Lawrence Ho เจ้าสัวเกาะฮ่องกง กับการเดินหมากธุรกิจครั้งใหญ่ - Forbes Thailand

Lawrence Ho เจ้าสัวเกาะฮ่องกง กับการเดินหมากธุรกิจครั้งใหญ่

FORBES THAILAND / ADMIN
16 Jun 2017 | 11:10 AM
READ 2029
เรื่อง: Muhammad Cohen  เรียบเรียง: เอมวลี อัศวเปรม เมื่อเอ่ยถึงความมั่งคั่งของ Lawrence Ho เขาหัวเราะเบาๆ  และกล่าวว่า “ทุกวินาทีมีแต่ร่อยหรอลง”มหาเศรษฐีพันล้าน ประธานร่วมและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Melco Crown Entertainment มองดูทรัพย์สินที่หายไปครึ่งหนึ่งในช่วงสองปีที่ผ่านมา ขณะที่รายได้จากการพนันใน Macau ดำดิ่ง Melco Crown และ Ho เอง ลองเสี่ยงดวงเล็กๆ น้อยๆ สร้างโครงการกาสิโนอื่นๆ ในภูมิภาค แต่เขาไม่ต้องเสี่ยงกับ Studio City โครงการแห่งใหม่มูลค่า 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งคลอดออกมาในจังหวะเวลาที่ดีกว่า และได้เปิดให้บริการไปเมื่อ 27 ตุลาคมปีที่แล้ว Ho พนันว่าเขาจะสามารถสร้างโมเดลธุรกิจขึ้นใหม่อีกครั้งในเมืองหลวงแห่งการพนันของโลกได้ดีเยี่ยมทัดเทียมกับที่ Stanley Ho พ่อผู้เป็นตำนานของเขาได้ทำไว้ตลอด 40 ปี ของการดำรงตำแหน่งราชากาสิโนแห่ง Macau ไม่มีเวลาไหนจะเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2014 เป็นต้นมา รายได้จากการพนันของ Macau ลดน้อยถอยลงทุกเดือน เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์มวลรวมของเขตบริหารพิเศษของจีนแห่งนี้ ดิ่งลงถึงราวร้อยละ 25 เศรษฐกิจที่หดตัวระดับนี้อาจมีเพียงเยเมนประเทศเดียวที่ย่ำแย่กว่า ยิ่งไปกว่านั้น Macau กำลังเผชิญกับยุคบูมของการก่อสร้างอาคารมูลค่ารวม 2.3 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งจะทำให้จำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 50 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 40,000 ห้อง Ho ตระหนักดีว่าเขากำลังนำพา Studio City เข้าสู่สิ่งที่เขาเรียกว่า “สิ่งแวดล้อมในการทำธุรกิจที่เลวร้าย โดย Macau กำลังต่อสู้กับช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างไม่เคยเจอมาก่อน” แต่คงไม่มีใครกล้าเดิมพันด้วยเงิน 3.2 พันล้านหากไม่มองโลกในแง่บวก “ถ้าคุณดูความเติบโตในเวลา 10 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่านี่เป็นการปรับฐานที่เหมาะสมแล้ว” เขากล่าวเพิ่มเติม Studio City ซึ่งตั้งอยู่สุดเขต Cotai Strip ทางทิศใต้ เป็นโอกาสให้ Ho ได้แสดงโมเดลธุรกิจใหม่สำหรับ Macau ที่แตกต่างจากที่ผ่านมาใน 2 ประเด็นหลัก คือ เขาทุ่มเงินหลายล้านเหรียญไปกับเครื่องเล่น รวมถึงการแสดงดนตรีและโชว์ต่างๆ แถมยังไม่มีการตั้งโต๊ะสำหรับบรรดาขาใหญ่ที่เรียกว่าแขก VIP “สิ่งที่ทำให้เราโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งคือความบันเทิงและจุดน่าสนใจของเรา” Studio City ซึ่งตกแต่งด้วยธีมภาพยนตร์ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือ Golden Reel ชิงช้าสวรรค์รูปเลข 8 ที่สูงที่สุดในโลก Ho กำลังเดินรอยตามแผนระยะยาว 5 ปีของรัฐบาลจีน ซึ่งก็คือการทำให้ Macau เป็น “ศูนย์กลางการท่องเที่ยวและสันทนาการของโลก” รัฐบาล Macau กำลังจัดสรรโต๊ะพนันใหม่ โดยให้ผู้ประกอบการบ่อนกาสิโนกำหนดให้มีจุดสนใจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพนัน เพียงอย่างเดียว แต่ธุรกิจที่ไม่ใช่การพนันทำรายได้เพียงร้อยละ 10 ของรายได้รวมของกาสิโนใน Macau หากเทียบกับร้อยละ 65 ของกาสิโนใน Las Vegas ขณะเดียวกันก็เกิดคำถามที่ว่า นักท่องเที่ยวอยากจะเสียเวลาและเงินไปกับกิจกรรมนอกโต๊ะมากแค่ไหน Ho ชาวฮ่องกง วัย 38 ปี เป็นลูกชายคนโตสุดที่ยังมีชีวิตอยู่ของชายผู้สร้างสนามบินนานาชาติ Macauผู้นำเรือไฮโดรฟอยล์มาใช้แทนที่เรือกลไฟที่ย่นเวลาเดินทางจากฮ่องกงจากเดิม ทั้งคืนเหลือเพียง 1 ชั่วโมง และยังเป็นผู้กุมบังเหียนโรงแรม Lisboa อันลือชื่อตลอดเวลา 4 ทศวรรษ Ho ใช้ชีวิตวัยเด็กใน Toronto ทำงานด้านวาณิชธนกิจจนกระทั่ง Stanley ซึ่งบัดนี้มีอายุ 94 ปี และวางมือจากธุรกิจหลังประสบอุบัติเหตุหกล้มที่บ้านเมื่อปี 2009 เกลี้ยกล่อมเขาให้เข้าสู่ธุรกิจกาสิโน ก่อนอายุ 30 เขาเปิด Mocha Clubs เชนร้านสล็อต แมชชีนในสไตล์คาเฟ่ ในช่วงเวลาที่ตู้สล็อตแมชชีนใน Macau ยังเป็นเพียงความบันเทิงไกลตัว ต่อมาเขาจับมือกับ Crown Resorts ของ Packer ก่อตั้ง Melco Crown ซึ่งเข้าซื้อสัมปทานย่อยกิจการบ่อนกาสิโนสุดท้ายของ Macau อีกหนึ่งธุรกิจของ Ho ซึ่ง Melco Crown ได้ดำเนินธุรกิจ City of Dreams มูลค่า 1.6 พันล้านเหรียญใน Manila
คลิ๊กอ่าน "Lawrence Ho เจ้าสัวเกาะฮ่องกง กับการเดินหมากธุรกิจครั้งใหญ่" ฉบับเต็ม ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ MARCH 2016 ได้ในรูปแบบ E-Magazine