Melinda Gates กำลังใช้อิทธิพลกดดันองค์กรการกุศลที่รวยที่สุดในประวัติศาสตร์ การทำเช่นนี้ ทำให้เธอขึ้นแท่นเป็นผู้ทำงานด้านสตรีและเด็กหญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกอย่างรวดเร็ว
Angela Merkel นายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนี เชื้อเชิญกลุ่มผู้นำสตรีระดับแนวหน้าของโลกมายังการประชุมกลุ่มประเทศ G7 ที่ทำเนียบนายกฯ อันโอ่โถงเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา อาทิ ทั้ง Margaret Chan ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก Mary Barra CEO ของ General Motors แม้แต่ราชินี Raniaแห่งจอร์แดนก็ยังมาร่วมการประชุมครั้งนี้ ในบรรดาแขก 24 คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกลมนั้น ผู้ที่นั่งตรงข้ามกับ Merkel คือ Melinda Gates อดีตผู้จัดการที่ Microsoft ซึ่งผันตัวเองมาเป็นนักกิจกรรมการกุศล หลังจากที่ Merkel ขอบคุณแขกเหรื่อและรับฟังรายงาน Gates ในชุดสีน้ำเงินเข้มและแว่นสายตา ขึ้นเวทีเป็นคนแรกเพื่อกล่าวสุนทรพจน์ความยาว 4 นาทีที่กระชับและจับใจ “เมื่อสตรีได้ดำรงบทบาทผู้นำ เราสร้างความแตกต่าง” Gates กล่าว “เราต้องกล้าให้เสียงของเราเป็นที่รับรู้ เราต้องกล้าที่จะลงทุน เป็นการลงทุนที่มากมายมหาศาลเพื่อผู้หญิงและเด็กหญิง” เมื่ออยู่ท่ามกลางผู้นำโลก Gates ทำเช่นนั้นได้โดยไม่ต้องให้ใครช่วย นายกรัฐมนตรีมีรัฐสภา CEO มีคณะกรรมการบริหาร ส่วน Melinda Gates มีกองทุนมูลค่า 4.13 หมื่นล้านเหรียญ และเธอสามารถนำมาใช้ได้อย่างที่เธอและ Bill บุคคลที่รวยที่สุดในโลกผู้เป็นสามี เห็นสมควร นี่คือความเปลี่ยนแปลงส่วนตัวของเขา ในช่วง 15 ปีแรก มูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation ทุ่มเทสรรพกำลังมหาศาลเพื่อกำจัดโรคโปลิโอและมาลาเรีย ตลอดจนทดลองในประเด็นการศึกษา แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา Melinda Gates ยอมให้ชื่อของเธออยู่บนหัวจดหมายของมูลนิธิที่ใหญ่ที่สุดในโลก และอิทธิพลต่างๆ ที่ตามมาเป็นแพกเกจ เธอได้กลายเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเป้าหมายหนึ่งเดียวของเธอคือเด็กหญิงและสตรี ในจำนวนประชากรที่ยากจนที่สุดในโลก มีถึง 6 ใน 10 ที่เป็นผู้หญิง และ 2 ใน 3 ของจำนวนนี้อ่านหนังสือไม่ออก กองทุนการเงินระหว่างประเทศใช้คำพูดว่า “อัตราการตายของผู้หญิงสูงเกินควรในประเทศกำลังพัฒนา” นั่นหมายความว่า ทุกๆ ปี มีผู้หญิงและเด็กหญิง “สูญหาย” ราว 3.9 ล้านคน ในจำนวนนี้ 2 ใน 5 ไม่มีโอกาสลืมตาดูโลก 1 ใน 6 เสียชีวิตในวัยเด็ก และกว่า 1 ใน 3 เสียชีวิตขณะเป็นวัยรุ่น “ปัญหาเร่งด่วนที่สุดในยุคของเราคืออะไร” Gates ตั้งคำถาม “มันคือการกำจัดความยากจนไปจากโลกของเรา เรารู้ว่าการจะทำเช่นนั้นได้ เราต้องพุ่งเป้าไปที่ปัญหาสตรีและเด็กผู้หญิง” ความยากจนเป็นเรื่องการกีดกันทางเพศ และ Gates กำลังเดิมพันด้วยเงินหลายพันล้าน ว่ามันจะยุติได้ด้วยการแก้ปัญหาเรื่องเพศสภาพที่เคยถูกละเลยตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา Melinda French Gates เกิดและเติบโตที่เมือง Dallas เธอ บอกลาโรงเรียนคาทอลิกหญิงล้วน ก่อนจะไปคว้าปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ [2] และเศรษฐศาสตร์ และ MBA จากมหาวิทยาลัย Duke เธอตั้งใจเรียนจบเร็วกว่าปกติ 1 ปี เพื่อจะได้เริ่มทำงานเร็วขึ้น “เธอรู้ตัวเสมอว่าตัวเองต้องการอะไร”Susan French พี่สาวของเธอบอก ปี 1987 เธอทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ Microsoft ที่นั่น ผู้ก่อตั้ง Microsoft อาศัยจังหวะในที่จอดรถบริษัท ชวนเธอออกเดทจนเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่ว ทั้งคู่เป็นแฟนกัน 7 ปี ก่อนจะแต่งงานกันในปี 1994 ในปี 1996 Gates ซึ่งขณะนั้นรับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปที่ Microsoft ตั้งท้องลูกคนแรกของพวกเขาโดยให้ชื่อว่า Jennifer และเลือกที่จะพักจากงานมาอยู่บ้าน “เธอเป็นคนตัดสินใจเองครับ” Bill Gates เผย “ผมก็แปลกใจนะ แต่เธอคงเห็นว่าเหมาะสมแล้ว แล้วเราก็มีลูกคนที่สอง แล้วก็คนที่สาม” ล่วงไปสองทศวรรษ เมื่อลูกๆ ของเธอไม่ต้องพึ่งพาแม่แล้ว Gates เองก็ไม่ต่างจากแม่คนอื่นๆ ที่ต้องเผชิญกับช่วงเวลาแห่งการค้นหาความหมายของชีวิต และถามตัวเองว่า แล้วยังไงต่อ? เธอเริ่มไปคลุกคลีกับงานที่มูลนิธิ Gates Foundation ซึ่งมุ่งทำงานด้านสาธารณสุขและการพัฒนา และสามารถสร้างความคืบหน้าไปมากในการกำจัดโรคโปลิโอ มาลาเรีย และ HIV ตลอดจนส่งเสริมการฉีดวัคซีนและสุขอนามัย ตลอดหลายปีที่แม้จะทำงานที่มูลนิธิ เธอปกป้องความเป็นส่วนตัวเสมอ แต่ท้ายที่สุด เธอก็ตัดสินใจว่าการทำงานการกุศลนั้นจำเป็นต้องออกหน้าออกตา “ฉันสอนลูกๆ ว่าเราต้องรู้จักแสดงจุดยืนของเราในโลกใบนี้ และมันก็ชัดเจนว่าฉันต้องทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง” ครั้งหนึ่งเมื่อสามปีก่อน เธอจึงไปร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในงาน TedX Talk ที่เยอรมนี ในเรื่องการวางแผนครอบครัวและการเข้าถึงการคุมกำเนิดอย่างทั่วถึง ในอีกสามเดือนต่อมา เธอเพิ่มเงินช่วยเหลือเป็น 2 เท่า จากยอดเดิม 70 ล้านเหรียญ ที่ตกลงจะให้ตั้งแต่แรก และก็เพิ่งประกาศเพิ่มวงเงินอีก 120 ล้านเหรียญ และ Melinda ก็ได้เป็นจุดสนใจจริงๆ หนังสือพิมพ์ประจำสำนักงาน Vatican ภายใต้การนำของพระสันตะปาปา Benedict ที่ 16 ตีพิมพ์พาดหัวว่า “การคุมกำเนิดกับข้อมูลที่ผิดพลาด: ความเสี่ยงของงานองค์กรการกุศล” ซึ่งกล่าวหาเธอว่า เผยแพร่คำโป้ปด สำหรับเธอในฐานะคาทอลิกที่สวดภาวนาและทำสมาธิทุกวัน นี่เป็นการประณามกันอย่างร้ายแรง (“ไม่ว่าคุณจะเรียกมันว่าอะไร”) “มันเป็นเรื่องที่สร้างความกระอักกระอ่วนใจมาก” Gates บอก “ในการพูดถึงเรื่องเพศ การสืบพันธุ์ และเครื่องมือต่างๆ แต่นี่เป็นสิ่งที่เราคุยกันภายในมูลนิธิ” Gates ได้บทเรียนที่มีคุณค่า 2 บท สิ่งแรกคือ เมื่อเธอพูดด้วยอำนาจแห่งศรัทธาและทรัพยากรที่มี โลกจะรับฟัง และสองคือ เธอแข็งแกร่ง “พวกเขาพากันพูดว่าคุณนาย Gates เข้าใจผิดไปขนาดไหนและเธอคงถูกคนที่ต้องการขายผลิตภัณฑ์ด้านการวางแผนครอบครัวชี้นำไปแบบผิดๆ” Bill Gates เล่า เขามอบหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวให้เธอเป็นของขวัญ ซึ่งเธอเอาใส่กรอบไว้ในห้องทำงานที่สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิที่ Seattle “ผมให้เธอเก็บไว้เพราะเธอตกลงใจแล้วว่าจะพูดสิ่งที่ตรงกับใจ และเผชิญหน้ากับข้อโต้แย้ง ประเด็นพวกนี้มีความซับซ้อนแต่เธอเลือกที่จะทำ” โครงการริเริ่มด้านการวางแผนครอบครัวของ Gates ค่อยๆ เปลี่ยนเป้าหมายไปยังสตรีตั้งครรภ์ โดยมุ่งเน้นสุขภาพของคุณแม่ รวมทั้งผู้ที่ตั้งครรภ์ เมื่อทำงานในด้านนี้แล้ว สิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือสุขภาพของทารก อันนำไปสู่พันธะสัญญาในการสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กหญิง แล้วเด็กๆ เหล่านี้ควรทำอะไรเมื่อเรียนจบ Gates เธอจึงให้ไฟเขียวกับโครงการจำนวนมากที่เป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดย่อม อาทิ การทำไร่ขนาดเล็ก และธนาคารเคลื่อนที่ ผลที่ได้ก็คือมาตรการมากมายสำหรับสตรีและเด็กหญิงตลอดชีวิตของพวกเธอ มูลนิธิไม่ได้แจกแจงรายละเอียดว่าใช้เงินไปมากเท่าไรในโครงการเหล่านี้ เพราะมันถูกรวมเข้ากับค่าใช้จ่ายปี 2014 จำนวน 3.9 พันล้านเหรียญของมูลนิธิ ซึ่งวัดว่าแต่ละโครงการเป็นประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมายมากน้อยแค่ไหน เธอยังได้ก่อตั้ง ZanaAfrica Group ที่ประเทศเคนยา ดำเนินโครงการเกี่ยวกับผ้าอนามัย เด็กผู้หญิงในประเทศยากจนหลายประเทศต้องหยุดเรียนในช่วงที่มีประจำเดือนหรือแม้กระทั่งต้องออกจากโรงเรียน โดยที่แอฟริกามีสถิติมากถึง 1 ใน 10 คน โครงการเกือบถูกพับแต่ท้ายที่สุดได้รับเงินช่วยเหลือ 2.6 ล้านเหรียญ ปีหน้านี้ คงจะมีการให้ทุนเพิ่มเติมจากโครงการชื่อยาวที่ว่า “Putting Women and Girls at the Center of Development Challenge” (สตรีและเด็ก: ศูนย์กลางความท้าทายของการพัฒนา) ผู้ที่ได้รับทุนราว 20 คน จะได้รับเงินช่วยเหลือรวมกันแล้วมากกว่า 20 ล้านเหรียญ สำหรับโครงการที่มุ่งเน้นในด้านเพศสภาวะ มันเป็นเงินจำนวนน้อยนิดสำหรับ Gates แต่เธอได้ส่งสัญญาณว่าเธอเปิดกว้างสำหรับกลุ่มองค์กรที่ให้น้ำหนักกับสตรีและเด็กหญิงมากกว่าจะเป็นแค่ผลพลอยได้ และยังเป็นก้าวแรกที่นำไปสู่สิ่งที่ Gates หวังจะให้เป็นหน่วยงานกลางสำหรับผู้ที่สนใจจะมาช่วยเหลืองานด้านนี้ กลับไปที่ Berlin หลังอาหารค่ำที่รัฐบาลเป็นฝ่ายจัดเลี้ยง ณ ทำเนียบนายกฯ Gates เดินทางไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัว อีกฟากเมืองจากสนามบิน โลกอีกใบที่แตกต่างจากสำนักงานของผู้ปกครองประเทศสูงสุดที่เธอเพิ่งจากมา คืออาคารรัฐบาลที่มีผู้อพยพทั้งชาวซีเรียและอื่นๆ หลายพันคน กำลังรอขึ้นทะเบียนเพื่อขอลี้ภัย “ตอนที่คุณได้เห็นภาพเด็กเกยตื้นที่ชายหาด คุณจะพบว่ามีแต่ใบหน้าผู้หญิงหรือแม่สักคนผุดขึ้นในหัว” เธอกล่าว มูลนิธิ Gates Foundation ถูกออกแบบให้ทำงานได้ไว ทั้งคู่กำหนดว่าทรัพย์สินทั้งหมดจะต้องถูกนำไปใช้ต่อยอด และองค์กรจะค่อยๆ ยุติการทำงานและปิดตัวลงภายใน 20 ปี หลังการเสียชีวิตของผู้ร่วมก่อตั้งคนสุดท้าย ดังนั้น Gates จึงให้เงินราว 17.5 ล้านเหรียญ ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ผู้ลี้ภัยตะวันออกกลาง อันเป็นการลงทุนที่โลกมองว่าช่วยบรรเทาทุกข์ ขณะที่ Melinda เองเห็นว่าเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาชีวิตของเหล่าสตรียากไร้ เรื่อง: CAROLINE HOWARD เรียบเรียง: เอมวลี อัศวเปรม อ่านเพิ่มเติม: Microsoft เกือบขึ้นแท่นบริษัทสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าสูงแตะ 2 ล้านล้านเหรียญ ต่อจาก Appleอ่านฉบับเต็ม "ยอดหญิงนักบุญของเหล่าสตรี" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ February 2016 ได้ในรูปแบบ E-Magazine