ตระกูล Doan ยกฐานะจากภาวะล้มละลายและการยังชีพด้วยแสตมป์อาหาร มาเป็นผู้ก่อตั้ง Missouri Star Quilt Co. ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญกันใน YouTube และสามารถเปลี่ยนเมืองเล็กๆ ให้กลายเป็นสถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวอยากมาเยือนได้
Jenny Doan ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นแม่บ้านผู้ประสบภาวะล้มละลายในรัฐ California Jenny เล่าถึงปฏิกิริยาของตัวเองเมื่อปี 2009 เมื่อลูกชายคนหนึ่งแนะนำให้เธอโพสต์คลิปวิดีโอสอนวิธีทำงานควิลท์ลง YouTube
Jenny Doan ซึ่งปัจจุบันอายุ 60 ปีได้กล่าวในตอนนั้นว่า “YouTube นี่ไม่ใช่สำหรับพวกวัยรุ่นบ้าระห่ำไว้โพสต์คลิปวิดีโอหรอกหรือ”
9 ปีต่อมา คลิปวิดีโอกว่า 500 คลิปของเธอมีสถิติการรับชมถึง 135 ล้านครั้งและสร้างรายได้ให้กับ Missouri Star Quilt ธุรกิจครอบครัวซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกผ้าราว 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี โดยเห็นพ้องต้องกันว่าบริษัทจะสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งได้ถ้าหากมีสถานที่ให้แฟนๆ ที่ติดตาม Jenny ผ่าน YouTube สามารถพบเจอตัวจริงของเธอได้
ตระกูล Doan จึงสร้างเมือง Hamilton ในรัฐ Missouri (ประชากร 1,900 คน) ซึ่งทั้งเมืองมีเสาไฟสัญญาณจราจรเพียงต้นเดียวขึ้นใหม่ให้เป็นอาณาจักรที่พวกเขาเรียกว่า “แดนสวรรค์ของงานควิลท์” ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากถึง 8,000 คนต่อเดือน
นอกจากหุ้นส่วน 50% ในภัตตาคาร Blue Sage แล้ว Missouri Star ยังได้รับผลประโยชน์ที่เป็นตัวเงินจากภัตตาคารใน Hamilton อีก 3 แห่งซึ่งให้บริการกับผู้ที่เดินทางมาเพื่อซื้อสินค้าที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับงานควิลท์ทั้ง 12 แห่งของบริษัท
ผู้ชื่นชอบงานควิลท์ที่ยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินจำนวน 400 เหรียญจะสามารถใช้เวลา 4 วันที่เมือง Hamilton ทำงานเย็บปักถักร้อยในขณะที่สวมใส่ชุดนอนตัวเก่ง เข้าคลาสสอนงานฝีมือแบบต่างๆ ความโด่งดังของงานควิลท์ทำให้ Missouri Star กลายเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีจำนวนพนักงานมากที่สุดในละแวกนี้ โดยปัจจุบันมีจำนวนพนักงานมากถึง 450 คน
Michael Mifsud วัย 30 ปี ซึ่งสนิทสนมกับตระกูล Doan และเข้ามาดำรงตำแหน่งซีอีโอเมื่อเดือนมกราคม 2017 กล่าวว่า ยอดขายสินค้าหน้าร้านคิดเป็น 10% ของรายได้ทั้งหมดของ Missouri Star รายได้ส่วนที่เหลือมาจากการจำหน่ายผ้าผ่านออนไลน์
ก่อนที่จะย้ายมาพำนักที่ Hamilton ในปี 1995 ตระกูล Doan เคยต้องใช้ชีวิตอย่างกระเบียดกระเสียรอยู่ในเมือง Greenfield
Ron สามีของ Jenny ซึ่งปัจจุบันอายุ 64 ปี เคยมีรายได้ 60,000 เหรียญต่อปีจากการทำงานเป็นช่างซ่อมเครื่องจักรในโรงงานผลิตแยม Smucker เมื่อลูกชายคนสุดท้องตรวจพบว่ามีเนื้องอกในต่อมน้ำเหลือง (ซึ่งภายหลังตรวจสอบแล้วว่าเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง) ค่ารักษาพยาบาลทำให้ตระกูล Doan ต้องประกาศล้มละลายในที่สุด
เพื่อมองหาที่อยู่ใหม่ซึ่งมีค่าครองชีพต่ำกว่าเดิมและมีสภาพเป็นชนบทมากขึ้น พวกเขากางแผนที่ดูและในที่สุดก็เลือกเมือง Hamilton ซึ่งอยู่ห่างจาก Kansas City ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เป็นที่พำนักใหม่ของ Ron, Jenny และลูกๆ 7 คน
หลังจากย้ายที่อยู่ Ron ก็ได้งานใหม่เป็นช่างซ่อมเครื่องจักรที่ Kansas City Star ในขณะที่ Jenny เริ่มทำงานควิลท์เป็นงานอดิเรก Sarah ลูกสาวคนหนึ่งของเธอจึงนำบ้านไปจำนองเป็นรอบที่ 2 และซื้อจักรควิลท์ระบบคอมพิวเตอร์ราคา 36,000 เหรียญให้ Jenny ทั้งคู่ซื้อร้านขายของเก่าซึ่งเลิกกิจการแล้วในราคา 24,000 เหรียญให้ Jenny ตั้งจักร โดยคำนวณว่า Jenny จะสามารถทำเงินได้ 40,000 เหรียญต่อปีจากการรับจ้างทำงานควิลท์ให้กับลูกค้า
Alan ลูกชายคนหนึ่งของพวกเขาเคยเป็นมิชชันนารีเผยแผ่ศาสนาคริสต์นิกาย Mormon ก่อนจะไปเรียนต่อปริญญาตรีและทำงานในบริษัทซอฟต์แวร์ แต่ทว่าเขากลับถูกเลิกจ้างในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ Alan จึงไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนสนิท David Misfud ในช่วงปี 2009
ด้วยเหตุนี้ Alan และ Mifsud จึงเริ่มก่อตั้งเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซ QuiltersDailyDeal.com ขึ้นเพื่อช่วยประคับประคองกิจการใหม่ถอดด้ามของ Jenny นอกจากนี้ Alan ยังโน้มน้าวให้ Jenny ยินยอมให้เขาถ่ายวิดีโอจำนวน 10 คลิปเพื่อโปรโมทเว็บไซต์ หลังจากนั้นก็เริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามาเรื่อยๆ
พวกเขาถ่ายคลิปอย่างสม่ำเสมอจนถึงปี 2013 Jenny ก็กลายเป็นดาราบน YouTube พร้อมกับที่พวกเขาขยายหน้าร้านเพิ่มอีก 1 แห่งในเมือง Hamilton รายได้ต่อปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 4 ล้านเหรียญ และบรรดาแฟนคลับของ Jenny ก็แห่มาที่ Hamilton
Alan จึงย้ายกลับมาที่เมืองนี้เพื่อช่วยดูแลเว็บไซต์ นักวางแผนการเงินรับอนุญาตอย่าง Mifsud ดูแลเรื่องบัญชีจากบ้านพักของตัวเองใน Toronto ส่วน Sarah ก็ดูแลเรื่องพนักงาน การออกแบบร้าน และการคัดเลือกผ้า
Mifsud ได้โน้มน้าวให้ Mike ผู้เป็นน้องชายซึ่งเป็นบัณฑิตจาก Utah State ให้ลาออกจากงานในตำแหน่งนักวิเคราะห์ความเสี่ยงสินเชื่อของ Goldman Sachs ประจำสำนักงานสาขา Salt Lake City มาเซ็นสัญญารับงานในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินด้วยค่าจ้าง 15 เหรียญต่อชั่วโมง
ทว่าในระหว่างที่ยอดขายของ Missouri Star พุ่งขึ้น ระบบของบริษัทกลับพังไม่เป็นท่า ถึงแม้ว่า Alan จะออกแบบซอฟต์แวร์เฉพาะเพื่อจัดการคำสั่งซื้อ แต่ผ้าหลายพันรายการที่บริษัทจำหน่ายกลับกระจัดกระจายอยู่ในโกดังและตามร้านค้าต่างๆ บางครั้งผ้าก็สูญหายในระหว่างการขนส่งจนทำให้สินค้าจัดส่งล่าช้า
สุดท้ายลูกค้าที่ไม่พอใจบริการ 20 คนได้รวมตัวกันมาช่วยแก้ปัญหา สร้างระบบโกดังใหม่ที่มีสายพานซึ่งช่วยในการปิดผนึกและคัดแยกบรรจุภัณฑ์ในปี 2016
ในเดือนสิงหาคม 2016 Alan, Sarah และ David Mifsud ซึ่งตระหนักดีถึงจุดอ่อนของตนเองในฐานะผู้จัดการ และรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน ก็เห็นพ้องต้องกันว่าจะจัดตั้งทีมคณะกรรมการบริหารบริษัทและเลื่อนตำแหน่งให้ Mike Mifsud ขึ้นเป็นซีอีโอ
ตลาดงานควิลท์ในสหรัฐฯ มีมูลค่ารวม 3.7 พันล้านเหรียญตามข้อมูลจาก Quilts Inc. บริษัทใน Houston ซึ่งจัดงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับงานควิลท์เป็นประจำทุกปี แต่ Mike กล่าวว่าส่วนแบ่งตลาดเพียงแค่ราว 200 ล้านเหรียญเท่านั้นที่มาจากระบบออนไลน์ ในขณะนี้แผนการที่วางไว้ก็คือการขยายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของ Missouri Star อย่างค่อยเป็นค่อยไปพร้อมๆ กับวางแผนขยายธุรกิจใน Hamilton
ถึงแม้จะมีอดีตพนักงานจาก Goldman Sachs ทำงานใน Missouri Star หลายคนแต่บริษัทก็ยังคงเป็นธุรกิจครอบครัว นอกจากนี้ Jenny ยังคงออกแบบงานควิลท์ใหม่ทุกสัปดาห์ บันทึกวิดีโอสอนวิธีทำงานควิลท์ 4 คลิปต่อเดือน และเดินทางไปร่วมการชุมนุมที่จัดขึ้นทั่วประเทศซึ่งตัวเธอและ Ron จะจัดแสดงสินค้ารอบพิเศษ โดยสินค้าที่นำมาแสดงมักจะขายหมดเสมอ
Jenny กล่าวว่า “ฉันรักในสิ่งที่ตัวฉันทำ ฉันพูดไปพลางเย็บผ้าไปพลาง”
เรื่อง: Susan Adams
เรียบเรียง: ริศา, เอมวลี อัศวเปรม
คลิกอ่านฉบับเต็ม "แดนสวรรค์ของงานควิลท์" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ กรกฎาคม 2561 ในรูปแบบ e-Magazine