3.TSAI HONG-TU และ CHENG-TA
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 7.1 พันล้านเหรียญ cathay financial อุตสาหกรรมการเงิน
เหล่าพี่น้องตระกูล Tsai ทั้ง Hong-tu and Cheng-ta เเละ Cheng-Chiu นำทีมบริหารกิจการของ Cathay Financial Holding บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินที่มีความมั่งคั่งมหาศาล โดยครอบครัวนี้ยังลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ในชื่อ Cathay Real Estate ที่ขยายครอบคลุมไปถึงธุรกิจโรงเเรมชั้นนำ ซึ่งผู้เป็นพ่ออย่าง Tsai Wan-lin บุคคลที่เคยนั่งเเท่นผู้ร่ำรวยที่สุดในไต้หวันได้ก่อตั้งขึ้น โดยเขาได้เสียชีวิตเมื่อปี 2004 เเละลูกหลานขึ้นมาดำเนินกิจการต่อ
4. DANIEL และ RICHARD TSAI มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 5.7 หมื่นล้านเหรียญ fubon financial อุตสาหกรรมการเงิน ทั้งสองเคยครองตำเเหน่งผู้ร่ำรวยที่สุดในไต้หวันมาเเล้ว เมื่อปี 2017 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ กว่า 1 หมื่นล้านเหรียญ เเต่ปีนี้ร่วงมาอยู่ที่ 4 อีกทั้งทรัพย์สินยังลดลงอย่างมาก โดยสองพี่น้อง Daniel เเละ Richard ดำเนินกิจการ Fubon Financial ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวันมีมูลค่าตลาดรวม 1.7 หมื่นล้านเหรียญ เเละครอบครัวนี้ยังเป็นผู้ลงทุนใน Taiwan Mobile เเละ momo.com เว็บช้อปปิ้งชั้นนำ ทั้งนี้ Tsai Wan-tsai ผู้เป็นพ่อที่ก่อตั้ง Fubon Financial จากไปในวัย 84 ปี เมื่อปี 2014 5. TSAI ENG-MENG อายุ: 61 ปี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 5.6 พันล้านเหรียญ want want china อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เมื่อเขาอยู่ในวัย 19 ปี Tsai ได้เข้ามาเทคโอเวอร์กิจการธุรกิจอาหารเเละเครื่องดื่มของบิดา เเละไม่นานเขาก็ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขึ้นมา เเละโด่งดังจากขนมเเครกเกอร์ที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า นอกจากธุรกิจด้านอาหาร มหาเศรษฐีผู้นี้ยังลงทุนในกิจการโรงเเรม บริษัทการเงินเเละธุรกิจสื่อสารมวลชนอย่างหนังสือพิมพ์ China Times เเละกิจการสื่อโทรทัศน์ของบริษัท China Television Co. โดยเขาได้ส่งลูกชายอย่าง Kevin เเละ Wang-Chia พร้อมด้วยหลานชาย Cheng Wen-Hsien ร่วมนั่งบอร์ดบริหารของ want want china เพื่อวางเเผนสืบทอดกิจการในอนาคต 6. LIN SHU-HONG อายุ: 90 ปี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3.9 พันล้านเหรียญ Chang Chun Group อุตสาหกรรมปิโตรเคมี Lin Shu-Hong นั่งตำเเหน่งประธานของ Chang Chun Group หนึ่งในบริษัทปิโตรเคมีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยมีโรงงานในไต้หวัน จีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขาทำงานตลอดชีวิตก่อนก้าวลงจากตำเเหน่งเมื่อปลายปี 2013 เขาเริ่มก่อตั้งธุรกิจด้วยเงินเพียง 100 เหรียญ โดยร่วมกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน 2 คนคือ Tseng Shin-yi เเละ M.K. Liao เเละตอนนี้เขาเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยวัย 90 ปี สำหรับชื่อของบริษัทว่า "Chang Chun" นั้นในภาษาจีนมีความหมายว่าฤดูใบไม้ผลิที่ยาวนาน สะท้อนให้เห็นความอดทนต่อความยากลำบากเเละมิตรภาพที่ยั่งยืนของพวกเขาทั้งสามคน 7. BARRY LAM อายุ: 69 ปี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3.6 พันล้านเหรียญ Quanta computer ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ Barry Lam ดำรงตำเเหน่งเป็นประธานของบริษัท Quanta Computer หนึ่งในผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊คเเละอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก เเละยังเป็นผู้ผลิต Apple Watch อีกด้วย โดยเขาเป็นชาวเซี่ยงไฮ้โดยกำเนิด จากนั้นย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ฮ่องกง ภายหลังการปฏิวัติของจีน ในปี 1949 ต่อมาเขาได้ย้ายมาศึกษาเล่าเรียนเเละสร้างบ้านในไต้หวัน โดยเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จ มาจากการเริ่มทำธุรกิจด้วยตนเอง 8. JASON และ RICHARD CHANG มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 3.2 พันล้านเหรียญ Ase บริษัทบรรจุภัณฑ์ อสังหาริมทรัพย์เเละเทคโนโลยี Jason นั่งตำเเหน่งประธานบริษัท ส่วน Richard เป็นรองประธานของ ASE บริษัทบรรจุภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก สองพี่น้องย้ายถิ่นฐานมายังไต้หวัน หลังการปฏิวัติของจีน ในปี 1949 โดยครอบครัวของเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก่อนจะผันเส้นทางมารุ่งเรืองด้านเทคโนโลยี โดย Jason เเละ Richard ยังดำเนินกิจการผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Sino Horizon Holdings บริษัทที่จดทะเบียนในไต้หวันเเต่มีสินทรัพย์อยู่ที่จีนเเผ่นดินใหญ่ 9.PIERRE CHEN มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 3.1 พันล้านเหรียญ Yageo ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ Chen เป็นประธานบริษัท Yageo ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นส่วนประกอบของโทรศัพท์มือถือไปจนถึงเเท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเเละรถยนต์ เขาเริ่มก่อตั้ง Yageo ในปี 1977 เเละนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นอีก 16 ปีต่อมา โดย Chen วัย 62ปี มีบ้านหลังใหญ่โต ตั้งอยู่บนภูเขาที่มองเห็นทิวทัศน์ทั้งหมดของกรุงไทเป เเละเป็นนักสะสมงานศิลปะตัวยง เขาครอบครองผลงานของศิลปินชื่อดังอย่าง Gerhard Richter, Mark Rothko, Andy Warhol เเละ Francis Bacon 10. LUO JYE อายุ: 92 ปี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2.9 พันล้านเหรียญ CST ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ Luo เป็นผู้ก่อตั้ง Cheng Shin Rubber ในปี 1967 จากผู้จัดจำหน่ายยางรถยนต์ให้กับอุตสาหกรรมจักรยานในไต้หวัน โดยทุกวันนี้บริษัทเป็นที่รู้จักในนาม CST ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของ Lo Tsai-Jen ลูกชายของเขา สำหรับ CST เป็นผู้ผลิตยางเเละยางในของทุกยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นจักรยาน , จักรยานยนต์, รถยนต์, รถยกรวมไปถึงเครื่องจักรในสนามหญ้า