Meg Whitman มหาเศรษฐีพันล้าน ผู้สร้าง Quibi - Forbes Thailand

Meg Whitman มหาเศรษฐีพันล้าน ผู้สร้าง Quibi

FORBES THAILAND / ADMIN
05 Nov 2020 | 11:10 AM
READ 1457

โลกกำลังอยู่ท่ามกลางคลื่นบริการสตรีมมิ่งโหมกระหน่ำ และ Meg Whitman ก็มีความมั่งคั่งอยู่แล้ว แต่หลังจากที่ Jeffrey Katzenberg ชวนเข้าร่วมงานกับสตาร์ทอัพที่เน้นพัฒนาแพลตฟอร์มบนมือถือ ด้วยเงินที่ระดมทุนได้เกือบ 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และการล็อกดาวน์สหรัฐฯ เหล่าผู้บริโภคอาจไม่มีทางเลือกนอกจากกลองใช้ Quibi

หลังจาก Meg Whitman ประกาศว่า เธอจะลงจากตำแหน่งซีอีโอของ Hewlett Packard Enterprise ในเดือนพฤศจิกายน 2017 ไม่กี่นาที โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เป็น Jeffrey Katzenberg ที่โทรศัพท์มา ซึ่งเขาเป็นคนที่เธอรู้จักมาตั้งแต่สมัยที่ทั้งคู่ยังทำงานให้ Disney ในช่วงปลายยุค 1980 และต้นยุค 90 Whitman อยู่ฝ่ายการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ส่วน Katzenberg ดูแลสตูดิโอภาพยนตร์

“คุณทำอะไรอยู่?” Whitman จำที่เพื่อนเธอถามได้ “ฉันไม่รู้” เธอตอบ “ฉันเป็นประธาน Teach for America และฉันอาจไปทำอะไรร่วมกับสามีและออกไปท่องเที่ยว” เขาเลยพูดต่อว่า “ไม่ แล้วคืนนี้คุณทำอะไร” และฉันก็พูดว่า “รู้กันอยู่ Jeffrey ฉันก็จะกินข้าวกับคุณน่ะสิ”

Katzenberg บินไปยัง Silicon Valley และระหว่างมื้อค่ำที่ Nobu ใน Palo Alto ได้เสนอความคิดของเขาเรื่องการนำความบันเทิงชั้นเยี่ยมมาไว้ในโทรศัพท์มือถือ สำหรับ Whitman แล้วความคิดนั้นตรงตามที่เธอต้องการทั้งหมด ตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสำหรับธุรกิจบริการนั้นกว้างใหญ่ แนวโน้มเทรนด์ที่ปรากฏในตอนนี้ถูกต้องแล้ว และนี่ครองตลาดเฉพาะกลุ่มสูงอย่างชัดเจน

“ฉันพูดในท้ายที่สุดว่า คุณรู้อะไรไหม ฉันคิดว่าฉันมีสตาร์ทอัพอีกแห่งในตัวฉันเอง” Whitman วัย 63 ปีกล่าว ซึ่งร่ำรวยขึ้นมาครั้งแรก (เธอมีทรัพย์สิน 3.3 พันล้านเหรียญ) จากการทำงานร่วมกับ Pierre Omidyar ผู้ก่อตั้งธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์ เธอช่วยสร้าง eBay จากพนักงาน 30 คน และมีรายได้ 4 ล้านเหรียญ เมื่อเข้าร่วมทีมตอนปี 1998 จนเพิ่มเป็น 15,000 คน และมีรายได้ 8 พันล้านเหรียญเมื่อเธอลาออกในอีกทศวรรษต่อมา

“เรากำลังบุกเบิกเข้าไปในพื้นที่ซึ่งดำรงอยู่ได้เพราะ 2 สิ่งคือ YouTube และ Steve Jobs กับ iPhone” Katzenberg กล่าว “ตอนนี้ทั้งสองอย่างได้สร้างอสังหาริมทรัพย์ชิ้นใหม่ขึ้นมา ซึ่งเปิดอยู่ตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม...นั่นเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับผม”

2 ปีหลังจากมื้อค่ำวันนั้น Quibi (คำผสมสุดแปลกที่เกิดขึ้นจากคำว่า quick และ bites) ตั้งท่าเปิดตัวบริการสตรีมมิ่งบนมือถือ ซึ่งออกอากาศภาพยนตร์ที่ไม่เคยฉายมาก่อน รายการเรียลิตี้ รายการตลก และรายการข่าวที่ตัดต่อให้สั้นกะทัดรัดแค่ 10 นาที หรือสั้นกว่านั้น เพื่อให้เหมาะกับการรับชมบนมือถือมากที่สุด

หลายคนใน Hollywood คิดว่านั้นเป็นความคิดที่แย่มากในช่วงเวลาที่ผู้ชมต่างอยู่ท่ามกลางตัวเลือกความบันเทิงมากมาย ซึ่งหลายอย่างก็ฟรี แล้วใครจะยอมจ่ายเงินให้บริการอีกเจ้า “ถ้าผมกำลังจะดู Game of Thrones ความยาว 8 นาที อะไรคือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เขากำลังทำ และการที่ผมกดปุ่มหยุดเล่นล่ะ” วงในของ Hollywood ที่ทรงอิทธิพลรายหนึ่ง พูดเยาะๆ โดยเขาขอไม่เปิดเผยชื่อ เพราะลูกค้าของเขาขายรายการโชว์ให้ Quibi ด้าน Barry Diller ซึ่งน่าจะเป็นชาว Hollywood ผู้มีวิสัยทัศน์ยอดเยี่ยมที่สุดของยุคเขาขนานนาม Quibi เมื่อไม่นานนี้ว่าเป็น “การคาดเดาอันกล้าหาญ” สำหรับศิษย์เก่าของเขา (Katzenberg วัย 69 ปี ซึ่งเคยทำงานให้ Diller ที่ Paramount ในช่วงยุค 70) “เขาตัวเปล่าล่อนจ้อนเลยกับสิ่งนี้”

Meg Whitman
Meg Whitman อดีต ซีอีโอ Hewlett Packard Enterprise (ซ้าย) และ Jeffrey Katzenberg ผู้ร่วมก่อตั้ง Quibi (ขวา)

นี่ไม่ใช่ความคิดใหม่ ย้อนกลับไปเมื่อปี 1999 Katzenberg พยายามลองทำสิ่งที่คล้ายกันนี้กับ Pop.com ซึ่งควรฉายแอนิเมชั่นสั้นและภาพยนตร์สั้นทั่วอินเทอร์เน็ต ด้วยความที่เทคโนโลยีสำหรับการสตรีมมิ่งวิดีโอที่ใช้การได้อยู่ในช่วงตั้งไข่ พูดอย่างดีที่สุดคือ เป็นความคิดที่ไม่น่าเชื่อมั่นได้เลย แม้ได้รับการสนับสนุนจาก Steven Spielberg, David Geffen, Brian Grazer, Ron Howard และ Paul Allen ก็ตาม Pop.com ล้มหายตายจากไปภายในปีเดียว

คราวนี้ Katzenberg ระดมทุนได้มากพอสำหรับผลักดันความคิดนี้ออกมา ซึ่งรวมถึงเงิน 1 พันล้านเหรียญในเดือนสิงหาคม 2018 จากบริษัทอย่าง Alibaba, Disney และ Sony และยังบังเอิญได้มาอีก 750 ล้านเหรียญในการระดมทุนรอบต่อมาในเดือนมีนาคม เพียงไม่กี่วันก่อนไวรัสโคโรนาทำทั้งประเทศหยุดชะงัก “ฉันไม่เคยเห็นปัจจัยแวดล้อมเปลี่ยนไปเร็วแบบนี้มาก่อน” Whitman กล่าว

“ทุกวันเป็นวันใหม่ที่มาพร้อมข้อมูลใหม่และความกังวลใหม่” โชคดีที่ Kevin Hart และ Jennifer Lopez ทำโชว์ของพวกเขาเสร็จแล้ว และ Spielberg มีหนังเรื่องหนึ่งที่กำลังวางแผนถ่ายทำอยู่ ซึ่งดึงดูดข้อตกลงธุรกิจ “ทำเงินเพิ่ม” เข้ามา ทำให้พวกเขาได้ถือครองสิทธิ์ในตัวเนื้องาน หลังจากนั้น 2 ปี พวกเขายังสามารถมัดรวม “วิดีโอย่อยง่าย” ของพวกเขา แล้วปล่อยออกมาเป็นภาพยนตร์ตัวเต็มได้

การล็อกดาวน์สหรัฐอเมริกาที่เกิดขึ้นแบบไม่ได้ตั้งใจอาจสร้างช่วงเวลาอันเหมาะอย่างยิ่งสำหรับ Quibi ซึ่ง Nielsen คาดการณ์ว่าการรับชมสื่อจะพุ่งขึ้นมากถึง 60% เนื่องจากโควิด-19 ผู้คนจะรู้อย่างแน่นอนว่ามีบริการนี้อยู่ Quibi กำลังอัดงบมโหฬารจำนวน 400 ล้านเหรียญเพื่อประชาสัมพันธ์บริการใหม่นี้ และประกาศไปในกลางเดือนมีนาคมว่าจะให้บริการฟรีเป็นเวลา 3 เดือน

“นี่เป็นชั่วขณะหนึ่งซึ่งเรามีโอกาสทำบางสิ่งที่มอบความสุข ความสนุกสนาน และเสียงหัวเราะเข้าไปในมือผู้คน” Katzenberg กล่าว

Quibi ยังได้เปรียบเรื่องการมีคอนเทนต์สดใหม่จำนวนมาก ขณะที่การผลิตรายการโชว์และภาพยนตร์ใหม่ทั้งหมดหยุดลงเพราะโรคระบาด Quibi ได้ตุนสต็อกรายการไว้ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ท่ามกลางคาดการณ์ว่าการหยุดงานประท้วงของนักเขียนอาจเกิดขึ้นได้ จากความกลัวเหตุการณ์ปี 2008 ซ้ำรอย เมื่อการวอล์กเอาต์ของสหภาพทำให้กระบวนการผลิตงานใหม่หยุดลงเป็นเวลา 100 วัน

บริการนี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 6 เมษายน พร้อม 50 คอนเทนต์ ที่ไม่เคยออกอากาศมาก่อน ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์หลายตอนชวนติดตาม เช่น แนวระทึกขวัญอย่างเรื่อง Survive นำแสดงโดย Sophie Turner (Game of Thrones) และ Corey Hawkins (BlacKkKlansman) รายการเรียลิตี้และสารคดี 120 รายการ และยังมีข่าวพยากรณ์อากาศ และรายการกีฬา โดยรวมแล้ว Quibi ให้คำมั่นว่าจะนำเสนอคอนเทนต์ย่อยง่าย 8,500 ชิ้นจาก 175 รายการโชว์ในปีแรก

แต่คำถามมูลค่า 1.8 พันล้านเหรียญยังคงอยู่คือ จะมีใครยอมจ่ายเงินดูหรือเปล่า ผู้เล่นหลายรายใน Hollywood กำลังมีแนวคิดแบบ “DBA Jeffrey” - อย่าพนันคนละข้าง Jeffrey

“Jeffrey เคยเจอการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ 2-3 ครั้ังในชีวิตเขา และเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม” ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งของเอเจนซี่จัดหาบุคลากรรายใหญ่ของ Hollywood กล่าว “ถ้าคุณหลับหูหลับตาพนันข้าง Jeffrey Katzenberg เป็นเวลา 30 ปีที่ผ่านมา คุณคงทำเงินได้เยอะแล้ว”

 


คลิกอ่านฉบับเต็ม “ชายผู้งัดข้อกับเจ้าหน้าที่รัฐ” ได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2563 ในรูปแบบ e-magazine