ON DECK CAPITAL นำวิธีการผูกข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อให้สินเชื่อธุรกิจรายย่อย อย่างรวดเร็ว
On Deck ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2006 บริษัทจะใช้ข้อมูลและอัลกอริทึมในการอนุมัติสินเชื่อธุรกิจรายย่อยได้อย่างรวดเร็ว ทั้งที่เป็นกลุ่มที่ธนาคารหลายแห่งไม่ต้องการปล่อยสินเชื่อให้มากนัก วงเงินสินเชื่อของ On Deck มีตั้งแต่ 5,000 ไปจนถึง 5 แสนเหรียญ โดยมี JPMorgan Chase และ Celtic Bank ใน Utah อยู่ในกลุ่มพันธมิตรรายใหญ่ที่สุดสำหรับ Celtic รับผิดชอบสินเชื่อของบริษัทราว 20% ภายในปี 2013 on Deck สามารถให้สินเชื่อไปแล้ว 400 ล้านเหรียญ แม้ว่าจะคิดอัตราดอกเบี้ยสูงลิบถึง 36% ต่อมาในเดือนมีนาคม 2014 บริษัทระดมทุนได้ 77 ล้านเหรียญจาก Tiger Global ของ Chase Coleman รวมทั้งผู้ลงทุนอื่นๆ อีกไม่กี่เดือนถัดมาบริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์เพียงวันแรกที่ทำการซื้อขาย หุ้น On Deck ทะยาน 40% โดยมีมูลค่า 1.9 พันล้านเหรียญ แต่จากนั้นมาก็เป็นช่วงเวลาขาลง เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น การเติบโตที่ชะลอตัวลง ประกอบกับกลุ่มคู่แข่งรายใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Fundbox, Kabbage หรือ BlueVine ได้รับความนิยมมากกว่าช่วงต้นปี 2017 On Deck รายงานว่า อัตราการตัดบัญชีหนี้สูญสุทธิสำหรับสินเชื่อของบริษัทอยู่ที่ 15% เหตุจากการผิดนัดชำระหนี้ อีก 2 ปีให้หลัง JPMorgan ประกาศว่า จะหยุดความร่วมมือกับบริษัท เดิมทีบริษัทมีกลยุทธ์ที่จะ “โต โต โต แต่ไม่ได้แปลว่าผลประกอบการในส่วนของ สินเชื่อจะออกมาดีเสมอไป” Giuliano Bologna นักวิเคราะห์ประจำวาณิชธนกิจ BTIG กล่าว “คนเริ่มรู้แล้วว่าเวลาที่มีเทคโนโลยีเข้ามามากๆ เขาให้ความสนใจเงินมากกว่าเทคโนโลยี” นับตั้งแต่ IPO ในครั้งนั้น หุ้น On Deck มีราคาตกลงถึง 75%คลิกอ่านบทความทางธุรกิจที่น่าสนใจ ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2563 ในรูปแบบ e-magazine