การชุมนุมทางการเมืองใน Hong Kong ที่รู้จักกันในชื่อ Umbrella Revolution กำลังลดความตึงเครียดลงแล้ว อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางเศรษฐกิจกลับไม่ได้ลดหายไปด้วย
ขณะที่ทั่วโลกเพ่งความสนใจไปยังการเรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อให้ได้ระบอบการเลือกตั้งที่เป็นสากล แต่สิ่งหนึ่งที่การประท้วงมุ่งเน้น นั่นคือประเด็นว่าด้วยช่องว่างทางเศรษฐกิจของเมืองที่มีประชากร 7 ล้านคนแห่งนี้ กำลังถ่างขยายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้ว่าวิกฤติการเมืองกำลังคลี่คลาย ผู้ปกครองกับผู้ประท้วงเริ่มหันหน้ามาพูดคุยกันบ้างแล้ว แต่ว่าความแตกต่างทางรายได้ไปจนถึงราคาค่าที่พักอาศัยกำลังเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ เกาะแห่งนี้กำลังเผชิญหน้าความท้าทายทางเศรษฐกิจในหลายด้าน ไม่ต่างไปจากแรงกดดันทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นเลย 1) ความไม่เท่าเทียมกันทางรายได้เพิ่มมากขึ้น ดัชนีวัดความแตกต่างทางรายได้ครัวเรือน (Gini coefficient) ชี้ให้เห็นว่าความแตกต่างทางรายได้ของ Hong Kong เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานสถิติและสำมโนประชากร แสดงให้เห็นว่า ดัชนีดังกล่าวสูงถึง 0.537 ในปี 2011 เพิ่มขึ้นจาก 0.43 ในปี 1971 ถึง 25% จนใกล้ค่าดัชนีของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ 0.55 ตามการประเมินของ University of Michigan





นับตั้งแต่ Hong Kong กลายมาเป็นเขตปกครองพิเศษของสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1997 เมืองแห่งนี้ได้ดำเนินมาตรการหลากหลายเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีนแผ่นดินใหญ่ให้แน่นแฟ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติหุ้นส่วนทางการค้า ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกเป็นแหล่งระบายสินค้าจาก Hong Kong มูลค่า 2.48 หมื่นล้านเหรียญฮ่องกงในปี 2013 จนเกาะแห่งนี้กลายเป็นคู่ค้าของจีนเป็นลำดับสองรองจากสหรัฐฯ ในขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่ก็เป็นคู่ค้าที่ใหญ่สุดของเกาะตั้งแต่ปี 1985
เรียบเรียงจาก Beyond The Umbrella Movement: Hong Kong's Struggle With Inequality In 8 Charts โดย Liyan Chen


เรียบเรียงจาก Beyond The Umbrella Movement: Hong Kong's Struggle With Inequality In 8 Charts โดย Liyan Chen