Sea Ltd. ทะเลนี้คลื่นแรง - Forbes Thailand

Sea Ltd. ทะเลนี้คลื่นแรง

FORBES THAILAND / ADMIN
24 Jan 2021 | 10:00 AM
READ 3924

การระบาดของไวรัสโคโรนากลายเป็นนาทีทองสำหรับ "Sea Ltd." ของ Forrest Li เนื่องจากคนหันมาเล่นเกมออนไลน์ของ Sea ช็อปออนไลน์ทางเว็บไซต์ของ Sea และยังใช้บริการชำระเงินออนไลน์ของ Sea อีกต่างหาก

Sea Ltd. เป็นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประเทศสิงคโปร์ มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดราว 6.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2563 ส่งผลให้ Forrest Li ประธานบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Sea มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 7.1 พันล้านเหรียญ พร้อมครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับที่ 7 ในการจัดอันดับ Singapore’s 50 Richest โดยขึ้นมาจากอันดับ 21 เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 คนคือ David Chen และ Gang Ye ก็ก้าวเข้าสู่สถานะเศรษฐีพันล้านเช่นกัน แม้ว่าโรคระบาดในครั้งนี้จะสร้างความพังพินาศให้กับบริษัทต่างๆ เป็นจำนวนมาก แต่ก็เป็นโอกาสให้กับบริษัทอีกหลายแห่ง ซึ่งบางแห่งทำผลงานได้ดีกว่า Sea เสียอีก ธุรกิจหลัก 3 อย่างของบริษัทได้รับความนิยมล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์ เกมออนไลน์ และการชำระเงินออนไลน์ ซึ่ง Li บอกว่า เป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของการเติบโตเท่านั้น “คุณมองไม่เห็นจุดสูงสุดของธุรกิจทั้งสามอย่างนี้หรอก” นักลงทุนต่างเห็นด้วย หุ้นของ Sea ในปีนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัวมาอยู่ที่ราว 146 เหรียญ (หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 1,000% นับตั้งแต่ต้นปีที่แล้วเป็นต้นมา) เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม Sea รายงานรายรับประจำไตรมาส 2 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีผลการดำเนินงานที่ดีมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวมาอยู่ที่ 1.3 พันล้านเหรียญ อานิสงส์จากรายได้ก้อนมหึมาจาก 2 ธุรกิจขนาดใหญ่ที่สุดของบริษัทคือ เกมออนไลน์ทำรายได้เพิ่มขึ้นถึง 62% มาอยู่ที่ 716 ล้านเหรียญและร้านค้าออนไลน์ทำรายได้เพิ่มเกือบ 3 เท่าตัวมาอยู่ที่ 511 ล้าน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงไม่สามารถทำกำไรได้เนื่องจากผลขาดทุนในไตรมาส 2 กลับเพิ่มขึ้น 59% มาอยู่ที่ 373 ล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ความสำเร็จของ Sea ยังเป็นข้อพิสูจน์ความเชื่อมั่นของ Li ที่มีให้กับอนาคตวงการดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขาบอกว่าโรคระบาดเป็นแค่ตัวเร่งความเร็วให้กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มีมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว “อีกหลายปีข้างหน้าเมื่อเรามองย้อนกลับมายังเหตุการณ์นี้ เราจะเห็นว่าในช่วงเกิดโรคระบาด เราจึงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลทั้งในวงกว้างและเชิงลึก ซึ่งเรามองว่ามันย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว” Li ให้สัมภาษณ์ผ่านวิดีโอจากสำนักงานของ Sea ที่ Galaxis ศูนย์เศรษฐกิจสุดล้ำในประเทศสิงคโปร์
(จากซ้าย) Forrest Li, David Chen และ Gang Ye
Li จบการศึกษาระดับปริญญาจาก Shanghai Jiaotong University และปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจจาก Stanford University และนับว่าประสบความสำเร็จไม่น้อยสำหรับชายวัย 42 ปี เขาเกิดและเติบโตใน Tianjin เมืองท่าแห่งหนึ่งของจีน ในปี 2005 Li เข้าร่วมงานรับปริญญาของ Ma ซึ่ง Steve Jobs ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ด้วยประโยคหนึ่งอันเป็นที่รู้จักกันดี “คุณต้องหาสิ่งที่คุณรักให้เจอ” Jobs เป็นแรงบันดาลใจให้ Li ลงมือทำสิ่งที่เขาหลงใหลหนักหนานั่นคือ เกมออนไลน์ เขาเปิดบริษัทเกมชื่อ GG Game ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่เขากับ Ma ย้ายไปอยู่ด้วยกัน ธุรกิจแรกเจ๊งไม่เป็นท่า แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาเสียขวัญแม้แต่น้อย ในปี 2009 เขาเปิดตัว Garena ร่วมกับ Chen และ Ye ซึ่งทั้ง 3 คนมีพื้นเพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ และได้รับสัญชาติสิงคโปร์แล้วทั้งหมด การพยุงบริษัทแห่งที่ 2 เป็นงานที่แสนสาหัสเนื่องจากทวีปเอเชียยังคงได้รับบาดเจ็บจากวิกฤตการเงินทั่วโลก แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2010 เมื่อบริษัททำสัญญาเผยแพร่เกมจาก Riot Games บริษัทในสหรัฐฯ ขณะที่ Tencent เข้ามาซื้อหุ้นในบริษัทไป 40% ทำให้ Sea มีเงินสดก้อนโตอยู่ในมือ (ปัจจุบันลดเหลือ 20%) วิวัฒนาการก้าวต่อไปของ Sea คือ การเปิดตัว AirPay ในปี 2014 ซึ่งต่อมาได้ต่อยอดเป็นบริการทางการเงินออนไลน์ที่มีชื่อว่า SeaMoney ในปีถัดจากนั้น บริษัทลองหันมาจับธุรกิจอี-คอมเมิร์ซด้วยการเปิดตัว Shopee ในปี 2017 Li รีแบรนด์บริษัทเป็น Sea ก่อนเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในปีเดียวกัน ชื่อใหม่นี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัทในการเสนอขายหุ้นครั้งหนึ่ง Sea ระดมทุนได้ 884 ล้านเหรียญ โดยมีการประเมินมูลค่าบริษัทไว้กว่า 4 พันล้านเหรียญเมื่อครั้งนำหุ้นเข้าสู่ New York Stock Exchange ส่วน “Connecting the dots” (การต่อจุด) วาทะที่มาจากสุนทรพจน์ของ Jobs เมื่อปี 2005 กลายเป็นสโลแกนของ Sea Li บอกว่า ในช่วงที่หลายๆ คนต้องอยู่บ้าน หรือรักษาระยะห่าง การเชื่อมต่อออนไลน์เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารธุรกิจเกมออนไลน์ของ Sea ซึ่งยังคงชื่อ Garena ไว้ เริ่มต้นปีนี้อย่างแข็งแกร่งมีจำนวนผู้ใช้งานที่ยังคงมีความเคลื่อนไหวในปัจจุบันราว 500 ล้านคนในไตรมาสที่ 2 สูงกว่าปีที่ผ่านมา 61% อานิสงส์จากคะแนนนิยมใน Free Fire เกมสไตล์ battle royale สำหรับผู้เล่นหลายคน บริษัทวิจัย App Annie บอกว่า เกมนี้มียอดดาวน์โหลดจาก Google Play สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกในไตรมาสที่ 2 ธุรกิจ Shopee ของ Sea เติบโตจากการระบาดของไวรัสโคโรนาในลักษณะคล้ายกัน เนื่องจากนักช็อปกักตุนสินค้า “ผู้บริโภคจะซื้อของจำเป็นก่อน” Li กล่าว โดยในไตรมาสที่ 2 Shopee มีมูลค่าสินค้ารวมเติบโตจากปีที่ผ่านมา 110% มาอยู่ที่ 8 พันล้านเหรียญ ขณะที่คำสั่งซื้อรวมอยู่ที่ 616 ล้านเหรียญ หรือเพิ่มจากปีที่ผ่านมา 150% ข้อมูลจาก App Annie เผยว่า Shopee เป็นแอปพลิเคชันช็อปปิ้งที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกาะกลุ่ม 3 อันดับแรกของโลกในหมวดหมู่เดียวกันในครึ่งปีแรก อย่างไรก็ตาม Shopee ยังคงขาดทุน แม้จะดำเนินกิจการมาแล้ว 5 ปี ผลขาดทุนจากการประกอบการของฝ่ายอี-คอมเมิร์ซของ Sea เพิ่มขึ้นเป็น 345 ล้านเหรียญในไตรมาส 2 จาก 270 ล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา ต้นทุนของ Shopee มาจากสงครามราคาแพง เพื่อยึดและรักษาส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งหลายราย เช่น Lazada ของ Alibaba และ Tokopedia ของอินโดนีเซีย ด้านธุรกิจลำดับที่ 3 ของ Sea คือ SeaMoney ซึ่งเป็นธุรกิจบริการทางการเงินดิจิทัล และเป็นหน่วยธุรกิจที่เล็กที่สุดของ Sea มีรายได้ 12 ล้านเหรียญในไตรมาสที่ 2 หรือราว 1% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท ปัจจุบัน SeaMoney ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่การดำเนินธุรกิจของหน่วยอื่นๆ Li บอกด้วยว่า Sea กำลังก้าวเข้าสู่การพัฒนาในขั้นตอนต่อไปหลังจากที่เพิ่งผ่านพ้นวัยสตาร์ทอัพมาอย่างโชกโชน “เราไม่ได้เร่งมองหาของใหม่ ซึ่งต่างจากเมื่อ 6-7 ปีที่แล้วมาก ตอนนั้นเราต้องรีบแต่ในเวลานี้เราให้ความสำคัญกับธุรกิจทั้ง 3 สาย” อย่างไรก็ตาม Li บอกว่า เขาคอยสอดส่องหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอาหาร การเรียนรู้ผ่านอิเล็กทรอนิกส์ และการแพทย์ออนไลน์ ในระยะยาว Sea จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และจะเริ่มย้ายออกไปนอกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Li บอกว่า Garena มีคอเกมออนไลน์กว่าครึ่งหนึ่งอยู่นอกภูมิภาคนี้ ซึ่งก็รวมถึงอินเดีย อเมริกาใต้ตะวันออกกลาง และรัสเซีย “ถ้าเรามีโอกาสให้บริการแก่ผู้เล่นทั่วโลกได้มากกว่านี้ เราก็อยากทำ” อย่างไรก็ตามเขายืนยันว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะยังคงมีความสำคัญเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่าเขาอยากเปลี่ยนชื่อ Sea เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความทะเยอทะยานในระดับโลกหรือไม่ Li กล่าวพร้อมหัวเราะว่า “ตอนนี้เรายังไม่มีแผนครับ”
คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2563 ในรูปแบบ e-magazine