ได้เวลาเปิดโลกการลงทุนต่างประเทศ - Forbes Thailand

ได้เวลาเปิดโลกการลงทุนต่างประเทศ

นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาถึงเวลานี้ (สิ้นเดือนพฤษภาคม) ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนที่ติดลบเรียบร้อยแล้ว สมกับที่มีคำกล่าวว่า Sell In May And Go Away จากนี้เป็นต้นไป ตามสถิติเก่า SET Index น่าจะเคลื่อนไหวออกไซด์เวย์ และไปลุ้นว่าปลายปีหุ้นจะขึ้นด้วยแรงซื้อกองทุน LTF ตลาดหุ้นไทยจะมีรูปแบบซ้ำๆแบบนี้อยู่ทุกปี

หุ้นดีๆ ที่สามารถซื้อถือลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้นไทยตอนนี้ต้องบอกว่ามีน้อยมากแทบจะนับตัวได้ ใครที่ใช้โปรแกรม Stock Quadrant จะเห็นได้ว่ามีหุ้นที่พื้นฐานระดับ A แค่ไม่กี่ตัวรูปแบบของตลาดหุ้นก็เปลี่ยนไปมาก ทุกวันนี้หุ้นขนาดใหญ่บลูชิพยังลงได้วันเดียวมากกว่า 5% จากสมัยก่อนจะไม่มีทางเห็นปรากฎการณ์แบบนี้  ส่วนหุ้นขนาดเล็กที่เก็งกำไรกันแรงๆก็แทบไม่เห็นแล้ว ทำให้วอลลุ่มเทรดของรายย่อยแทบไม่เติบโต ต้องบอกว่าตลาดหุ้นและตลาดการลงทุนในประเทศไทยค่อนข้างมีสินค้าให้เลือกที่จำกัดมาก แทบจะรู้ได้เลยว่ากองทุนรวมต้องมีหุ้นอะไรบ้างอยู่ในพอร์ต แล้วแต่ว่ากองไหนให้น้ำหนักการลงทุนมากน้อยกว่ากัน แม้ทางตลาดหลักทรัพย์จะพยายามออกโปรดักส์ใหม่ๆออกมาอย่าง Block Trade, Derivative Warrant ฯลฯ แต่ก็วนอยู่กับหุ้นเดิมๆ  นักลงทุนไทยจึงค่อนข้างมีทางเลือกที่จำกัด นี่เป็นสาเหตุที่ผมพยายามที่จะกระจายการลงทุนออกไปยังต่างประเทศมากขึ้น ส่วนหนึ่งด้วยพอร์ตส่วนตัวที่ใหญ่ขึ้นจนไม่สามารถเข้าหุ้นที่มีขนาดเล็กได้แล้ว แต่เหตุผลสำคัญคือผมอยากสร้างโอกาสการลงทุนให้กับคนไทยมีทางเลือกมากขึ้น ล่าสุดผมได้จับมือกับคุณอาภากร สุวรรณศักดิ์ เจ้าของ Middle March เพื่อจัดตั้ง Hedge Fund ขึ้นเพื่อลงทุนในตราสารประเภท Futures Index Futures รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์อย่างเช่น Gold Oil โดยมีจุดประสงค์หลักนอกจากให้คนไทยมีโอกาสกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มชัดเจนสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ยังเป็นการเรียนรู้โลกการลงทุนในระดับ Global ทั้งตัวผมเองและทีมเทรดเดอร์ที่โครงการ Super Trader Super Trader Republic และล่าสุดกับโปรเจคท์โซเชียลเทรดดิ้ง TrippleS สร้างขึ้นจะมีโอกาสเติบโตและพัฒนาศักยภาพของตัวเองให้ไปถึงระดับโลก ทริปเดินทางไปติดต่อธุรกิจที่ประเทศสิงคโปร์ครั้งล่าสุดผมและทีมงานได้ไปพูดคุยกับสถาบันการเงินชั้นนำไม่ว่าจะเป็น Bank Of Singapore, Saxo Market ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ระดับโลกที่กำลังพูดคุยเพื่อเชื่อมต่อแพลตฟอร์มกับโปรเจค TrippleS และคุณมาริโอ ซิงห์ เจ้าของโบรกเกอร์ Fullerton Market ผมรู้สึกได้ว่าหากเรายังคงวนเวียนอยู่แต่ในประเทศไทย เราจะขาดโอกาสเรียนรู้การลงทุนในระดับโลกที่เคลื่อนไหวอย่างไม่สิ้นสุด อย่างตอนนี้ที่สิงคโปร์ นักการเงินพูดถึงกันแต่เรื่องของ ICO และ Crypto มันอาจจะยังไม่สามารถเข้ามาแทนที่การเงินดั้งเดิมแต่ก็ไม่ควรมองข้ามมันไปเสียทีเดียว นักลงทุนที่ชินกับหุ้นไทยอาจมองว่าการลงทุนในต่างประเทศเป็นเรื่องเข้าใจยาก แต่ในไทยตอนนี้เรามีเทรดเดอร์ที่เทรดสินค้าต่างประเทศเก่งๆ มากมาย อยากให้ลองเรียนรู้มันดู เชื่อว่ามุมมองการเทรดของเราจะกว้างและพัฒนาขึ้นได้แน่นอน