Amari โรงแรม 5 ดาวสัญชาติไทย เปิดบริการในแหล่งท่องเที่ยวหลักทั้งภูเก็ต กระบี่ สมุย หัวหิน กรุงเทพฯ พัทยา และอีกหลายประเทศ ผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ แต่ที่พัทยา “สุพจน์ ประกิจจานุรักษ์” เป็นจีเอ็มคนไทยเพียงหนึ่งเดียวของแบรนด์
ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีที่สุพจน์ก้าวย่างในธุรกิจโรงแรม ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน เป็นจีเอ็มให้กับ Amari หลายแห่ง นำทัพโรงแรมผ่านวิกฤตเศรษฐกิจหลายรอบ ล่าสุดวิกฤตโควิด-19 เป็นบททดสอบครั้งใหญ่ เมื่อธุรกิจโรงแรมต้องหยุดบริการไปเกือบ 2 ปี การรักษาสถานะให้โรงแรมสามารถยืนหยัดและพร้อมกลับมาเปิดตัวได้หลังโควิดเป็นงานที่ค่อนข้างท้าทาย
ผ่านหลายวิกฤต
สุพจน์ยอมรับว่าในช่วงโควิดที่ผ่านมาโรงแรม Amari ซึ่งอยู่ภายใต้ ONYX Hospitality Group เชนโรงแรมระดับสากลของคนไทย (อิตัลไทย) ได้รับผลกระทบพอสมควร แต่ก็ผ่านมาได้จนถึงวันนี้ที่ธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้ง
เป็นจังหวะพอดีกับการปรับโฉมและบริการของ Amari พัทยา ให้สวยงามทันสมัย เพิ่มเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น ด้วยการปรับภูมิทัศน์โรงแรมซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเลียบหาดพัทยาเหนือ เปิดพื้นที่ด้านหน้าโรงแรมเป็นสวนสวยพร้อมลานกิจกรรมทำให้แขกผู้มาเยือนสัมผัสธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
“พัทยาเหนือเป็นหาดที่สวยงาม สงบ และเป็นส่วนตัว แต่ก็เป็นย่านช็อปปิ้งและธุรกิจสำคัญของพัทยา หากเดินย้อนขึ้นไปเพียงเล็กน้อยจะพบห้างสรรพสินค้าใหญ่และพื้นที่บริการมากมาย” สุพจน์ อัปเดตภาพปัจจุบันของพัทยาเหนือกับทีมงาน Forbes Thailand เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา
หลังงานเปิดตัว Prego พัทยา ในค่ำคืนที่สวยงามของหาดพัทยาเหนือ ด้วยบรรยากาศแสงสุดท้ายอันอบอุ่นขณะดวงตะวันกำลังคล้อยลงสู่ผิวน้ำ เป็นภาพธรรมชาติที่สวยงามของหาดพัทยาต่างจากภาพจำเก่าๆ ที่คุ้นเคย
การเปิดตัวของ Prego พัทยา เป็นส่วนหนึ่งของการพลิกฟื้นธุรกิจโรงแรม สอดคล้องกับจังหวะฟื้นตัวของการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด โดยนับตั้งแต่ปลายปี 2565 เป็นต้นมานักท่องเที่ยวมาเยือนพัทยามากขึ้น เช่นเดียวกับอีกหลายทำเล
แต่ภาพลักษณ์ของพัทยาในสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลกและแม้แต่คนไทยส่วนใหญ่ยังยึดติดกับกิจกรรมไนต์ไลฟ์ แหล่งบันเทิงยามค่ำคืน โดยเฉพาะบาร์เบียร์และสถานบันเทิงมากกว่าจะคิดถึงธรรมชาติที่สวยงามของชายหาดที่ยาวตลอดแนว พร้อมถนนเลียบหาดยาวต่อเนื่องจากพัทยาเหนือจรดพัทยาใต้ระยะทางกว่า 3 กม. และยังข้ามเขาพระตำหนักไปถึงหาดจอมเทียนต่อเนื่องถึงหาดตะวันรอน
ธรรมชาติที่สวยงามของหาดพัทยาถูกมองข้าม เพราะกิจกรรมไนต์ไลฟ์ของพัทยาเลื่องชื่อระดับสากล แต่วันนี้ Amari พัทยา กำลังนำเสนอความสวยงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมเป็นจุดขาย พร้อมปรับโฉมโรงแรมให้มีความทันสมัย รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวมากขึ้น
บนอาณาจักรที่ดิน 32 ไร่ ติดถนนเลียบหาดพัทยาเหนือ ได้พัฒนาโรงแรมหลายแบรนด์ในกลุ่ม ONYX ซึ่งแน่นอน Amari เป็นธงนำ และมีแบรนด์โรงแรมสไตล์โมเดิร์นอย่าง OZO เปิดบริการในบริเวณเดียวกัน จึงรองรับนักท่องเที่ยวได้แทบทุกกลุ่ม
นอกจากนี้ ราวกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา Amari ได้เปิดห้องอาหาร Prego พัทยา ขึ้นที่บริเวณด้านหน้าโรงแรมติดถนนเลียบหาด เป็นร้านอาหารอิตาเลียนไฟน์ไดนิ่งตามคอนเซ็ปต์ของ Prego ที่สร้างสรรค์และออกแบบอาหารโดย “Marco Boscaini” เชฟคนดังของ Amari ผู้วางคอนเซ็ปต์ร้าน Prego หลายทำเลทั้งกรุงเทพฯ สมุย และภูเก็ต เพิ่มเสน่ห์ให้ Amari มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างชัดเจน
สุพจน์เล่าว่า เชฟ Marco เป็นเสมือนเอกลัษณ์ของแบรนด์ Amari ในด้านอาหาร เพราะ Amari ทุกแห่งจะมีร้าน Prego เปิดให้บริการ เป็นร้านอาหารอิตาเลียนโดยเชฟ Marco
“หลังจากนี้ไป Amari ทุกแห่งจะมีร้าน Prego ให้บริการ เป็นเอกลัษณ์ร้านอาหารอิตาเลียนระดับลักชัวรี่” เขาเผยถึงแผนขยายบริการในอนาคต ซึ่งเชฟ Marco เป็นพ่อครัวดังที่หลายคนยอมรับ และอาหารอิตาเลียนโดยเชฟเลื่องชื่อผู้นี้มีรสชาติอร่อยและสวยงาม วัตถุดิบหลายอย่างนำเข้าจากอิตาลีโดยตรง
ดูแลโรงแรมหลายแห่ง
ร้านอาหารเป็นเสน่ห์ที่สำคัญของโรงแรม การมีร้านอาหารที่ดี อาหารอร่อย บรรยากาศดี บริการดี เป็นเครื่องยืนยันคุณภาพและบริการของโรงแรมด้านความพร้อม
สุพจน์บอกว่าประสบการณ์ของเขาในธุรกิจโรงแรมนอกจากห้องพักแล้ว food and beverage ถือเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะลูกค้าหลายคนติดใจอาหารทำให้มาเยือนโรงแรมบ่อยครั้ง เป็นการสร้างภาพลักษณ์ การยอมรับ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
“รายได้จากห้องพักเป็นหลัก แต่รายได้จากอาหารและเครื่องดื่มก็เป็นส่วนสำคัญไม่แพ้กัน” เขายืนยันและว่า การมีบริการอาหารที่ดีเป็นตัวช่วยในการดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี
สุพจน์บอกเล่าจุดขายและจุดแข็งของโรงแรมจากประสบการณ์กว่า 3 ทศวรรษที่เขาทำงานในธุรกิจโรงแรมหลังสำเร็จการศึกษาด้านการโรงแรมหลักสูตรพิเศษของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เขาทำงานด้านโรงแรมมาโดยตลอดก่อนจะได้รับการโปรโมทเป็นผู้บริหารของ Amari
“ก่อนโควิดผมอยู่ Amari ดอนเมืองมา 13 ปี ก่อนย้ายมาที่นี่” เป็นประสบการณ์ในฐานะจีเอ็มของ Amari ที่ยาวนานต่อเนื่อง นอกจากนี้ สุพจน์ยังเป็นผู้จัดการทั่วไปในพื้นที่ภาคตะวันออกของ ONYX ซึ่งภารกิจไม่ได้มีเฉพาะภาคตะวันออก แต่ทว่าครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและลาว
โรงแรมในลาว 2 แห่งคือ ลาวเหนือที่วังเวียง และลาวใต้ที่ปากเซ “โรงแรมหลายแห่งของ ONYX อาจมีขนาดไม่ใหญ่มาก เช่นที่เลยและสุโขทัยมีห้องพักราว 60 ห้อง” สุพจน์อธิบายอย่างรวบรัดให้เห็นภาพเครือข่ายธุรกิจของ ONYX เชนโรงแรมของคนไทยที่ก่อนหน้านี้ขยายตัวไม่น้อย มีธุรกิจทั้งในไทยและหลายประเทศ ทำให้เขามีโอกาสได้ดูแลโรงแรมในหลายพื้นที่
จีเอ็มคนไทยหนึ่งเดียวของ Amari เผยว่า โรงแรมที่โดดเด่นในแบรนด์นี้สำหรับทำเลกรุงเทพฯ คือ Amari Watergate ซึ่งปรับโฉมใหม่เช่นเดียวกัน อวดโฉมให้นักท่องเที่ยวสัมผัสความเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ปลายปี 2565
ส่วน Amari พัทยา การพัฒนาโครงการในอาณาจักร 32 ไร่ ริมถนนเลียบหาดพัทยาเหนือใช้งบประมาณกว่า 3 พันล้านบาท เปลี่ยนโฉมโรงแรมให้โมเดิร์นขึ้น และเพิ่มฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอยรองรับกลุ่มครอบครัว
ย้ำภาพลักษณ์แบรนด์โรงแรม 5 ดาวของคนไทยที่ให้บริการครบครันสะดวกสบายและอบอุ่น โดยทำการรีโนเวตอาคารหลักที่มีอายุกว่า 10 ปี ให้มีความสดใสขึ้น สร้างโรงแรมน้องใหม่ OZO ในบริเวณเดียวกัน เพิ่มความทันสมัยสดใหม่ให้กับพื้นที่ และเพิ่มขนาดห้อง 2-3 ห้องนอนรองรับกลุ่มครอบครัว
“ทุกวันนี้ตลาดเปลี่ยน เราต้องปรับแผนตลาดตามความเปลี่ยนแปลงด้วยการเชิญคนดังเซเลบริตี้มาทดลองพัก ให้พวกเขาบอกต่อ” สุพจน์อธิบายกลยุทธ์ตลาดที่เปลี่ยนไปของ Amari แบบกระชับ ซึ่งหากสังเกตจะเห็นว่าในช่วงหลัง Amari ปรับกลยุทธ์การใช้สื่อหลักไปสู่สื่อสังคมออนไลน์ โดยอาศัยอินฟลูเอนเซอร์และเซเลบริตี้ในการสื่อสารมากขึ้น
การให้คนดังทดลองใช้บริการและบอกต่อเรื่องราวของ Amari ผ่านประสบการณ์จริง ได้การตอบรับที่ดีพอสมควร มีดาราและคนดังในกลุ่มครอบครัวเข้าพักและแชร์ประสบการณ์ สร้างการรับรู้และภาพลักษณ์ใหม่ให้แบรนด์ได้เป็นอย่างดี
ภาพลักษณ์ของพัทยาที่จีเอ็มวัย 55 ต้องการสื่อสารคือ ทำเลพัทยาเหนือ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีความเจริญ ตอกย้ำว่าพัทยาไม่ได้มีแค่ไนต์ไลฟ์
“พัทยาสำหรับคนส่วนใหญ่จะนึกถึงบาร์เบียร์ อะโกโก้ และไนต์ไลฟ์ เพราะกิจการเหล่านี้มีมาก แต่ไม่ใช่ที่พัทยาเหนือ” สุพจน์ย้ำและว่า ภาพลักษณ์พัทยาเหนือที่แตกต่างสามารถสร้างขึ้นมาได้
หากผู้ประกอบการร่วมกันสร้างสรรค์กิจการและกิจกรรมท่องเที่ยวใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อให้พัทยาเหนือเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของพัทยา มีบุคลิกเฉพาะตัวชัดเจน ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวไทยโดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวยินดีและวางใจที่จะพาบุตรหลานมาเที่ยวพัทยา
ภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมจะนำพาไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน หากสร้างการยอมรับที่ชัดเจน โอกาสที่ธุรกิจจะเติบโตย่อมเป็นไปได้ ไม่เพียงการตอบรับชั่วคราวแต่จะสามารถยืนยาวได้อย่างต่อเนื่อง
“ตอนนี้ท่องเที่ยวกลับมาชัดเจน เดือนหน้าสาขาภูเก็ตจะได้เซอร์วิสชาร์จ 30,000 เลือกได้เลย” สุพจน์บอกว่า นักท่องเที่ยวมีทั้งรัสเซีย สแกนดิเนเวีย ทุกคนไม่กังวลเรื่องโควิด ไม่สวมใส่แมสก์แล้ว
อย่างไรก็ดีเขายอมรับว่า นักท่องเที่ยวยังกลับมาไม่ครบ โดยตลาดจีนและยุโรปยังมาไม่มาก
เชื่อว่าไตรมาส 2 ปีนี้เป็นต้นไปนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้ามาไทยมากขึ้น ส่วนทำเลพัทยาสุพจน์เล่าว่า ตลาดไม่ได้เงียบหายไปทั้งหมด แต่นักท่องเที่ยวเปลี่ยนจากต่างชาติมาเป็นกลุ่มคนไทย
พัทยายังได้อานิสงส์นี้ต่อเนื่อง “พัทยาคึกคักอยู่แล้ว แต่ว่าเป็นในรูปของ domestic เป็นคนไทยเที่ยวไทย เพราะออกนอกประเทศไม่ได้” นั่นคือบรรยากาศการกลับมาของการท่องเที่ยวในปีที่ผ่านมา คนต้องการเดินทางท่องเที่ยวหลังจากถูกล็อกดาวน์มานาน
ส่วนตลาดอินเตอร์เริ่มเห็นกลางปี 2565 มาต้นปี 2566 นักท่องเที่ยวจีนเริ่มจองเข้ามาบ้างแล้ว “นักท่องเที่ยวต่างชาติยังเป็นกลุ่ม FIT (Free Individual Traveler) เดินทางเองไม่ผ่านเอเย่นต์ เห็นตัวเลขอย่างมีนัยสำคัญ” จีเอ็ม Amari ย้ำและว่า เทคโนโลยีและยุคดิจิทัลที่ทุกคนสามารถคลิกจองการเดินทางได้ง่ายเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นตลาดกลุ่มนี้
เขาย้ำว่า “นักท่องเที่ยวมาแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงสายการบินว่าจะพร้อมแค่ไหน หลังจากขาดทุนหนักพนักงานหายไปมาก” สุพจน์มองว่าสายการบินเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามามากหรือน้อย หากสายการบินไม่พร้อมนักท่องเที่ยวก็เข้ามาได้อย่างจำกัด หากสายการบินพร้อมนักท่องเที่ยวเดินทางสะดวก อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็จะฟื้นตัวได้เร็ว
ภาพ: API
อ่านเพิ่มเติม : พัชร์ เอกปัญญาสกุล NTSC รุกเทคอาหารอนาคตโลก