เทรนด์ใหม่ธุรกิจเครื่องดื่มไทยสู่ความยั่งยืน - Forbes Thailand

เทรนด์ใหม่ธุรกิจเครื่องดื่มไทยสู่ความยั่งยืน

FORBES THAILAND / ADMIN
11 Dec 2024 | 09:01 AM
READ 499

เมื่อความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันต่างมองหาผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพและใส่ใจเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น ภาคธุรกิจเครื่องดื่มไทยจึงตอบสนองเทรนด์นี้อย่างฉับไวด้วยการบูรณาการนวัตกรรม ความรับผิดชอบ และกลยุทธ์ใหม่ๆ โดยคำนึงถึงการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น


    ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สอดคล้องกับกระแสตื่นตัวด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นทั่วโลก และยังตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคชาวไทยที่ต้องการเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนถึงแนวโน้มตลาดเครื่องดื่มที่ไม่ได้ให้ความสำคัญแค่เพียงรสชาติ แต่ยังต้องดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมด้วย 

    ขณะที่ผลการสำรวจโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยปี 2565 ยังชี้ให้เห็นถึงผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าคุณภาพ และความปลอดภัย เนื่องจากปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ได้แก่ ปัญหามลพิษ เช่น น้ำเสีย PM 2.5 ขยะ ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น การลดบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วทิ้ง การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติย่อยสลายได้มากขึ้น

    สำหรับกลุ่มสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ผู้บริโภคเต็มใจจ่ายเพิ่มมากที่สุดนำโดยกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มรักษ์โลก 71.4% รองลงมาเป็นสินค้าอุปโภค 49.3% เช่น สบู่ แชมพู ผงซักฟอก และยานพาหนะ 34.7% อุปกรณ์สำนักงาน 33.9% เครื่องใช้ไฟฟ้า 33.3% อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน 31.2% โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน 

    ด้านปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อ ได้แก่ การลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างชัดเจน ความน่าเชื่อถือได้รับการรับรองด้านสิ่งแวดล้อม ราคาไม่สูงเกินไป โปรโมชั่นจูงใจ ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่มองการบริโภคสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสินค้าคุณภาพ มีความปลอดภัย และควรสนับสนุน แต่ผู้บริโภคยินดีจ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการดังกล่าวในระดับราคาไม่เกิน 20% เมื่อเทียบกับราคาปกติเท่านั้น


จับตาทิศทางตลาดน้ำอัดลมไทย

    ตลาดน้ำอัดลมไทยเริ่มให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพเนื่องจากผู้บริโภคหันมาเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่ใส่ใจต่อสุขภาพมากขึ้น ทำให้ความต้องการเครื่องดื่มสูตรน้ำตาลน้อยหรือไม่มีน้ำตาล แคลอรี่ต่ำหรือไม่มีแคลอรี่ รวมถึงเครื่องดื่มที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติซึ่งให้ประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น เพิ่มความสดชื่นและให้พลังงาน หรือช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน 

    เทรนด์ดังกล่าวไม่เพียงสะท้อนถึงความตื่นตัวด้านสุขภาพที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก แต่ยังนำมาปรับให้เข้ากับรสนิยมของผู้บริโภคชาวไทยที่กำลังมองหาเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ไปพร้อมๆ กับการคำนึงถึงผลลัพธ์ด้านสุขภาพและเพื่อตอบสนองความต้องการที่กำลังเพิ่มขึ้นนี้ บริษัทเครื่องดื่มในประเทศไทยจึงนำนวัตกรรมต่างๆ มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้วยการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ รวมถึงการปรับสูตรผลิตภัณฑ์โดยลดปริมาณน้ำตาลหรือเพิ่มส่วนผสมที่มีประโยชน์ 

    ดังนั้น การพัฒนาเครื่องดื่มในยุคนี้จึงต้องมีดีทั้งรสชาติและคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ถือได้ว่าเป็นแนวทางที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดเมืองไทย


มุ่งมั่นก้าวสู่ความยั่งยืน

    บริษัทเครื่องดื่มชั้นนำในประเทศไทยไม่เพียงตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนด้วย เริ่มตั้งแต่การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การเลือกใช้ขวด PET (Polyethylene Terephthalate) แบบใส ไม่มีสี ที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ 100% การใช้ขวดพลาสติก PET น้ำหนักเบา (lightweight) เพื่อช่วยลดปริมาณการใช้พลาสติกใหม่ และส่งเสริมการคัดแยกและเก็บกลับขวด PET ใช้แล้วเพื่อรีไซเคิลหมุนเวียนกลับมาเป็นขวดใหม่ หรือที่เรียกว่า “bottle-to-bottle recycling” 

    ที่สำคัญยังทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในห่วงโซ่คุณค่าของบรรจุภัณฑ์เพื่อขับเคลื่อนการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน ตลอดจนการให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มาประยุกต์ใช้ 

    นอกจากนั้น บริษัทหลายแห่งได้หันมาใช้โมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) เพื่อลดปริมาณขยะและส่งเสริมการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ยังเข้าไปมีส่วนร่วมและสนับสนุนโครงการของชุมชนในท้องถิ่นต่างๆ อย่างจริงจัง โดยเฉพาะโครงการด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน

    ขณะที่การให้ความรู้และสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคนั้นมีบทบาทสำคัญยิ่งที่จะช่วยผลักดันให้ความมุ่งมั่นนี้ประสบความสำเร็จ ดังนั้น บริษัทต่างๆ จึงพยายามมุ่งเน้นสร้างความตระหนักรู้ถึงการดำเนินงานในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่ใส่ใจความยั่งยืนผ่านแคมเปญส่งเสริมไลฟ์สไตล์รักสุขภาพและสร้างสำนึกรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม แคมเปญเหล่านี้ไม่เพียงเพิ่มฐานผู้บริโภคให้มีความรู้ความเข้าใจ แต่ยังช่วยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมเครื่องดื่มสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม


อนาคตการเติบโตเครื่องดื่มไทย

    เมื่อมองไปข้างหน้าตลาดเครื่องดื่มในประเทศไทยยังมีโอกาสอีกมากในการเติบโตทางธุรกิจ การคิดค้นและพัฒนานวัตกรรม รวมถึงการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน เทรนด์ที่เกิดขึ้นนี้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่ตลาดเครื่องดื่มที่ใส่ใจต่อสุขภาพและมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน 

    แม้ในปัจจุบันจะยังคงมีความท้าทายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และการรักษาสมดุลระหว่างรสชาติและคุณประโยชน์ต่อร่างกาย แต่อุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยยังคงมีความพร้อมในการส่งมอบผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงใส่ใจดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน 

    ขณะที่การตอบรับต่อเทรนด์ในปัจจุบันและมุ่งสู่แนวทางแห่งความยั่งยืนจะทำให้อุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญในการกำหนดบทบาทในตลาดใหม่ เพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ตอบโจทย์ทั้งความต้องการของผู้บริโภค ผลกำไรทางธุรกิจ และสำนึกรับผิดชอบต่อโลกไปพร้อมกัน 


บทความโดย : Ashish Joshi ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด




เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Beyond The Pain Point นวัตกรรมรักษ์โลก

คลิกอ่านเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2567 ในรูปแบบ e-magazine