Hui Ka Yan เสนอแผนนำ Evergrande รุกธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ท่ามกลางข้อกังขาจากนักวิเคราะห์ - Forbes Thailand

Hui Ka Yan เสนอแผนนำ Evergrande รุกธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ท่ามกลางข้อกังขาจากนักวิเคราะห์

FORBES THAILAND / ADMIN
27 Oct 2021 | 06:30 PM
READ 3507

Hui Ka Yan เผยแผนการที่จะนำ China Evergrande เปลี่ยนผ่านจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สู่ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า

Hui Ka Yan
Hui Ka Yan ผู้ก่อตั้ง China Evergrande Group
Securities Times รายงานโดยอ้างอิงถึงการประชุม ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมว่า เป้าหมายของ Hui  คือ การหันหลังให้กับธุรกิจหลักของ Evergrande และก้าวขึ้นเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในทศวรรษหน้า แม้ว่าจะไม่เคยมีประสบการณ์ในด้านนี้มาก่อนเลย ข้อเสนอดังกล่าวได้ส่งผลให้หุ้นของ China Evergrande New Energy Vehicle Group ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 17 ก่อนปิดตลาดในวันจันทร์ หลังจากที่ร่วงลงมามากถึงร้อยละ 94 นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคงแสดงความสงสัย ถึงความไม่ชัดเจนว่า Evergrande ซึ่งขณะนี้ใกล้จะพังทลายลงเพราะหนี้สินมูลค่า 3.05 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ จะมีความเชี่ยวชาญหรือมีทุนที่จะแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของจีนหรือไม่ “Evergrande เคยมีกลยุทธ์ในการซื้อ ซื้อ และซื้อ” John Zeng ผู้อำนวยการบริษัทที่ปรึกษา LMC Automotive ของจีนกล่าว โดยอ้างถึงการเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าก่อนหน้านี้ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ “แนวทางปฏิบัตินั้นเรียบง่ายและไม่ได้ลึกซึ้ง จึงไม่มีใครรู้จริงๆ ว่าพวกเขามีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีนี้มากแค่ไหน ” ปัจจุบัน Hui มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.16 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเงินปันผลที่ได้รับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และในฐานะอดีตพนักงานโรงงานเหล็กที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามาก่อน แต่เขาก็เขาได้รวบรวมเงินมากกว่า 1 พันล้านเหรียญเพื่อเข้าซื้อกิจการ National Electric Vehicle Sweden AB (NEVS) และซื้อหุ้นในบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ Shanghai CENAT New Energy  และล่าสุดได้มีการเผยแพร่ข้อมูลบนเว็บไซต์ Evergrande เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมว่า Hengchi รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท จะถูกส่งมอบจากโรงงานใน Tianjin ช่วงต้นปีหน้า ทว่าหน่วยงานด้านยานยนต์ไฟฟ้าของบริษัทได้ออกรายงานในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนว่า กำลังเผชิญกับ "การขาดแคลนเงินทุนอย่างร้ายแรง" ในเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 24 กันยายน เนื่องจาก “ระงับการจ่ายค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานบางส่วนและซัพพลายเออร์บางรายระงับการดำเนินโครงการ" ด้วยเหตุนี้ แม้ว่า Hui จะสามารถเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ แต่ยุทธวิธีที่เขาจะขายนั้นจะเป็นอีกคำถามหนึ่งที่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน “การสร้างช่องทางการขายตั้งแต่ต้นนั้นต้องใช้เงินทุนสูงมาก และ Evergrande ก็ดูเหมือนจะไม่มีช่องทางเป็นของตัวเอง” Yale Zhang กรรมการผู้จัดการของ Automotive Foresight บริษัทที่ปรึกษาในเซี่ยงไฮ้กล่าว “นอกจากนี้ โมเดลของรถในปัจจุบันยังค่อนข้างห่างไกลจากการผลิตและการขายจำนวนมาก” ด้าน Justin Tang หัวหน้าฝ่าย Asian Research ของบริษัทที่ปรึกษาและการลงทุนในนิวยอร์ก United First Partners มองว่า มหาเศรษฐีอาจแค่พยายามเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุน เพราะ Hui ยังให้คำมั่นในการประชุมเดียวกันว่าจะส่งมอบอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่เสร็จของ Evergrande ให้กับผู้ซื้อบ้าน โดยกล่าวว่าบริษัท “โดยหลักการแล้ว” จะไม่ซื้อที่ดินในช่วง 10 ปีข้างหน้า และจะลดขนาดของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ลง นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดเผยผ่านทาง WeChat ว่า โครงการอสังหาริมทรัพย์ 40 โครงการในสถานที่ต่างๆ รวมถึง Guangzhou และ Foshan กำลังดำเนินไปอย่าง “ราบรื่น” ท่ามกลางกำหนดชำระดอกเบี้ยและพันธบัตรมูลค่า 3.5 พันล้านเหรียญที่จะมาถึงในเดือนมีนาคม  “Evergrande จะหาเงินมาจากไหน” Tang ถาม พร้อมเสริมว่า แผนในการเดินหน้าสู่ธุรกิจยานยนต์ได้สร้าง “คำถามมากมาย แต่กลับไม่มีคำตอบที่แท้จริง” แปลและเรียบเรียงจากบทความ Evergrande’s Proposed Shift From Real Estate To Electric Vehicles Fails To Convince โดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค เผยแพร่บน Forbes.com อ่านเพิ่มเติม: Hui Ka Yan จากบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชียสู่การล่มสลายของ Evergrande