ในแต่ละช่วงทศวรรษมักมีเหตุการณ์สำคัญที่พลิกผันและผลักดันอุตสาหกรรมให้ก้าวสู่มิติใหม่ระดับ mega trend ที่จะสร้างโอกาสให้ธุรกิจ และสะท้อนวิถีชีวิตของมนุษยชาติ แต่ขณะเดียวกันก็รองรับการใช้ชีวิตของผู้คน ถึงขั้นส่งเสริมให้พวกเขาสร้างสรรค์การใช้ชีวิตได้อย่างไร้ขีดจำกัด
Mega trend คือกลุ่มธุรกิจที่สะท้อนบริบทของโลกแห่งมนุษยชาติ ไม่ว่าโลกจะอยู่ ในท่ามกลางช่วงวิกฤตใดพลวัตของการใช้ชีวิตจะยังคงดำาเนินไปด้วยความท้าทายในการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจทุกระดับที่ใช้การผลิตเป็นเครื่องมือที่จะเข้าสู่ตลาดการค้า เป็นความพยายามที่จะต่อสู้กับเรื่องที่ท้ายทั้งโลกแห่งการดำเนินชีวิตและโลกธุรกิจแบบคู่ขนาน Forbes Thailand เลือกนำเสนอ mega trend ที่ประกออบด้วยกระแสความเป็นเมืองขนาดใหญ่ สังคมผู้สูงอายุ พลังของผู้หญิง และการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อให้ทุกคนได้มีมุมมองต่อแผนการดำเนินธุรกิจ กลยุทธ์การตลาด การมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนประโยชน์จากแนวโน้มเหล่านี้ Aging Society ตลาดใหม่มาแรง วิวัฒนาการของโลกธุรกิจพลิกเปลี่ยนมิติโดยมีนวัตกรรมเป็นตัวแปรสำคัญ และผลักให้กลุ่มอุตสาหกรรมกลายร่างสู่รูปแบบที่มีความเป็นไปได้ใหม่ซึ่งเชื่อมโยงกับการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะการมีอายุที่ยืนยาวขึ้น ผลสำรวจของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ในเรื่อง aging society ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มประชากรอายุ 48-57 ปี ในปัจจุบันจะกลายเป็นผู้สูงอายุในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า นั่นคือจะมีผู้สูงอายุ 1 คนในประชากรทุก 5 คน โดย 30% มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 30,000-60,000 บาท อีก 30% มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 60,000-100,000 บาทจัดเป็นกลุ่มที่มีรายได้ดี มีความสามารถในการใช้เงิน มีอัตราการออมและลงทุนสูงถึง 25% เป็นสาระสำคัญที่บอกเราว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเป็น “aging society” อย่างมีประสิทธิภาพ กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของไทยได้มุ่งทำการตลาดสู่การดูแลสุขภาพ รวมถึงเภสัชกรรม โรงพยาบาล ผู้ผลิตเครื่องมือ ทางการแพทย์ บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพใช้นวัตกรรมดิจิทัลสร้างโอกาสใหม่กับธุรกิจ โดยเฉพาะการใช้งบประมาณค้นคว้าและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ใหม่ รวมถึงบริการที่สอดคล้องกับตลาด aging society “การปรับรูปแบบอุตสาหกรรมสู่ aging society ถือเป็นเรื่องที่สำคัญของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในการเป็นแกนกลางเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สามารถเติบโตภายในประเทศ และแข่งขันได้ในระดับสากล เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของไทยให้ยั่งยืน” สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แสดงความเห็น พร้อมบอกเล่าที่มาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ทุกอย่างเกี่ยวกับสุขภาพจึงกำลังเป็นเทรนด์ ยิ่งตอนนี้รัฐออกนโยบายผลักดันให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ธุรกิจอุปกรณ์เทคโนโลยี รวมถึงการดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์ใหม่ๆ เช่น สถานรับดูแลผู้สูงอายุ หรือ community แบบ premium หรือธุรกิจการให้บริการทางการเงิน เช่น การวางแผนเกษียณอายุทั้งก่อนและหลังเกษียณ “ภาพรวมของสภาอุตสาหกรรมฯ ในการบริหารงานและสนับสนุนอุตสาหกรรมไทยคือ การปรับตัวองค์กรรูปแบบใหม่ให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ตรงจุด โดยเพิ่มสายงานสนับสนุนให้ตรงความต้องการของผู้ประกอบการ 6 ด้าน ได้แก่ ด้านตลาด, การเงิน, การอบรม, เรื่องของ innovation, ประสิทธิภาพในการทำางาน และเรื่องของสิ่งแวดล้อม” สุพันธ์กล่าวและว่า อีกก้าวที่สำคัญคือ สภาอุตสาหกรรมฯ ได้เพิ่มคณะกรรมการด้านอี-คอมเมิร์ซแบบ B2B (business-to-business) ช่วยสนับสนุนด้านข้อมูล เพื่อเชื่อมต่อกับของศูนย์มาตรฐานสินค้า มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม) หรือ อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) อีกทั้งช่วยเหลือผู้ประกอบการการด้านการเงินตามมาตรการที่ภาครัฐเพิ่งออกมา โดยให้ SMI (สถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ภาคอุตสาหกรรมการผลิต) เข้าดูแลประสานงานจัดหาวงเงินให้SME (วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม) นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับสถาบันพลังงานสำหรับการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการพร้อมการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยให้สมาชิกเข้าถึงการเป็น eco-factory และ greenfactory “สภาอุตสาหกรรมวาง brand positioning ในปี 2564 ไว้ว่า เราคือผู้ชำนาญการและมีความรู้ด้านอุตสาหกรรมดีที่สุด สนับสนุนข้อมูล new technology รวดเร็ว เพราะอุตสาหกรรมมีรูปแบบ transfomation จึงเตรียมพร้อมที่จะร่วมมือกับ ทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ และ ภาคการศึกษาด้วย” สุพันธุ์กล่าวทิ้งท้าย เรื่อง: กนกวรรณ ไม้สนธิ์ ภาพ: จันทร์กลาง กันทองคลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2563 ในรูปแบบ e-magazine