สมาคมศูนย์การค้าโลก หรือ WTCA: World Trade Centers Association ซึ่งเป็นสมาคมการค้าระหว่างประเทศที่เป็นเครือข่ายของศูนย์การค้าโลก หรือ World Trade Center (WTC) มากกว่า 300 แห่งในเกือบ 100 ประเทศทั่วโลกกล่าวถึงการนำมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG มาใช้โดยผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยว่า มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโตระลอกต่อไปในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีส่วนสนับสนุนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP ของไทยประมาณร้อยละ 10
ตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ในประเทศไทยกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การระบาดของโรคโควิด-19 โดยได้รับแรงหนุนจากผู้เช่าในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เทคโนโลยี และสินค้าอุปโภคบริโภค ทาง WTCA สังเกตเห็นการให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนและการลงทุนอย่างรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น และการเน้นบทบาทสำคัญของมาตรฐาน ESG ในการสร้างตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดหยุ่นและพร้อมรับอนาคตในประเทศไทย
การบูรณาการแนวทางปฏิบัติตาม ESG ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไปแต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบริษัทต่างๆ ที่ต้องการเป็นผู้นำในตลาดโลก การนำมาตรฐาน ESG มาใช้จะช่วยให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ดึงดูดการลงทุน และมีส่วนสนับสนุนความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยหลักฐานและการรับรองที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งพบว่าโครงการที่ปฏิบัติตาม ESG ไม่เพียงยั่งยืนกว่า แต่ยังสร้างกำไรมากกว่าในระยะยาวอีกด้วย
ดังนั้น WTCA จึงสนับสนุนให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยนำแนวทางอาคารสีเขียวมาใช้เพิ่มมากขึ้น โดยนำวิธีการก่อสร้างและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนมาใช้เพื่อลดปริมาณคาร์บอนและเพิ่มประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงาน ซึ่งถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมการเติบโตและนวัตกรรมในภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยในอีก 5 ปีข้างหน้า
อาคารสีเขียวตอบรับดี
ทั้งนี้ จากรายงานการวิเคราะห์ของ Knight Frank บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกได้แสดงให้เห็นว่า อาคารเก่าที่ได้รับการรับรองว่าเป็นอาคารสีเขียวในประเทศไทย อาทิ LEED หรือ Leadership in Energy & Environmental Design (ความเป็นผู้นำด้านการออกแบบที่อนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม) และ WELL (WELL Building Standard หรือมาตรฐานทางสุขภาวะระดับสากลที่ประเมินอาคารภายใต้แนวคิดสำคัญ 7 ข้อ ได้แก่ อากาศ น้ำ สาธารณูปโภค แสง การออกกำลังกาย สภาพแวดล้อม และจิตใจ) ได้เสียพื้นที่ใช้งานไปเพียง 17,000 ตร.ม. เท่านั้นเมื่อเทียบกับอาคารเก่าที่ไม่ได้รับการรับรองอาคารสีเขียวซึ่งเสียพื้นที่ไปมากถึง 373,000 ตร.ม.
ผลลัพธ์ดังกล่าวสอดคล้องกับอาคารที่สร้างเสร็จหลังปี 2543 โดยอาคารใหม่ที่ได้รับการรับรองอาคารสีเขียวมีพื้นที่ที่ถูกใช้งานเพิ่มขึ้น 358,000 ตร.ม. ในขณะที่อาคารใหม่ที่ไม่มีการรับรองอาคารสีเขียวมีพื้นที่ที่ถูกใช้งานเพิ่มขึ้นเพียง 43,000 ตร.ม. เท่านั้น
LEED เป็นระบบการให้คะแนนอาคารสีเขียวที่ใช้กันอย่างแพร่หลายซึ่งจัดทำกรอบงานสำหรับอาคารสีเขียวที่มีสุขภาพดี มีประสิทธิภาพสูง และประหยัดต้นทุน ในขณะที่ WELL เป็นระบบที่อิงตามเกณฑ์ประสิทธิภาพในการวัด รับรอง และติดตามคุณลักษณะของสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์
ในฐานะองค์กรชั้นนำด้านการค้าและการลงทุนระดับโลก ทาง WTCA และเครือข่ายธุรกิจศูนย์การค้าโลก (World Trade Center: WTC) ได้เดินหน้าสนับสนุนหลักการของความยั่งยืนและธรรมาภิบาลในการดำเนินงานประจำวัน ตลอดจนให้ความช่วยเหลือธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับโลก โปรแกรมการฝึกอบรมและกิจกรรมต่างๆ ที่เน้น ESG รวมถึงเครือข่ายนานาชาติ สำหรับการแบ่งปันความรู้และการทำงานร่วมกัน
นอกจากการปลูกต้นไม้และดำเนินกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนอื่นๆ โดยองค์กรต่างๆ เช่น WTC Mumbai ในวันสิ่งแวดล้อมโลกเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก็ยังมี WTC Bangalore ร่วมกับ WTC Kochi และ WTC Chennai ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม Earth Hour ทั่วโลกในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาด้วยการหรี่ไฟในสถานที่ต่างๆ และลดภาระการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ อาคาร WTC หลายแห่งทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังได้รับการรับรอง LEED และ WELL รวมถึงการรับรอง WELL CORE Platinum ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว สำหรับอาคาร China World Trade Center Tower A ซึ่งเป็นหนึ่งในอาคารที่สูงที่สุดในกรุง Beijing ขณะที่ WTC Taipei ซึ่งเป็นตึกระฟ้าที่มีอุปกรณ์อัจฉริยะแห่งแรกในไต้หวันยังได้รับการรับรองทั้ง LEED และ WELL ในปี 2566 ด้วย
การนำแนวทาง ESG มาใช้มีส่วนช่วยสนับสนุนอย่างมากต่อความสามารถในการปรับตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทย เพื่อให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภูมิทัศน์ด้านกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งยังช่วยเสริมสร้างบทบาทในการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและนวัตกรรมทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
การประชุมระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ WTCA ประจำปี 2024 (APRM) ที่จัดขึ้นในวันที่ 25-27 สิงหาคม ปี 2567 โดยมี WTC Haikou จีนแผ่นดินใหญ่เป็นเจ้าภาพนั้นเป็นเวทีสำคัญในการรวมตัวของกลุ่มสมาชิก WTCA ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวโน้มต่างๆ เช่น การพัฒนาเขตอุตสาหกรรม แบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในด้านความยั่งยืนและสาขาอื่นๆ ตลอดจนการพูดคุยเกี่ยวกับแผนในอนาคตและการสร้างเครือข่ายร่วมกัน
สำหรับสมาคมศูนย์การค้าโลก หรือ WTCA เป็นเครือข่ายขององค์กรและธุรกิจมากกว่า 300 รายใน 91 ประเทศ ที่ให้การสนับสนุนซึ่งกันและกัน ตลอดจนมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ในฐานะที่เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า "World Trade Center" และ "WTC" ทางสมาคม WTCA ได้มอบสิทธิพิเศษให้แก่สมาชิกในการนำชื่อแบรนด์เหล่านี้ไปใช้กับทรัพย์สิน อสังหาริมทรัพย์ อาคารสถานประกอบการ ตลอดจนบริการต่าง ๆ ทางด้านการค้าที่สมาชิกเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว
ทั้งนี้ เป้าหมายของสมาคม WTCA คือเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเจริญเติบโตมากขึ้นด้วยการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในด้านการค้าและการลงทุนทั่วโลก ผ่านการมีส่วนร่วมของสมาชิกในกิจกรรม โครงการ และทรัพยากรอันแข็งแกร่งที่ทางสมาคมนำเสนอให้กับสมาชิก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ www.wtca.org
บทความโดย : Scott Wang รองประธาน WTCA ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ทำไมสงครามนี้ถึงหลีกเลี่ยงไม่ได้