กลางเดือนธันวาคม 2563 Kerry Express ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุในไทยภายใต้ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX มี Alex Ng ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นำทัพ KEX IPO Roadshow แสดงวิสัยทัศน์
ด้วยผลประกอบการตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะของปี 2562 ที่ KEX สามารถทำกำไรสุทธิได้กว่าพันล้านบาท ทำให้นักลงทุนทั้งสถาบันการเงินและรายย่อยสนใจอย่างมาก เนื่องด้วยโลกอี-คอมเมิร์ซของไทยขับเคลื่อนด้วยความเร็วแบบทวีคูณอีกหลายเท่าตัวจากแรงหนุนโดยปริยายของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หากย้อนดู 6 ปีที่ผ่านมา Kerry Express สามารถส่งพัสดุจาก 10,000 ชิ้นต่อวัน เพิ่มเป็น 1.1 ล้านชิ้นต่อวัน เป็นรองจากไปรษณีย์ไทยเพียงเจ้าเดียว และ Kerry Express ได้กลายเป็นคู่แข่งสำคัญจากการชูกลยุทธ์เจาะตลาดอี-คอมเมิร์ซที่แสดงรูปแบบธุรกิจชัดผ่าน KEX IPO Roadshow กระทั่งมีการจองหุ้นมากถึง 23 เท่าจากจำนวนหุ้นทั้งหมดและทำให้ KEX กลายเป็นหุ้นของผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนภาคเอกชนในประเทศไทยรายแรกที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ สามารถระดมทุนได้ถึง 8.4 พันล้านบาท จากการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป(IPO) จำนวน 300 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 28 บาท โดยมีมูลค่าบริษัทก่อนเข้าซื้อขายอยู่ที่ 48,720 ล้านบาท (ณ 24 ธันวาคม 2563) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ณ 4 มกราคม 2564) 85,695 ล้านบาท ขณะที่ KEX กำลังดำเนินการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทีมงาน Forbes Thailand ได้ร่วมโต๊ะจิบกาแฟกับ Alex Ng ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KEX บริษัทขนส่งด่วนที่นำเสนอจุดเด่นเวลาดีที่สุด พร้อมฟังก์ชันบริการด้วยนวัตกรรม “เวลาที่ดีที่สุดในการทำงานของ Kerry Express คือ ช่วงเวลาสิ้นสุดของวัน ให้บริการขนส่งพัสดุถึงมือลูกค้าจนครบ ให้ผู้รับจบการรอและมีความสุขที่ได้รับของทันใจ” Alex กล่าวขณะวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะภายในห้องทำงานขนาดไม่ใหญ่นัก “ที่ออฟฟิศของเรามีกาแฟสดทุกชั้นเพราะทีมงานควรได้จิบกาแฟดีๆ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่ารสชาติของกาแฟนั้นโดยปกติแล้วจะขม ธุรกิจเราก็มีรสชาติขมเหมือนกาแฟหากเกิดปัญหาขึ้น ผมจะนึกถึงความขมของกาแฟ แต่ในทันทีนั้นผมกับทีมงานก็พร้อมที่จะแก้ปัญหา” ตลอดเวลาที่ Kerry Express ให้บริการขนส่งพัสดุได้พัฒนาฟังก์ชันการบริการออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น แอปพลิเคชัน Kerry Express ให้ดาวน์โหลดฟรีและใช้งานง่ายสำหรับผู้ที่ต้องการใช้บริการ กำหนดจุดรับส่งสินค้า คำนวณค่าจัดส่งได้เอง หลังจากที่ออกฟังก์ชัน Same-Day Delivery ตอบโจทย์คนค้าขายและลูกค้าทั่วไป โดยส่งของในกรุงเทพฯ ได้รับภายในวันเดียว บริการรับของที่จะจัดส่งถึงบ้าน หรือถ้าหากไม่มีผู้รับพัสดุ Kerry Express จะนัดเวลาเข้าไปจัดส่งให้ใหม่ โดยที่ผู้รับไม่ต้องเสียเวลาไปตามหาพัสดุที่ร้านเอง แถมยังสร้างชื่อเรื่องพัสดุที่ได้ไม่ยับย่น แตกหัก มีบริการชำระเงินหลากหลายช่องทาง ทั้งเงินสด บัตรเครดิต บัตรเดบิต และ QR code นอกจากนี้ ยังมีบริการประกันภัยพัสดุ และบริการเก็บเงินปลายทาง จึงทำให้มีลูกค้าหันมาลองของใหม่กันมากขึ้น 20 ปีของการดำเนินธุรกิจ Kerry Express วันนี้เป็นอีกก้าวสำคัญ การเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสะท้อนว่าผู้บริหารหนุ่มสามารถนำพาธุรกิจไปอีกระดับท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ดูท่าจะอยู่กับคนไทยไปอีกนาน ช่วงแห่งการเติบโต ด้วยผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องกว่า 100% มาหลายปี ทำให้ Kerry Express เป็นหุ้นไอพีโอที่ได้การตอบรับสูงมาก การซื้อขายในวันเปิดราคาพุ่งขึ้นไปกว่า 3 เท่า ก่อนปรับลงมาที่ราคาเฉลี่ย 48.30 บาท (อัพเดต 4 มกราคม 2564) ซึ่งกว่าที่ Kerry Express จะมาถึงวันนี้ได้ ผู้นำอย่าง Alex ต้องเจอโจทย์แรกที่หนักหน่วงเมื่อเขามาทำงานที่ Kerry Express ประเทศไทย นั่นคือการทำอย่างไรก็ได้ให้บริษัทไม่ขาดทุน ระบบการจัดส่งไม่ล่าช้า และหีบห่อพัสดุไม่ชำรุดเมื่อถึงมือผู้รับ หลายปีมานี้ Alex บริหารงานด้วยการสร้างเครือข่ายพนักงานส่งพัสดุ ด้วยจำนวนพนักงาน 1 คนสามารถดูแลพื้นที่จัดส่งแคบลง มีการส่งต่อของเป็นทอดๆ ด้วยศูนย์บริการถึง 20,000 จุด ทำให้ของถูกส่งได้เร็ว อีกทั้งมีแนวทางการรับเรื่องร้องเรียนคือ call center ให้ “คน” รับทุกเรื่องของลูกค้า และถ้าลูกค้าโพสต์ลงโซเชียลมีเดียก็จะมีทีมงานติดต่อกลับภายใน 15 นาทีเพื่อพูดคุย เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่เหมาะสม “Kerry ไม่มีแผนกบุคคล เพราะเชื่อว่าคนไม่ใช่เครื่องจักร แต่ทุกคนเป็นคนทั่วไปที่มีความแตกต่าง เหมือนกาแฟที่ผมเสิร์ฟให้คุณนี้ก็มีความต่างในตัวของมันเอง เมื่อเราให้ความสำคัญในเรื่องการปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างไร จึงเป็นที่่มาของคนในองค์กรที่ต้องเรียนรู้ความต่างกันของคน และเสิร์ฟให้เหมาะสม” เขาบอกว่า อยากให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีที่สุด เคอรี่จะขยายจุดบริการไปทั่วประเทศและเคอรี่ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้น Alex และทีมงานจะหาทุกทางที่เป็นไปได้ เพราะการทำงานขนส่งไม่ได้มีแต่เส้นตรง หรือมี 2 เส้นทางให้ใช้ แต่มันจะมีอีกหลายๆ ทาง Alex บอกว่า การเติบโตของเคอรี่จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ “สิ่งสำคัญเราจะโฟกัสที่เป้าหมายการทำงานทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว แต่ผมเป็นคนที่ไม่เชื่อในเรื่องตัวเลข เราเชื่อในเรื่องการเพิ่มคุณค่าในการทำงานมากกว่าซึ่งถ้าอยากรู้ว่า Kerry เป็นอย่างไร ก็อยากให้ลองเดินไปทั่วออฟฟิศของเรา และพูดคุยกับพนักงานของ Kerry ได้เลย จะพบความจริงว่า เราคือคนธรรมดาที่อยากเป็นคนที่ดีกว่าเมื่อวาน จึงทำวันนี้ให้ดีที่สุด และทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เราจะไม่รู้สึกว่า พอแล้ว เราต้องพัฒนาขึ้นไปให้มาก เพราะเราไม่ใช่ Steve Jobs เราไม่ได้อัจฉริยะขนาดเขา เราไม่ใช่ Elon Musk เราก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง” นอกจาก Alex จะสร้างการเติบโตให้กับเคอรี่อย่างมากแล้ว ตัวเขาเองก็เติบโตขึ้นไม่น้อย หากสำรวจประวัติอย่างถี่ถ้วนจะพบว่าผู้บริหารหนุ่มคนนี้ทำางานอย่างหนักนับตั้งแต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่าง เมื่อครั้งเข้าทำงานแรกในชีวิตกับกลุ่มบริษัทเคอรี่กระทั่งก้าวสู่ระดับผู้บริหารในวัย 40 ต้นๆ “ผมลงมือทำ และพูดน้อยที่สุด” Alex บอกวิธีทำงานของเขาอย่างสั้นๆ ต่อการทำงานที่ยาวนานถึง 12 ปีกับเคอรี่ไทย หลังจากทำงานที่กลุ่มบริษัทเคอรี่ฮ่องกงราวปีครึ่ง ก่อนไปต่อที่ Shanghai อีก 6 ปี Icon of Style เมื่อถามถึงหลักการบริหารงานของชายหนุ่มว่า ทำอย่างไรจึงสร้างทีมงานให้มีศักยภาพในการพัฒนาบริการ ซึ่งส่งผลให้องค์กรขึ้นสู่อันดับต้นของการขนส่งพัสดุในไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม “Stupid Boss” เขาบอกถึงหลักการทำงานของเขา “ผมเป็น CEO ที่ไม่จำเป็นต้องฉลาดทุกเรื่องทีมงานเก่งกว่าผมก็มี และผมก็เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาบอกกับผมถึงสิ่งที่พวกเขาอยากทำ ซึ่งผมต้องเงียบไม่อย่างนั้นเขาจะไม่กล้าพูด” การทำงานของเขาคือ กระตุ้นให้ทุกคนพูดเพราะถ้าเขาพูดคนเดียวก็ต้องทำเองทุกอย่าง “ตอนมาทำงานใหม่ๆ จะค่อนข้างยากนิดหนึ่ง เพราะทุกคนมัวสงสัยกันว่าจริงหรอพวกเขาจะถาม จะเถียง หรือแสดงความเห็นว่าเขาจะทำสิ่งที่อยากทำได้จริงๆ หรอ ผมต้องแสดงออกให้ชัดเจนจนพวกเขามั่นใจว่าทำได้ และไม่ขวางไอเดียของพวกเขา” Alex เคารพต่อความเห็นของทุกคน และชักชวนให้พวกเขาเคารพความคิดเห็นของคนที่เห็นต่าง บางครั้งที่ความคิดของเขาต่างจากทีมงานก็ต้องถามคนที่ 3 เพื่อตัดสิน จากเป้าหมายสร้างสรรค์ให้ทีมงานเป็นหนึ่งเดียวกัน ส่งผลให้ทุกคนในทีมมีความภูมิใจ กล้าพูดเต็มปากว่าตนเอง “จะผิดจะถูกอย่างไรก็มาลองดูกันสักตั้ง เพราะถ้าเป็นการสั่งจากผม มันก็แสดงว่าโปรเจ็กต์นั้นเป็นของผม เขาก็ไปทำกันตามสั่งให้เสร็จๆ ไป ถ้างานมันล้มเหลว เขาก็จะบอกว่าก็งานของผม ผมเป็นคนสั่ง ” Alex บอกว่าแนวทางการทำงานแบบ Stupid Boss นี้ คณะผู้บริหารใช้กันทุกคน ด้วยการแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา และมีความซื่อสัตย์ต่อกัน เรื่อง: กนกวรรณ ไม้สนธิ์ ภาพ: APIคลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ในรูปแบบ e-magazine