อาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม ทายาทธุรกิจร้านค้าวัสดุก่อสร้างชลบุรีที่สามารถต่อยอดโอกาสทางธุรกิจสู่โรงงานผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก พร้อมปรับกลยุทธ์รุกขยายน่านน้ำการจัดจำหน่ายทั่วประเทศควบคู่พัฒนานวัตกรรมรองรับงานโครงสร้างพื้นฐานและงานแลนด์สเคปพลิกขาดทุนหนุนรายได้สิ้นปี 2.5 พันล้านบาท
เส้นทางชีวิตที่พลิกผันของลูกจ้างในร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่ต้องกลายเป็นเถ้าแก่แบบตกกระไดพลอยโจน พร้อมรับภาระหนี้สินทั้งหมด เป็นจุดเริ่มต้นของร้านกันยงค้าวัตถุ ด้วยความมุมานะทำงานพิสูจน์ความตั้งใจชดใช้หนี้และสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องในจังหวะที่ประเทศกำลังพัฒนาอุตสาหกรรมในโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (Eastern Seaboard Development Program) กลายเป็นโอกาสสำคัญในการขยายกิจการสร้างโรงงานผลิตท่อตอบสนองความต้องการของนิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรีและระยอง “ธุรกิจของเราเริ่มตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ ท่านต้องออกจากบ้านไปทำงานรับจ้างหลังจากอาก๋งเสียชีวิตตั้งแต่ป.4 ท่านขยันและหัวดีจึงได้รับความไว้วางใจเหมือนเป็นผู้จัดการร้าน สมัยนั้น เมื่อเถ้าแก่หนีไป ท่านต้องรับผิดชอบหนี้ที่เกิดขึ้นแทน คุณพ่อมักจะขี่เวสป้าไปทำการตลาดแถวระยอง ค่ำไหนนอนนั่น ร้านเราเติบโตค่อนข้างเร็ว จนถึงยุค Eastern Seaboard สินค้าขาดตลาด กว่าจะได้ของมาขาย เราจึงตั้งโรงงานผลิตท่อแห่งแรกขึ้นที่ภาคตะวันออก” อาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP กล่าวถึงความเพียรพยายามของประทีปผู้เป็นบิดาในช่วงเริ่มต้นก่อตั้งธุรกิจราวปี 2526 ในฐานะบุตรชายคนโตของทีปกรสุขเกษม ซึ่งมุ่งมั่นสานต่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของครอบครัว อาทิตย์เลือกศึกษา ปริญญาตรีสาขาบริหารการจัดการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทสาขาการเงิน มหาวิทยาลัย Clark สหรัฐอเมริกา รวมถึงศึกษาภาษาจีนเพิ่มเติมที่ประเทศจีนราว 1 ปี ก่อนจะกลับมาช่วยงานครอบครัว ช่วงเวลานั้นเอ็มดีใหม่ไฟแรงได้แสดงฝีมือปรับเปลี่ยนโมเดลร้านค้าวัสดุก่อสร้างของครอบครัวให้เป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ภายใต้แนวคิดศูนย์รวมสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านอย่างครบวงจรที่สามารถเลือกซื้อสินค้าเกี่ยวกับบ้านทุกอย่างได้ในที่เดียว (One Stop Shopping) “ผมเข้ามา CCP ช่วงหลังประมาณปี 2556 ก่อนหน้านั้นน้องชายดูแล แต่ออกไปหุ้นกับเพื่อนทำพรีคาสท์สำหรับงานบ้าน ส่วนน้องชาย อีกคนดูแลสมาร์ทคอนกรีต ซึ่งนอกจาก CCP แล้วยังมีอีก 4 บริษัทย่อยที่ต้องดู เช่น บริษัทให้เช่ารถขนส่ง ธุรกิจให้เช่าที่ดินอาคารสำนักงานและโรงงาน” อาทิตย์ในวัย 44 ปี กล่าวถึงการแบ่งบทบาทหน้าที่กันอย่างลงตัวของสามพี่น้อง โดยชาคริต ซึ่งเป็นน้องชายคนสุดท้อง นั่งเก้าอี้เอ็มดี CCP ในช่วงแรก ก่อนจะเลือกเดินทางตามความฝันผันตัวเป็นเถ้าแก่เริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวในบริษัท ซีแพนแนล จำกัด ขณะที่รังสี น้องชายคนกลาง ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายคอนกรีตมวลเบา ระบบอบไอน้ำ ภายใต้ความดันสูง ด้วยกำลังการผลิตอยู่ที่ 3 ล้านตารางเมตร/ปี “หลังเข้ามาบริหาร เราแบ่งสินค้าออกเป็น 4 หมวด ได้แก่ สินค้าเก่าตลาดเก่า สินค้าเก่าตลาดใหม่ สินค้าใหม่ตลาดเก่า และสินค้าใหม่ตลาดใหม่ เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามเศรษฐกิจและความต้องการ รวมถึงกระจายความเสี่ยงพอร์ตรายได้ พร้อมปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้เป็นไปตามตลาด ซึ่งสินค้าหลักของ CCP แบ่งเป็นพรีคาสท์และ ready-mixed” ในปัจจุบันบริษัทเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตครบวงจรรายใหญ่ของประเทศและรายใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกโดยผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็นคอนกรีตผสมเสร็จ (ready-mixed concrete) และคอนกรีตสำเร็จรูป (precast concrete) สำหรับงานโครงสร้าง รวมถึงงานตกแต่ง ทั้งยังรับผลิตคอนกรีตที่มีรูปแบบและคุณสมบัติเฉพาะตามคำสั่งลูกค้า (made to order) “คุณพ่อเป็นคนแรกที่สร้างโรงงาน ready-mixed ช่วงนั้นลองผิดลองถูกจากเจ้าของเครื่องจักรที่สอนตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน การผสมปูนถึงการผลิตออกมาเป็นท่อ ซึ่งถือเป็นโอกาสและความโชคดี เพราะคู่แข่งยังน้อย กำไรค่อนข้างดี โดยเราพยายามพัฒนาจนมีประสบการณ์และขยายผลิตภัณฑ์ขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นทุกวันนี้”พลิกกลยุทธ์เสริมทัพแกร่ง
แม้ผลประกอบการของบริษัทจะสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งระดับ 2.48 พันล้านบาทในปี 2561 แต่ยังประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างและสภาวะตลาดภาคเอกชนที่ซบเซา โดยยังคงกดดันยอดขายและการทำกำไรของบริษัท รวมถึงโครงสร้างธุรกิจที่บริษัทย่อยยังไม่ทำกำไรหรือเงินปันผลซึ่งส่งผลกระทบต่องบการเงินของบริษัท “ทั้งหมดในเครือเราเล็งเป้าหมายรายได้รวมที่ 2.5 พันล้าน ซึ่งกำไรสุทธิน่าจะประมาณ 30-40 ล้านบาท โดยเฉพาะจากพรีคาสท์ที่รายได้เติบโตค่อนข้างสูงประมาณ 20% ในปีนี้ซึ่งปัจจุบันพรีคาสท์ของเราเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ส่วน ready-mixed เป็นท็อป 5ในภาคตะวันออก เรายังคงความแข็งแกร่งเหมือนเดิม” อาทิตย์ย้ำถึงความมั่นใจในการเติบโตของบริษัทด้วยรายได้รวม 2.5 พันล้านบาทในสิ้นปีนี้จากงานภาครัฐคิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 80% และภาคเอกชน 20% โดยยังมีมูลค่างานในมือ (backlog) ประมาณ 2 พันล้านบาท สำหรับหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้อาทิต ย์สามารถพลิกขาดทุนได้สำเร็จจากการปรับโครงสร้างธุรกิจกลุ่มคอนกรีตผสมเสร็จ ด้วยการมุ่งเน้นเป็นผู้จัดจำหน่ายผ่านช่องทางต่างๆ แทนการเป็นผู้ผลิต โดยอาศัยข้อได้เปรียบด้านชื่อเสียงของบริษัทที่ได้รับการยอมรับเรื่องคุณภาพสินค้าและฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง รวมถึงการให้บริการด้านโลจิสติกส์และค่าขนส่งที่ต่ำกว่าจากบริษัทรถขนส่งวัสดุก่อสร้างภายในเครือที่พร้อมส่งสินค้าทั่วประเทศ ขณะเดียวกันอาทิตย์ยังมุ่งเพิ่มสัดส่วนรายได้คอนกรีตสำเร็จรูปมากขึ้นจาก 30% เป็น 70% จากความต้องการผลิตภัณฑ์คอนกรีตในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มการเติบโตดี ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่จะเดินหน้าลงทุนทยอยดำเนินงานก่อสร้างต่อเนื่องในงานโครงสร้างพื้นฐานโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) “คีย์การปรับโครงสร้างธุรกิจ คือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์รองรับงานโครงสร้างแลนด์สเคปและความสามารถในการทำกำไร โดยคาแรกเตอร์ของเราต้องชัด และสื่อให้ถึงลูกค้า รวมถึงการบริหารงานให้ทุกอย่างพร้อมรองรับโอกาสสร้างการเติบโตได้ไม่ว่าจะเป็น พรีคาสท์นวัตกรรมใหม่ การทำทุกอย่างให้ลูกค้ารู้ว่าเรามี และระบบโลจิสติกส์ส่งถึงมือลูกค้า” นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องรองรับงานโครงสร้างพื้นฐานและเอกชนได้อย่างหลากหลายโดยเฉพาะท่อคอนกรีตขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัทเป็นผู้นำและมีความเชี่ยวชาญในการผลิตท่อขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ และเน้นการขยายฐานลูกค้า กลุ่มสถาปนิก ผู้รับเหมารายย่อยโครงการขนาดกลาง-เล็ก ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีความต้องการใช้งานคอนกรีตสำเร็จรูป เพื่องานก่อสร้างแลนด์สเคป อาทิตย์กล่าวปิดท้ายด้วยว่า “ด้านการบริหารคนที่สามารถใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยคือคำว่า vision อะไรที่ถูกต้องเหมาะสม เราต้องให้อำนาจอยู่กับคนที่เหมาะสมและใช้ได้อย่างเหมาะสมซึ่ง vision ไม่ได้มาจากประชาธิปไตย เพราะคุณจะฟังและทำอะไรในสิ่งที่คนอื่นก็เห็นเหมือนๆ กัน เราอาจจะต้องคิดต่างหรือโดดไปทำในสิ่งที่คนไม่โหวตเหมือน Apple ถ้าทำเหมือนคนอื่นก็ไม่มีทางไปไหน” ภาพ: กิตติเดช เจริญพรคลิกอ่านเรื่องราวฉบับเต็มของ “อาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม “CCP” คอนกรีตภูธรล้อมเมือง” ได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนสิงหาคม 2562 ในรูปแบบ e-Magazine