กองทรัสต์ AIMIRT ชูผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่ง อัตราปันผลทุกไตรมาสต่อเนื่อง ประกาศเพิ่มทุนครั้งที่ 2 ในทำเลยุทธศาสตร์ พร้อมขึ้นแท่นกองทรัสต์กลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำ ชี้เทรนด์ธุรกิจบวกจากดีมานด์เช่าพื้นที่คลังสินค้า-โรงงาน คลังห้องเย็น ถังเก็บสารเคมี และแนวโน้มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังวัคซีนแจกจ่ายครอบคลุม
อมร จุฬาลักษณานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ เอไอเอ็ม อินดัสเทรียล โกรท หรือ กองทรัสต์ AIMIRT เปิดเผยว่า บริษัทสามารถสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2561 จากจำนวนมูลค่าทรัพย์สินเริ่มต้นรวม 2.14 พันล้านบาทเป็น 7.5 พันล้านบาทหรือเติบโตกว่า 250 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่บริษัทยังคงดำเนินนโยบายขยายการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพและมีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกองทรัสต์ AIMIRT เดินหน้าเพิ่มทุนครั้งที่ 2 พร้อมขยายการลงทุนในทรัพย์สินใหม่ โดยลงทุนในกรรมสิทธิ์และสิทธิการเช่าอาคารคลังสินค้ารวม 3 โครงการ มูลค่ารวมไม่เกิน 2.35 พันล้านบาท
ด้วยความมั่นใจในจุดเด่นการเป็นกองทรัสต์ที่บริหารโดยบริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทรัสต์อิสระที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าของทรัพย์สินจึงไม่มีข้อจำกัดในเรื่องการลงทุนเพิ่มเติม และช่วยเพิ่มโอกาสการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์ พร้อมยกระดับเป็นกองทรัสต์ในกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศไทย
ส่วน
จรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ทรัพย์สินใหม่ที่กองทรัสต์ลงทุน ประกอบด้วย กรรมสิทธิ์อาคารคลังสินค้าโครงการทิพย์ 5 และโครงการทิพย์ 8 สมุทรปราการ จากกลุ่มทิพย์โฮลดิ้ง กรรมสิทธิ์อาคารคลังสินค้าโครงการเอ็มเอส แวร์เฮ้าส์ สมุทรปราการ จากบริษัท ทู ไทเกอร์ พร็อพ จำกัด และสิทธิการเช่าระยะเวลา 30 ปี บนอาคารคลังสินค้าโครงการไทยแทฟฟิต้า ระยอง จากบริษัท ไทยแทฟฟิต้า จำกัด ซึ่งทุกโครงการมีอัตราการเช่าพื้นที่ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 เต็ม 100 และมีค่าเช่าอยู่ในระดับที่ดี รวมถึงเจ้าของโครงการทุกรายล้วนมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารอาคารคลังสินค้ามายาวนาน จึงมั่นใจในศักยภาพของกองทุนที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์
ด้านภาพรวมอัตราการเช่าพื้นที่ทรัพย์สินที่กองทรัสต์ AIMIRT ลงทุน ทั้งคลังสินค้า-โรงงาน คลังห้องเย็น และถังเก็บสารเคมีเหลว ยังคงมีอัตราการเช่าพื้นที่เต็ม 100% ทุกโครงการนับตั้งแต่กองทรัสต์จัดตั้ง แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน แต่ทรัพย์สินในพอร์ตโฟลิโอของกองทรัสต์ AIMIRT ยังคงมีเสถียรภาพสูง เนื่องจากคุณภาพของทรัพย์สินที่ลงทุนและความหลากหลายของประเภททรัพย์สิน
รวมถึงได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจโลจิสติกส์ และธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารในประเทศ ซึ่งล้วนเป็นผู้เช่าหลักของกองทรัสต์ AIMIRT ส่งผลให้มีความต้องการเช่าพื้นที่จัดเก็บสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการกระจายสินค้าให้กับผู้บริโภคในประเทศ
ด้าน
ธนาเดช โอภาสยานนท์ กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด
กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทรัสต์ AIMIRT สามารถสร้างรายได้รวมในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 จำนวน 156 ล้านบาทและกำไรจากการลงทุนสุทธิ 105 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 9 และ ร้อยละ 8 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ
และมีอัตราจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2564 อยู่ที่ 0.22 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็น 0.88 บาทต่อหน่วยต่อปี ซึ่งถือเป็นการจ่ายปันผลรายไตรมาสที่สูงสุดและเพิ่มขึ้นทุกไตรมาสอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงคุณภาพทรัพย์สินที่มีอัตราการเช่าพื้นที่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ และความสามารถในการสร้างรายได้ที่ดีอย่างมีเสถียรภาพ
นอกจากนั้น การลงทุนเพิ่มเติมยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้กองทรัสต์ AIMIRT ด้วยทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 12 โครงการ มูลค่าทรัพย์สินรวมแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท โดยมีพื้นที่ให้เช่าอาคารคลังห้องเย็น อาคารคลังสินค้า และอาคารโรงงานรวม เกือบ 270,000 ตารางเมตร และถังเก็บสารเคมีเหลวอีก 85,580 กิโลลิตร และจะสามารถรับรู้รายได้ค่าเช่าและค่าบริการจากทั้ง 3 โครงการใหม่ได้ทันที ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานของกองทรัสต์ AIMIRT และต่อผลตอบแทนของผู้ถือหน่วยทรัสต์ในรูปแบบของเงินปันผล
อ่านเพิ่มเติม:
คมสันต์ ลี ประกาศความสำเร็จ “Flash Group” สตาร์ทอัพ 1 พันล้านเหรียญฯ