเชื่อที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลเหล่านี้ประกอบ ก็จะใช้เวลาและเอกสารน้อยลง ยิ่งกว่านั้น ในระยะต่อไป การเข้าถึงข้อมูลเครดิตที่ง่าย ปลอดภัย และเรียลไทม์ ยังเอื้อต่อการที่ธนาคารจะใช้ข้อมูลเหล่านี้พิจารณาอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมตามระดับเครดิต เช่น ผู้กู้ที่เครดิตดีก็จะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้กับผู้บริโภค และในขณะเดียวกันก็เสริมสร้างให้ประชาชนทุกคนมีวินัยทางการเงินที่ดี เพื่อรักษาระดับเครดิตของตนด้วย ธนาคารเกียรตินาคินภัทรเล็งเห็นว่าการเข้าถึงข้อมูลเครดิตอย่างรวดเร็วและปลอดภัยจะสร้างประสิทธิภาพและลดต้นทุนการเสียโอกาสให้กับทั้งระบบเศรษฐกิจ จึงได้ร่วมมือกับเครดิตบูโร และ NDID เพื่อพัฒนาระบบจนสำเร็จลุล่วงในวันนี้ ซึ่งจะมีขึ้นที่ธนาคารเกียรตินาคินภัทรเป็นที่แรกของประเทศ” ด้าน สุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) กล่าวว่า "ความร่วมมือของทั้งสามหน่วยงานในระบบสถาบันการเงินไทยวันนี้ จะกระตุ้นให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่สำคัญของตัวลูกค้าในโลกดิจิทัลอย่างน้อย 3 เรื่องคือ (1) การเตรียมความพร้อมก่อนขอสินเชื่อต่างๆ จากสถาบันการเงิน คือรู้จักตัวเราเองก่อนไปคุยกันในรายละเอียดกับคนให้กู้ รู้ตัวเองว่าประวัติการก่อหนี้ และการชำระหนี้ในอดีตตนเองเป็นอย่างไร มีคะแนนเครดิตหรือเครดิตสกอริ่ง (Credit Scoring) ระดับไหน เป็นคนมีความเสี่ยงที่จะชำระหนี้ไม่ได้ระดับไหน (2) รู้จักการพิสูจน์และการยืนยันตัวตนผ่านระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตน (Know your customer หรือ KYC) ในโลกยุคดิจิทัล ผ่าน Mobile Application และ (3) รู้จักการสมัครหรือการขอสินเชื่อผ่านเครื่องมือสื่อสาร เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยไม่ต้องใช้เอกสารที่เป็นกระดาษตั้งแต่ยื่นขอ ได้รับอนุมัติ เงินเข้าบัญชีเพื่อการเบิกถอนไปใช้ตามวัตถุประสงค์"
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine