Mercari อี-คอมเมิร์ซ สัญชาติญี่ปุ่นได้รับอานิสงส์จากการอยู่บ้านของนักช็อป - Forbes Thailand

Mercari อี-คอมเมิร์ซ สัญชาติญี่ปุ่นได้รับอานิสงส์จากการอยู่บ้านของนักช็อป

FORBES THAILAND / ADMIN
16 Sep 2020 | 10:38 AM
READ 1418

การวิ่งไล่คว้าโอกาสเติบโตของเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซสัญชาติญี่ปุ่น Mercari กลับทำให้ทรัพย์สินสุทธิของ Shintaro Yamada ผู้ก่อตั้งลดลง 33% เหลือ 870 ล้านเหรียญ บริษัทนี้เป็นยูนิคอร์นแห่งแรกของญี่ปุ่นที่เปิดเสนอขายหุ้นไอพีโอและระดมทุนได้ 1.2 พันล้านเหรียญเมื่อปี 2018 แต่หลังจากนั้นแอปตลาดสินค้ามือสองของบริษัทก็ต้องดิ้นรนเพื่อเปลี่ยนความนิยมเป็นกำไรให้ได้

ตัวเลขขาดทุนจากการดำเนินงานของ Mercari ในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2019 เพิ่มเป็น 1.39 หมื่นล้านเยน (127 ล้านเหรียญ) จากที่เคยขาดทุน 3.7 พันล้านเยนในช่วงครึ่งหลังของปี 2018 แม้ยอดขายสุทธิจะเพิ่มขึ้นเกือบ 40% เป็น 3.3 หมื่นล้านเยน เนื่องจาก Mercari ขยายกิจการทั้งในบ้านและต่างประเทศ แต่โรคระบาดก็อาจช่วยเพิ่มยอดขายให้ Mercari ได้อย่างไม่คาดคิด  Tatsunori Kuniyoshi นักวิเคราะห์วิจัยจาก Euromonitor กล่าวว่า บรรดาบริษัทออนไลน์ของญี่ปุ่นมียอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงที่นักช็อปต้องอยู่บ้าน Shintoro Yamada วัย 42 ปี มหาเศรษฐีอันดับที่ 49 จากการจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีญี่ปุ่นประจำปี 2020 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินที่ 2 พันล้านเหรียญฯ  เขาเปิดตัวแอปนี้เมื่อปี 2013 ในฐานะตลาดสินค้ามือสอง และได้ส่วนแบ่งร้อยละ 10 จากทุกการซื้อขาย หลังจากนั้น 7 ปีต่อมา Mercari มีผู้ใช้งาน 15 ล้านคนต่อเดือน และประเมินว่า ตลาดออนไลน์ของตนเป็นตลาดแบบผู้บริโภคซื้อขายกันเองที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นเมื่อวัดจากยอดขายโดยในช่วงครึ่งหลังของปี 2019 มูลค่าการซื้อขายสินค้ารวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 เป็น 2.81 แสนล้านเยน แต่ความพยายามจะขยายกิจการข้ามประเทศกลับติดขัด Mercari กล่าวว่า เว็บไซต์ของบริษัทในสหรัฐฯ มียอดการซื้อขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 เป็น 2.6 หมื่นล้านเยนจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ตัวเลขก็ยังต่ำกว่าเป้าหมายอยู่มาก และคิดเป็นเพียงร้อยละ 8 จากยอดการซื้อขายรวม ส่วนเว็บไซต์ในสหราชอาณาจักรปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วหลังจากดิ้นรนดึงดูดผู้ใช้งานอยู่ 2 ปี Mercari ขยายเครือข่ายร้านค้าด้วยการให้ Merpay ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจด้านการจ่ายเงินของกลุ่ม (มีผู้ใช้งาน 5 ล้านคน) ควักเงินในจำนวนที่ไม่เปิดเผยเมื่อเดือนมกราคมเพื่อซื้อกิจการของคู่แข่งที่มีฐานอยู่ใน Tokyo อย่าง Origami และเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว Mercari จ่ายเงิน 1.6 พันล้านเยนซื้อหุ้นราว 62% ในทีมฟุตบอล Kashima Antlers ซึ่งยิงประตูได้มากที่สุดในญี่ปุ่น Antlers เป็นคู่แข่งในสนามกับทีม Vissel Kobe ที่มีเจ้าของทีมคือ เว็บไซต์ช็อปปิ้ง Rakuten ซึ่งเป็นคู่แข่งนอกสนามกับ Mercari --Jennifer Wells รายงาน  อ่านเพิ่มเติม: 6 วิธีคิดปลดล็อก PMO พาองค์กรสู่ Agile Transformation
ไม่พลาดข่าวและบทความทางเศรษฐกิจ ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine