โลจิสติกส์สัญชาติไทยจัดกระบวนทัพ 24 บริษัท ชูเครือข่ายการขนส่งสินค้าครอบคลุมทางอากาศและทางทะเลทั่วโลกพร้อมสร้างชื่อทริพเพิล ไอ เดินหน้าขึ้นแท่นผู้นำในอาเซียน
เมื่อความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมได้แปรเปลี่ยนเป็นเข็มทิศนำนาวาธุรกิจข้ามน่านน้ำในระดับภูมิภาคพร้อมขยายพรมแดนเชื่อมขอบฟ้าสู่ผู้ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งทางอากาศและทางทะเลที่มีเครือข่ายทั่วโลก และให้บริการครอบคลุมทั้งการนำเข้าและส่งออกอย่างครบวงจร ทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัททริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ในวัย 50 ปี เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานด้านโลจิสติกส์กับบริษัทขนส่งทางเรือเพียง 3 ปี ชักชวนเพื่อนร่วมก่อตั้งบริษัทประกอบธุรกิจรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งสามารถทำกำไรได้ตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจในปี 2534 “ในช่วง 3 ปีมีคนชวนไปทำงานสายเรือขนาดใหญ่และมีชื่อเสียง แต่ผมต้องการเรียนรู้การทำงานที่เริ่มต้นจากศูนย์และค่อยๆ สร้างขึ้นมามากกว่า ซึ่งตำแหน่ง Sales Manager ทำให้ผมได้ใช้ทักษะการขาย การสร้างสายสัมพันธ์ ความเข้าใจด้านระบบปฏิบัติการและการบริการ โดยลูกค้าเลือกเราเพราะความเชื่อถือ เราตามติดปัญหาและไม่ทอดทิ้งลูกค้า” หลังจากธุรกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไต่ระดับความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทิพย์และหุ้นส่วนจึงขยายธุรกิจสู่การเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าสายการเดินเรือภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ลีโอ มาริไทม์ เอเยนซีส์ จำกัด ในปี 2539 และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ทริพเพิล ไอ มาริไทม์ เอเยนซีส์ จำกัด เพื่อดำเนินการเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าสายการเดินเรือ PDZ ของบริษัท Perkapalan Dai Zhun Sdn Bhd (บริษัทย่อยของ PDZ Holdings Bhd ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย) นอกจากนั้น บริษัทยังต่อยอดการให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลแบบไม่เต็มตู้ (LCL - Less than Container Load) ร่วมกับบริษัท ECU HOLD NV จำกัด ซึ่งมีเครือข่ายตัวแทนและสำนักงานในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก และจัดตั้งบริษัทให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรสำหรับสินค้าเคมีและสินค้าอันตรายในปี 2547 ภายใต้บริษัท เคมโปร โลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ฮาซเคม โลจิสติกส์ แมเนจเมนท์ จำกัด ท่ามกลางความสำเร็จของบริษัทที่แผ่ขยายอาณาจักรธุรกิจอย่างครอบคลุมบนผืนน้ำ ทิพย์สนใจโอกาสการเชื่อมพรมแดนของแผ่นฟ้า ด้วยวิสัยทัศน์ที่เล็งเห็นแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศทำให้บริษัท ลีโอ แอร์ เอ็กซ์เพรส จำกัด (เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ทริพเพิล ไอ แอร์ เอ็กซ์เพรส จำกัด) ได้รับการจัดตั้งขึ้นในปี 2550 เพื่อให้บริการการขนส่งสินค้าทางอากาศ และก่อตั้งบริษัท จีเอสเอ เอเชีย คาร์โก จำกัด (เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ทริพเพิล ไอ เอเชีย คาร์โก จำกัด) ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน (Cargo GSA – General Sales Agent) ในปี 2551 รีแบรนด์สู่ทริพเพิล ไอ แม้บริษัทจะสามารถสร้างการเติบโตและขยายอาณาจักรทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องแต่ทิพย์เล็งเห็นความสำคัญและจำเป็นในการปรับโครงสร้างและรีแบรนด์ภาพลักษณ์ขององค์กรให้มีความชัดเจน เพื่อความพร้อมให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งทางทะเล ทางอากาศ และทางบก รวมถึงบริการที่เกี่ยวเนื่องอย่างครบวงจรในปี 2551 ก่อน นำ บริษัททริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อ 1 กันยายน 2560 “เราให้คนในบริษัทระดมสมองร่วมกันคิดเกี่ยวกับปัจจัยความสำเร็จของธุรกิจโลจิสติกส์ซึ่งประกอบด้วย Integration, Innovation และ Intimacy รวมเป็น Triple i โดยวาง vision mission และ core value ใหม่ทั้งหมด โดยสื่อสารให้พนักงานเข้าใจถึงที่มาที่ไปและความหมายของแต่ละคำ” หลังจากรีแบรนด์ชื่อทริพเพิล ไอ บริษัทได้ขยายการบริการด้านโลจิสติกส์ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนบริหารวัตถุดิบและสินค้าบริการจัดเก็บสินค้า บริหารคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า การกระจายสินค้าและการขนส่ง การบรรจุภัณฑ์และฉลากสินค้าและพิธีการศุลกากร โดยให้บริการทั้งกลุ่มสินค้าทั่วไป ไปรษณียภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ สินค้าอันตราย ตลอดจนสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ให้แก่ลูกค้าผู้ส่งออก (exporter) ผู้นำเข้า (importer) รวมถึงลูกค้ากลุ่มผู้ให้บริการรับขนส่งสินค้า (freight forwarder และ cargo agents) โดยแบ่งโครงสร้างธุรกิจ 4 กลุ่ม ซึ่งมีบริษัทย่อย บริษัทร่วมค้า และบริษัทร่วมทุน รวม 24 บริษัท โดยกลุ่มหลักได้แก่ ธุรกิจส่งสินค้าทางอากาศ การจัดส่งสินค้าทางทะเลและทางบก การบริหารจัดการโลจิสติกส์ เคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยรายได้รวมเติบโตเฉลี่ยปีละ 35% คิดเป็น 2.08 พันล้านบาทในปี 2559 จากรายได้รวม 1.54 พันล้านบาทในปี 2558 ส่วนกำไรสุทธิเติบโตในอัตรา 245% เป็น 94.5 ล้านบาท ในปี 2559 โดยรายได้รวมครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1.09 พันล้านบาทหรือเติบโตขึ้น 10% จากรายได้รวม 985 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อนและกำไรสุทธิ 82 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ หรือเติบโตขึ้น 64% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 50 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน “พอร์ตรายได้สูงสุดของเรามาจากขนส่งทางอากาศ รองลงมาเป็นโลจิสติกส์สินค้าอันตราย ส่วนที่เหลือใกล้เคียงกันระหว่างขนส่งทางเรือและบริหารจัดการโลจิสติกส์ซึ่งในอนาคตเราเชื่อมั่นว่า ทั้ง 4 บียูจะสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยพยายามปรับฐานไม่ให้สัดส่วนรายได้ขนส่งทางเรือและบริหารจัดการโลจิสติกส์มีช่องว่างมากเกินไป” สำหรับหลักสำคัญในการบริหารบุคลากรอยู่ที่การเปิดโอกาสให้ทีมงานได้แสดงความคิดเห็น และเติบโตในการทำงาน โดยมุ่งการต่อยอดทางความคิดและการสร้างองค์ความรู้ ทั้งเรียนรู้จากการทำงานและการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มความชำนาญและความเชี่ยวชาญในงานมากยิ่งขึ้น ทิพย์ปิดท้ายถึงเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่วางไว้ 3 ปี ด้วยการเติบโตเฉลี่ย 15-20% ต่อปี พร้อมเดินหน้าตามวิสัยทัศน์การเป็นบริษัทชั้นนำของไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาค โดยสามารถขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง “ในภาพรวมเราต้องการเป็นบริษัทชั้นนำแต่สิ่งที่เรามุ่งมั่น คือ การดูแลผู้เกี่ยวข้องทุกคน รวมถึงบุคลากรของเราให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเราพยายามดูแลคุณภาพชีวิตควบคู่กับการปรับปรุงคุณภาพการทำงานให้ดีขึ้น” ภาพ: กิตติเดช เจริญพรคลิกเพื่ออ่าน "ทริพเพิล ไอ ปรับทิศ ขับเคลื่อนโลจิสติกส์ครบวงจร" ฉบับเต็ม จาก Forbes Thailand เดือนพฤศจิกายน 2560 ในรูปแบบ e-Magazine