บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) 1 ใน 6 ธุรกิจไทยที่ติดทำเนียบ “Best Under a Billion”หรือ 200 สุดยอดบริษัทแห่งเอเชียแปซิฟิกที่มียอดขายระหว่าง 5 ล้านถึง 1 พันล้านเหรียญ จากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes Asia เมื่อกรกฎาคม 2558
“ช่วงเริ่มก่อตั้งธุรกิจ ผมและภรรยาไม่มีความรู้เรื่องการทำธุรกิจค้าปลีกหรือเครื่องสำอางเลย แต่ผมชอบเรื่องการดีไซน์ เวลาไปต่างประเทศชอบซื้อเครื่องสำอางที่มีแพ็กเกจสวยและคุณสมบัติดีมาฝากภรรยา บวกกับวิชาแพทย์ที่สอนการวินิจฉัยโรค ซึ่งสามารถประยุกต์เข้ากับหลักการตลาด ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค ขณะที่ภรรยาช่วยในด้านการเป็นตัวแทนความต้องการของลูกค้าผู้หญิง เพราะรู้ว่าผู้หญิงชอบอะไรและใช้อะไร” สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) เล่าถึงวันที่เปลี่ยนเส้นทางเดินจากนายแพทย์รักษาโรคทั่วไปในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพื่อเข้าสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความสวยงาม โดยมี ธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ ภรรยาคู่ชีวิตและคู่คิดในการทำงานร่วมปั้นธุรกิจเติมเต็มความต้องการด้านความงามของผู้หญิง ช่วงเวลาแห่งการลองผิดลองถูกได้เริ่มต้นขึ้นในปี 2541 จากการนำเข้าเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวหน้าอย่างเต็มรูปแบบ ก่อนเกิดเกิดความเปลี่ยนแปลงเมื่อปี 2549 ในขณะที่บริษัทเติบโตมากกว่า 20 สาขา และแนวโน้มเครื่องสำอางแบรนด์เกาหลีที่เพิ่มความนิยมในประเทศ การปรับกระบวนทัพจึงเกิดขึ้น บิวตี้ บุฟเฟต์ (Beauty Buffet) เกิดจากการค้นคว้าหาหลักการของความสำเร็จผ่านตำราทางวิชาการ และประสบการณ์ที่เห็นจากกรณีศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ สู่การตกตะกอนทางความคิดเป็นปรัชญาองค์กรที่ยึดมั่นถึงปัจจุบัน ได้แก่ “Creative Dynamic และ Sustainable” เป็นกุญแจความสำเร็จเช่นเดียวกับการวางรูปแบบร้านที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลายมุ่งเน้นการตกแต่งสีสันโดดเด่นและให้บริการเป็นการเอง โดยหน้าร้านจะมีหุ่นพ่อครัวตั้งอยู่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อดึงดูดลูกค้า ล่าสุด บิวตี้ มาร์เก็ต (Beauty Market) เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่ได้รับการเปิดตัวในปี 2556 ด้วยสโลแกนประจำร้านว่า “BEAUTY Convenience Store” ซึ่งผสมผสานระหว่างคอนเซปต์ร้านสะดวกซื้อ และร้านเครื่องสำอาง ภายในพื้นที่ขนาดตั้งแต่ 100 ตร.ม. ขึ้นไป โดยเป็นร้าน multi-brands มีแบรนด์สินค้าหลากหลาย ทั้งแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศ พร้อมแบรนด์ทางเลือก ซึ่งมีขายเฉพาะที่ Beauty Market รวมกว่า 300 แบรนด์ ตั้งแต่ 4,000 – 9,000 รายการ เพื่อขยายฐานลูกค้า โอกาสทองใน CLMV จากความมุ่งมั่นในปรัชญาองค์กร ได้แก่ สร้างสรรค์ เปลี่ยนแปลง และยั่งยืน ภายใต้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับความนิยมในต่างประเทศ เช่นเดียวกับในยุคที่ประเทศไทยนิยมเครื่องสำอางแบรนด์เกาหลีหรือญี่ปุ่น “นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวเมืองไทยลองใช้ ติดใจ และเขียนรีวิวในบล็อกแนะนำสินค้าเรา ทำให้คนรู้จักสินค้าเรามากขึ้น เช่น ไต้หวัน หรือ Baidu ในจีน ถ้าลอง search จะพบสินค้าของเราจำนวนมาก หรือนักท่องเที่ยวจีนยืนเปิดมือถือถามว่าต้องการสินค้าชิ้นไหน” ปัจจุบันผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ สามารถเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัว ด้วยจำนวนรายได้รวมในปี 2557 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 38.93% จากช่วงเดียวกันของปี 2556 ที่มีรายได้ 997.11 ล้านบาทเป็น 1,385.27 ล้านบาท และกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่ม 45.51% เป็น 301.16 ล้านบาท โดยสามารถจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 0.99 บาทต่อหุ้นในปีที่ผ่านมา สำหรับเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจปี 2558 สุวิน คาดการณ์รายได้รวมที่ 1,700 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 20% จากปี 2557 ที่สามารถทำรายได้ไว้ 1,385.27 ล้านบาท พร้อมคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตตามรายได้ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรักษาอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่า 20% “ตั้งแต่วันที่เริ่มทำจนถึงวันที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ที่มีจำนวน 100 สาขา ผมไม่เคยวาดฝันไว้ว่าจะเติบโตถึงขนาดไหน ผมทำธุรกิจ ผมไม่เคยตั้งเป้าหมายว่า ต้องติดอันดับ Forbes ต้องอยู่ใน SET100 ซึ่งปัจจุบันเราทำได้แล้ว ผมแค่คิดว่า ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนผลของมันออกมาจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่เป้าหมาย” สุวิน กล่าวปิดท้ายในฐานะซีอีโอของบริษัทที่ติดลิสต์ Best Under a Billionคลิ๊กอ่าน "Beauty Community ตอบโจทย์สาวงามมีสไตล์" ฉบับเต็ม ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ SEPTEMBER 2015 ในรูปแบบ E-Magazine